บิ๊กต่าย เผยการสอบสวนปมคลิปเสียง ฮุนเซน อาจเชิญนายกฯไทยเข้าสอบ ส่วนเอาผิดผู้นำฯกัมพูชา หรือไม่อยู่ที่พยานหลักฐาน
วันนี้ (23 มิถุนายน 2568) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยและอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เองก็เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชาว ทั้ง 2 ฝ่ายที่เดินทางมาตนเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน ทั้งสองฝ่ายได้นำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีความหนักใจอะไร ในวันเดียวกับที่รับเรื่องตนได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนพเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร
ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่าง สมเด็จฮุนเซนด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิด ผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน
กรณีที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กรณีปรากฏคลิปเสียงการพูดคุย ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฯ ฮุน เซน เป็นคนละกรณีกัน ต้องไปพิจารณาว่ารายละเอียด จะเข้าเงื่อนไขการรวมคดีของพรบ.ตำรวจหรือไม่ ความคืบหน้าขณะนี้ คือตำรวจไซเบอร์ได้สอบผู้กล่าวหาแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเช่นกัน
เมื่อถามว่าตำรวจไทยจะกล้าดำเนินคดีกับสมเด็จฮุนเซนหรือไม่ ผบ.ตร. ยืนยันว่า เกิดมาเป็นตำรวจเราก็ต้องไปตรงไปตรงมา ความกล้าเกิดตั้งแต่ได้ถูกอบรมสั่งสอนอุดมคติการเป็นตำรวจแล้ว จากที่ผ่านมาหลายคดีตำรวจเดินหน้าจับกุมผู้กระทำความผิดไม่มีเงื่อนไข
ส่วนจะต้องเรียกนายกรัฐมนตรีไทยมาสอบสวนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนและดุลยพินิจ เพราะบริบทคลิปเสียงเป็นการสนทนาระหว่างกัน เมื่อถามต่อว่าจะต้องรายงานที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ในฐานะผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. กล่าวว่า นายกฯจำเป็นต้องทราบในส่วนที่ต้องรายงาน
Advertisement