Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กต. ยัน ไทยพร้อมถก JBC 14 มิ.ย.ย้ำยึดผลประโยชน์ปชช.-อธิปไตยเป็นที่ตั้ง

กต. ยัน ไทยพร้อมถก JBC 14 มิ.ย.ย้ำยึดผลประโยชน์ปชช.-อธิปไตยเป็นที่ตั้ง

12 มิ.ย. 68
16:26 น.
แชร์

กต. ยัน ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา14 มิ.ย.ฝ่ายไทยพร้อมและมีความเชี่ยวชาญ ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและอธิปไตยเป็นที่ตั้งด้วยความสุจริต

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตามที่เมื่อวานนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประชุมภายในเพื่อเตรียมการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี เป็นครั้งที่ 2 นั้น

ก่อนที่จะมีการประชุมดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มอบนโยบายในการเจรจาโดยย้ำแนวทาง 3 เรื่อง ที่จะเป็นหลักของฝ่ายไทยนำไปเจรจาในการประชุมเจบีซี ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ที่ประเทศกัมพูชา คือ 1. การลดความตึงเครียดและทำให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ 2. ทำให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในเรื่องของเส้นเขตแดน เพื่อคลายปัญหาที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และ 3. การยืนหยัดที่จะปกป้องอธิปไตยของไทย โดยไม่ทำให้ไทยเสียดินแดนโดยเด็ดขาด

ฉะนั้นขอย้ำอีกครั้ง ว่าฝ่ายไทยมุ่งมั่นที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่แล้วในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็น เจบีซี จีบีซี หรือ อาร์บีซี รวมถึงบันทึกความเข้าใจ MOU 2543 ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำเขตแดนทางบก ที่ทั้ง 2 ประเทศได้ลงนามร่วมกันและต้องปฏิบัติตาม เนื่องจากเชื่อว่าเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุด ณ เวลานี้ และเป็นกลไกที่ได้รับการยอมรับตามธรรมเนียมปฏิบัติสากล เมื่อสองประเทศมีความเห็นไม่ตรงกันนานาประเทศก็จะสนับสนุนให้ใช้กลไกดังกล่าว เพื่อหาทางออกให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงได้มีโอกาสหารือกัน

กระทรวงฯ จึงขอใช้โอกาสนี้ให้ข้อมูลว่าการประชุมเจบีซี ที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 วันข้างหน้า จะเป็นกลไกทวิภาคีหลัก ในการเจรจาประเด็นทางเทคนิคและข้อกฎหมายด้านเขตแดน เพื่อให้เกิดการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนระหว่างกัน ฉะนั้นในการประชุมจึงมีองค์ประกอบคณะ ที่เต็มไปด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่มีความรู้และความผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคด้านเขตแดน ซึ่งสำหรับคณะกรรมาธิการเจบีซีฝ่ายไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งจากครม.เมื่อวันที่ 29 พ.ย. พ.ศ. 2567 จะมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานที่มีความรู้และความสามารถ โดยมี นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเขตแดนดีที่สุดคนหนึ่ง และได้รับการยอมรับจากข้าราชการในกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ส่วนกรรมาธิการอื่นๆ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพไทย กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ ฝ่ายกัมพูชา จะมี นาย นายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดน หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งกัมพูชา เป็นประธาน

สำหรับความตั้งใจของกัมพูชาที่จะใช้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ในการตัดสินข้อพิพาท โฆษก กต. ย้ำว่าไทยประกาศไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ปี 2503 จนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับ 118 ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติที่ไม่รับเขตอำนาจของ ICJ

ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้มั่นใจว่า คณะผู้แทนไทยที่จะไปประชุมร่วมกับฝ่ายกัมพูชา พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ด้วยความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ด้วยความสุจริต โดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนคนไทยและอธิปไตยเป็นที่ตั้ง ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ จะแถลงผลการประชุมให้ประชาชนได้เข้าใจและคลายข้อสงสัยด้วย

ส่วนรายละเอียดของการประชุมเจบีซีนั้น นายนิกรเดช กล่าวว่า ยังไม่สามารถอธิบายได้ เพราะขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคุยวาระกันไม่เสร็จสิ้น แต่ที่แน่ๆจะมีการสำรวจร่วมในหลักเขตแดน ฉะนั้นขอให้รอการอัพเดทต่อไป

การไปประชุม JBC ตามคำเชิญของกัมพูชาหมายความว่ากัมพูชายอมรับ MOU 2543 อยู่แล้ว โดยไทยมีวัตถุประสงค์จะบรรลุผลอยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถพูดได้เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเจรจา ขอให้รอหลังการประชุม JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.68 แต่สิ่งที่ต้องการคือ ไทยอยากให้การประชุม JBC ลดอุณหภูมิการเผชิญหน้าระหว่างกัน เชื่อว่าจะเป็นความหวังของฝ่ายกัมพูชาด้วย เราพูดโดยตลอดว่าเราต้องไปประชุมด้วยความจริงใจและสุจริตใจ

ทั้งนี้ หากไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะ 25 ปีที่ผ่านมาของการมี MOU 2543 ได้ปลดล็อคอะไรหลายอย่างตามแนวชายแดน 40 กว่าหลักเขต ไม่ใช่ว่าทุกปัญหาจะแก้ได้ภายในหนึ่งการประชุม ขอให้เริ่มมีการประชุมแล้วก็จะติดตามการประชุมครั้งต่อไป ในการประชุมอาจจะมีการตกลงในกรอบกว้างและนำไปสู่การทำงานร่วมกัน ดังนั้นการเผชิญหน้าหรือการมีความเห็นไม่ตรงกันที่ชายแดน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตกลงกันได้ในการประชุมครั้งเดียว ได้ก็ดี แต่ไม่อยากให้ความหวังว่าไปเจอกันที่เจบีซีแล้ว จะมีการลากเส้นเขตแดนกันเสร็จหมด คงไม่ใช่ เพราะจะต้องมีการเจรจาอย่างต่อเนื่อ

Advertisement

แชร์
กต. ยัน ไทยพร้อมถก JBC 14 มิ.ย.ย้ำยึดผลประโยชน์ปชช.-อธิปไตยเป็นที่ตั้ง