พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชาหลังเกิดการปะทะเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ล่าสุดสถานการณ์ตอนนี้ปกติดี เป็นไปตามที่ปรากฏในข่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ตอนนี้ก็มีการปรับกำลังตามสถานการณ์ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่สมรภูมิช่องบก แต่ตอนนี้กำลังหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมดก็ยังคงเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจริงๆ แล้วเจตนาของหน่วยงานความมั่นคงก็ต้องการจะถอนกำลัง เพื่อให้ชาวบ้านได้คลายความกังวลและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งก็ต้องรอดูสถานการณ์ให้ทั้งสองฝ่ายกลับไปอยู่ที่ตั้งตามเดิม
พล.ท.บุญสิน บอกต่อว่าหลังจากนี้ต้องรอดูการเจรจา JBC ในวันที่ 14 มิ.ย. ซึ่งทางฝั่งไทยหวังว่าการเจรจาจะออกมาในทิศทางที่ดี ซึ่งการปรับกำลังหรือการจะเปลี่ยนแปลงกำลังของหน่วยงานความมั่นคงจะเป็นไปในทิศทางใดอยู่ที่ผลการประชุมหลังวันที่ 14 มิ.ย. ทุกอย่างก็จะชัดเจนขึ้น
ส่วนท่าทีของประเทศกัมพูชาที่อาจจะคาดเดาท่าทียาก หลังจากถอยกำลังออกแต่ยังไม่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ จะสร้างความไม่ไว้วางใจในพื้นที่หรือไม่ พลโทบุญศิลบอกว่าหลายอย่างเราต้องให้เกียรติกัน กำลังของหน่วยงานความมั่นคงเป็นศักดิ์ศรีของแต่ละประเทศ จึงต้องใช้ว่า "ปรับกำลังตามสถานการณ์ 2 ฝ่ายร่วมกัน" กลับไปอยู่ที่จุดเดิม โดยเฉพาะตรงจุดบริเวณสมรภูมิช่องบกก็จะใช้วิธีลงไปพูดคุยกับฝั่งทหารกัมพูชา เป็น 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยไม่ต้องใช้อาวุธใช้การเจรจามือเปล่าแบบสันติวิธี และเพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยไม่ต้องระแวงซึ่งกันและกัน ซึ่งก่อนหน้านี้จะเป็นการพูดคุยเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เชื่อว่าพบหน้ากันบ่อยขึ้นเป็นเรื่องที่ดีกว่า โดยจะใช้แนวคูเลตที่ถมกลบไปแล้วเป็นจุดนัดพูดคุยกัน
พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า หลังจากมีการปรับกำลังแล้วยังไม่พบท่าทีที่ผิดปกติจากทางฝั่งของกัมพูชา แล้วจะต้องรอดูความชัดเจนจากผู้นำรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมทั้งมั่นใจว่าหลังการประชุมวันที่ 14 มิ.ย. นี้ ทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี
พล.ท.บุญสิน อยากสื่อสารไปถึงพี่น้องประชาชนกองทัพภาคที่ 2 ทำ ทุกอย่างตรงไปตรงมารวมไปถึงหน่วยงานความมั่นคงไม่ว่าจะเป็นหน่วยใดยึดถือผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก
Advertisement