(3 มิ.ย. 2568) ที่สนามหลวง นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวปัญหาภายในพรรค ว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ตนได้มีการพูดคุยกับ สส. ภายในพรรคมาโดยตลอด แต่คิดว่าปัญหาอะไรก็พูดคุยกันได้ ก่อนย้ำว่าสมาชิกในพรรคยังคงอยู่กันแน่น
ส่วนล่าสุดมีการเปิดเผยภาพถ่ายการนัดรับประทานอาหารร่วมกันนั้น ซึ่ง สส. พูดคุยกับตนก็บอกว่าไปกินข้าวกันเฉยๆ และก่อนหน้านี้มีการปล่อยข่าวว่าจะมีการย้ายพรรค ก็มีการออกมาปฏิเสธ ตนคิดว่าเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็นเพียงการไปทานข้าวไม่มีอะไร แม้กระทั่งตนเองก็มีสส. มาทานข้าวด้วย เพียงแต่ไม่เคยเผยแพร่ภาพออกไป ตนเข้าใจว่าพรรคการเมืองเป็นเรื่องปกติที่อาจจะมีสิ่งที่คาใจกันบ้าง แต่สำหรับตนก็เปิดรับฟังอยู่แล้ว
ส่วนกระแสกดดัน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครทสช. นายเอกนัฏ ระบุว่า ตำแหน่งของ นายพีระพันธุ์ เป็นตำแหน่งที่สูงเพราะเป็นทั้งหัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรี ย่อมมีการกดดันเป็นธรรมดา การทำงานหลายครั้งต้องประสบกับความท้าทาย ซึ่งเชื่อว่าเขาเจอปัญหาแล้วไม่ค่อยพูด แต่สู้งานอย่างเดียว และเชื่อว่านายพีระพันธุ์ จะสามารถชี้แจงคดีได้ทั้งหมด และเท่าที่พูดคุยก็พร้อมที่จะไปชี้แจงต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช.
เมื่อถามถึงกรณีกระแสปรับคณะรัฐมนตรีที่มีชื่อติดอยู่ด้วยนั้น นายเอกนัฏ ระบุว่า ขณะนี้ก็ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ และตราบใดที่ยังอยู่ในตำแหน่งตนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งอำนาจการปรับคณะรัฐมนตรี เข้าใจกันดีว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่ามีการส่งสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้น นายเอกนัฏ ยืนยันว่าไม่มี ทั้งนายพีระพันธุ์และตนเอง ก็ยังไม่ได้รับการส่งสัญญาณ และที่ผ่านมาก็ยืนยันว่าทำงานร่วมกันกับนายกรัฐมนตรีได้เป็นอย่างดี ทุกนโยบายนำไปปฏิบัติ และให้การสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาทำงานกันด้วยดีมาโดยตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไร
ส่วนที่มีการเผยแพร่ประกาศข้อบังคับการพ้นสมาชิกภาพของพรรค และการสร้างความแตกแยก หมายถึงกรณีของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือไม่ นายเอกนัฏ ระบุว่า การแก้ไขข้อบังคับพรรคแก้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพราะมีการประชุมใหญ่พรรคเพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก เพราะตั้งแต่ตั้งพรรคมาเท่าที่ดูก็ยังยังหลวมๆ อยู่ จึงพยายามปรับแก้ให้มีความชัดเจน และยึดโยงกับรัฐธรรมนูญ คงไม่ได้ไปแก้โดยล่วงรู้ก่อนหน้า และยืนยันว่าไม่ได้มีนัยยะอะไร การประชุมใหญ่ปกติทุกปี ก่อนที่จะยอมรับว่ายังเคลียร์ใจกับนายสุชาติแต่อย่างใด และไม่แน่อาจจะได้พูดคุยกันในวันนี้
Advertisement