ทอม นักธุรกิจชื่อดัง ขอโทษ "อนุทิน โรม ไอซ์" ยันวงกินข้าวไม่มีดีลลับ
ทอม เครือโสภณ นักธุรกิจชื่อดัง ขอโทษ "อนุทิน โรม ไอซ์" ยืนยันวงกินข้าวไม่มีดีลลับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายทอม เครือโสภณ นักธุรกิจชื่อดัง ได้เผยแพร่คลิปผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีวงกินข้าวระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ นายรังสิมันต์ โรม และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.บัญชีรายชื่อ
โดยระบุแคปชั่นในคลิปว่า ผมผิดแล้วผมขอโทษเรื่องราม่าตอนนี้ความผิดอยู่กับผมคนเดียว
ตนทำคลิปนี้ เพื่อรับผิดชอบที่ได้ทำให้คนอื่นเสียดาย มีการนัดกินข้าวกันระหว่าง นายรังสิมันต์ น.ส.รักชนก และ นายอนุทิน เพราะตนไม่ได้คิดว่าจะเป็นดรามา ยืนยันว่าตนไม่ได้แฉ เพราะไม่มีดีลลับอะไร ที่พูดออกมาเจตนาอยากพูดให้ทุกคนฟังว่าคนเราสามารถเจอกันได้ มันไม่เสียหายตรงไหน ต้องขอโทษนายโรม ที่ต้องนำมาอยู่ในปัญหานี้
โรมกับตนรู้จักกัน เพราะมีทนายคนหนึ่ง มีช่วยดูแลคดีเรื่องคอลเซ็นเตอร์ วันหนึ่งสมัยที่คุณอนุทิน ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ ตนก็ถามโรมว่า เคยเจออนุทินไหม ว่างๆเจอกันไหม เดี๋ยวนัดให้ ทั้ง 2 คนก็ว่าดี เลยนัดกินข้าวกัน แต่ว่านัดไม่ได้เพราะยุ่ง จึงมาเจอกันหลังจากพ้นตำแหน่งแล้ว ในวงวันนั้นได้ทำความรู้จัก คุยเรื่องคอลเซ็นเตอร์ ปิดไฟฟ้าที่กัมพูชา โรมยังชมเลยว่า ดีที่ปิดไฟเห็นด้วย แต่บทสนทนาที่สั้นๆในบทสนทนาที่ยาวมาก แล้วก็ไม่ได้เป็นบทสนาที่แตกต่างไปจากที่ คุณเท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนพูดเลย ไม่มีความลับ ดีลลับอะไร แต่มันเป็นจุดยืนของพรรคประชาชนว่า ถ้าต้องเลือกนายกฯใหม่ เขาจะยื่นข้อเสนอ 3 หรือ 7 ข้อขึ้นมา
ขอยืนยันว่าในวงวันนั้นไม่ใช่ดีลลับ แต่สื่อพาดหัวแฉโน้นแฉนี่ ทั้งๆที่มันไม่ใช่การแฉ มันเป็นการไปกินข้าวกัน กลางโรงแรมในกรุงเทพ ถ้าแฉคงไม่ไปกินข้าวที่โรงแรมหรอก คนเห็นเยอะแยะ ไม่มีดีลลับอะไรเลย สิ่งที่คุยกันคือสิ่งที่นายณัฐพงษ์ กับ นายอนุทินได้คุยกันไม่มีความลับอะไร แต่สิ่งที่ตนพูดในรายการ ทำให้ ทั้ง 3 คน และพรรคภูมิใจไทยเสียหาย ตนขอโทษ และขอรับผิดชอบ คนที่ผิดคือ ทอม
เราต้องเดินข้ามการแตกแยกได้แล้ว การที่ตนพยายามให้ทุกคนมาเจอกันเป็นสิ่งที่ผิดก็ช่วยไม่ได้ แต่ตนจะไม่หยุดทำ ตนคิดว่าการคุยกันการเจรจากันรู้กันกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ขอบคุณโรมที่ส่งข้อความหาแล้ว โดยที่โรมก็ตอบกลับมาอย่างมืออาชีพ เหมือนกับคุณอนุทินที่เข้าใจเจตนาของตน คนพวกนี้เขาเป็นผู้ใหญ่ ขอบคุณทั้งคู่ แต่ตนได้บทเรียนว่า ต้องระมัดระวังสื่อให้มากกว่านี้ เพราะคำพูดที่เจตนาดี เอาไปบิดเบือนเป็น กลายเป็นสิ่งที่เลวได้
Advertisement
