เปิดประวัติ "บิ๊กสุ" อดีตนายกฯ คนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรม สิริอายุ 91 ปี
เปิดประวัติ "บิ๊กสุ" พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรม สิริอายุ 91 ปี เจ้าของวลี "เสียสัตย์เพื่อชาติ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุจินดา คราประยูร ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อเวลา 01.57 น. ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สิริอายุ 91 ปี 10 เดือน 4 วัน
สำหรับ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2476 ที่ตำบลบ้านช่างหล่อ อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี เป็นบุตรคนเล็กของจวง กับสมพงษ์ คราประยูร มีพี่สาวสองคน โดยครอบครัวเป็นข้าราชการกรมรถไฟ สมรสกับคุณหญิงวรรณี คราประยูร (สกุลเดิม หนุนภักดี) มีบุตรด้วยกัน 2 คน ได้แก่ พลเอก เจิดวุธ คราประยูร ที่ปรึกษาพิเศษ กองบัญชาการกองทัพไทย และ เจนวิทย์ คราประยูร
พล.อ.สุจินดา เริ่มเข้ารับราชการทหารตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 ได้รับพระราชทานยศ "ว่าที่ร้อยตรี " เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2501 ดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองร้อย กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 ก่อนจะเติบโตในแวดวงทหารในตำแหน่ง เจ้ากรมยุทธการทหารบก, ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการ, รองเสนาธิการทหารบก, ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก, รองผู้บัญชาการทหารบก จนกระทั่งวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2533 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก จนเมื่อถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2534 จึงได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดอีกตำแหน่งหนึ่ง ต่อจากพล.อ. สุนทร คงสมพงษ์ ที่เกษียณอายุราชการ
จากทหารสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พล.อ.สุจินดา เป็นบุคคลสำคัญในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่เข้ายึดอำนาจการปกครองจาก พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อวันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 จนกระทั่งหลังการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 พรรคการเมือง 5 พรรค คือ พรรคสามัคคีธรรม พรรคชาติไทย พรรคกิจสังคม พรรคประชากรไทย และพรรคราษฎร ได้ประกาศสนับสนุน นายณรงค์ วงศ์วรรณ หัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม ซึ่งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด ขึ้นเป็นนายกฯ แต่นายณรงค์ ติดบัญชีดำของสหรัฐ จึงหันมาสนับสนุนให้ พล.อ.สุจินดา เป็นนายกรัฐมนตรีแทน
พล.อ.สุจินดา สุจินดาได้รับพระบรมราชโองการให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2535 เมื่อเข้าดำรงตำแหน่งกล่าวว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ" ทั้งที่เคยพูดว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ สุจินดาได้แต่งตั้ง พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี เลขาธิการ รสช. ซึ่งเป็นพี่ชายของภรรยาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงถูกคัดค้านจากกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่ม
พฤษภาทมิฬ ฝันร้ายของประเทศไทย
หลังการขึ้นครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีท่ามกลางเสียงคัดค้านของประชาชน ร.ต.ฉลาด วรฉัตร จึงออกมาอดอาหารประท้วง และ พลตรี จำลอง ศรีเมือง ได้เป็นแกนนำการชุมนุมของประชาชนเพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.สุจินดาลาออกเนื่องจากเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ รสช. จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่สงบภายในประเทศ หรือ "พฤษภาทมิฬ" ขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 เหตุการณ์นี้ถือเป็นบันทึกครั้งสำคัญด้านประวัติศาสตร์การเมืองไทยเพราะเกิดจลาจลและการนองเลือดครั้งใหญ่
จนกระทั่งในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเชิญ พล.อ.สุจินดา และ พล.ต.จำลอง เข้าพบและดำรัสให้หันหน้าเข้าหากันเพื่อแก้ปัญหา หลังจากนั้น พล.อ.สุจินดาจึงลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปโดยอิสระและเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง
มีชัย ฤชุพันธุ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่คือ นายชวน หลีกภัย ในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2535 คณะรัฐมนตรีคณะที่ 48 ของรัฐบาลสุจินดาจึงพ้นจากตำแหน่งไปตามวาระ
Advertisement
