เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 68 ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีการนับสืบพยานกรณีนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐาน "ดูหมิ่นสถาบันฯ" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
โดยบรรยากาศที่ศาลอาญารัชดา มีสื่อมวลชนจำนวนมากมาเฝ้าปักหลักในการทำข่าวครั้งนี้ โดยเมื่อเวลา 07.55 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดาด้วย แต่เจ้าตัวไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ต่อมาเวลา 08.25 น. นาย วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวนาย ทักษิณ ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาและได้ให้สัมภาษณ์ โดยนายวิญญัติ ระบุว่า ศาลได้นัดสืบพยานแบบต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน คือ วันที่ 1 ก.ค.-3 ก.ค. 68 โดยฝั่งโจทก์มีพยานทั้งหมด 10 ปาก จำเลย 14 ปาก พร้อมบอกว่าการสืบพยานมีทั้งหมด 7 นัด แต่สามารถเสร็จก่อน 7 นัดได้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของศาล ส่วนนัดสุดท้ายในการสืบพยานคือวันที่ 23 ก.ค.นี้
สำหรับอัยการที่เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร วันนี้ถือว่าเป็นนัดแรกใน 3 นัด ที่โจทก์นำพยานหลักฐานขึ้นสืบพยานในข้อหาความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยฝ่ายโจทก์จะนำพยาน 3 ปากที่ได้นัดไว้จาก 10 ปากมาขึ้นเบิกความ และทนายฝ่ายจำเลยถามค้าน ส่วนกระบวนการพิจารณาก็มีเพียงเท่านี้ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่นายทักษิณจะขึ้นมาเบิกความ
เมื่อถามว่า นายทักษิณจะต้องเดินทางมาที่ศาลอาญาทุกรอบเลยหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณา ซึ่งนายทักษิณจะต้องมาปรากฏตัวต่อศาล เพราะในวันนี้เป็นนัดแรก ส่วนหลังจากนี้จะต้องดูว่าศาลจะออกข้อกำหนดในการพิจารณาคดีว่าอย่างไร เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และราบรื่นต่อการพิจารณาคดี
เมื่อถามว่า จะมีการพิจารณาลับหลังจำเลยหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า ตามประมวลกฎหมายพิจารณาคดีอาญาการจะขอสืบพยานลับหลังจะต้องมีอัตราโทษไม่เกิน 10 ปี แต่คดีนี้สูงกว่า 10 ปี และอาจเป็นข้อยกเว้น แต่ถ้าหากจำเป็น และจำเลยมีทนายอยู่แล้ว ก็ขอพิจารณาลับหลังได้ แต่นายวิญญัติ ยืนยันว่าเบื้องต้นนายทักษิณจะขอรับเข้าการพิจารณาคดีทุกรอบหากไม่นิดภารกิจ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าประเด็นที่ติดใจคือเรื่องการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่าอาจจะมีการแปลผิด ยังคงติดใจในประเด็นนี้อยู่หรือไม่ นายวิญญัติ ระบุ ภายใน 1-2 วัน จะมีการพิจารณาเรื่องคลิปการสัมภาษณ์อย่างแน่นอน และจะทำให้เห็นว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวน่าเชื่อถือหรือไม่ และมีการเก็บพยานหลักฐานมาได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นตอนในการพิสูจน์หลักฐาน ที่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อถามว่า ศาลจะให้น้ำหนักในเรื่องใด ในการพิจารณาคดี นายวิญญัติ ระบุว่า ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่านไม่สามารถก้าวล่วงท่านได้ ดังนั้นการพิจารณาคดีอาญามีหลักสำคัญ หลักเดียว จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง หรือไม่มีพยานหลักฐาน มีน้ำหนัก เพียงพอหรือไม่
นอกจากนี้บริเวณหน้าศาลอาญา มีประชาชนสวมเสื้อลายธงชาติไทย บนเสื้อมีข้อความ “คนไทยไม่ขายชาติ” ซึ่งจากการสอบถามกลุ่มคนดังกล่าว ทราบว่ารู้ กำหนดการที่นายทักษิณจะมาสืบพยานนัดแรก หวังว่านายทักษิณจะเห็นข้อความที่อยู่บนเสื้อ
จากนั้นเวลา 09.10 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อให้กำลังใจนายทักษิณ ซึ่งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว แต่นายสมชาย ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ว่า “วันนี้มาให้กำลังใจในฐานะประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น” ก่อนจะเดินทางเข้าสู่พื้นที่ศาล
เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตว่า ทนายความของนายทักษิณจะระบุชื่อ นายสมชายเป็นหนึ่งในพยานฝ่ายจำเลยหรือไม่นั้น นายสมชาย กล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว และมองว่าเป็นหน้าที่โดยตรงของทีมทนายความฝ่ายจำเลย ที่จะพิจารณาและเสนอรายชื่อพยานต่อศาลตามดุลยพินิจและกลยุทธ์ทางคดี
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 09.10 น. มีรายงานว่า นายทักษิณ ได้เดินทางมาถึงที่ศาลอาญารัชดา มาตามนัดสืบพยานของศาลในความผิดฐาน "ดูหมิ่นสถาบันฯ" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเข้าประตูด้านข้าง เพื่อขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดี ก่อนที่รถ Mercedes-Maybach สีดำ - เงิน ทะเบียน ธษ 267 กทม. ของนายทักษิณจะเข้ามาจอดบริเวณด้านข้างของศาล ที่มีสื่อมวลชนปักหลักรอทำข่าวอยู่
Advertisement