Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ยิ่งชีพ เดือด ซัด สว.ภูมิใจไทย ชี้ 3 ข้อ โกงเลือกเข้าสู่สภาสูง

ยิ่งชีพ เดือด ซัด สว.ภูมิใจไทย ชี้ 3 ข้อ โกงเลือกเข้าสู่สภาสูง

25 พ.ค. 68
16:43 น.
แชร์

ยิ่งชีพ เดือด ซัด สว.ภูมิใจไทย ชี้ 3 ข้อ โกงเลือกเข้าสู่สภาสูง มองคดีในมือ กก.ร่วม ‘กกต.-ดีเอสไอ’ ไม่จบง่ายๆ

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.68 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สถาบันสังคมประชาธิปไตย คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) จัดเวทีประชาชนถกแถลงและอภิปราย “ข้อเสนอ ฮั้ว สว.จะจบอย่างไร? ” โดย นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ ilaw กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากทั้งตัวกฎหมายและคนที่บังคับใช้กฎหมายคือกกต. ทำให้การตีความไม่ชัดเจนและก่อปัญหาถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากเรียกว่า นี่เป็นการฮั้ว สว. เพราะระบบออกแบบมาให้ฮั้วอย่างถูกกฎหมาย คือถ้าผู้สมัครมานั่งคุยกัน 5-6 คน ตกลงว่าเลือกกัน กฎหมายให้ทำได้ หากไม่มีการแลกผลประโยชน์กัน ขณะที่การออกแบบกฎหมาย สัปดาห์แรกเลือกระดับอำเภอ เว้น 7 วันไปเลือกระดับจังหวัด และเว้นอีก 10 วันไปเลือกระดับประเทศ ซึ่งถ้าไม่ต้องการให้ฮั้วก็ควรจัดให้เลือกติดต่อกัน 3 วันเลย แต่การที่กฎหมายออกแบบเว้นการเลือกแต่ละระดับนานขึ้น เป็นการออกแบบมาเพื่อให้ฮั้วโดยจงใจ แต่ห้ามจัดตั้งซื้อเสียง จ้างไปลงสมัครและการให้ผลประโยชน์ตอบแทน ดังนั้นที่เป็นคดีกันอยู่ตอนนี้ตนอยากเรียกว่าเป็นการโกงการเลือกสว.

นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้มีหลักฐานสำคัญ 3 ชิ้นว่าการเลือกสว. ที่ผ่านมาไม่ใช่การลงคะแนนโดยอิสระ ไม่ใช่กระบวนการตามปกติ คือ 1. ทุกกลุ่มจะมีผู้สมัครที่ได้คะแนนล้นกระดาน จากที่กกต.เตรียมเอาไว้สูงสุดคือ 50 คะแนน แต่ปรากฏว่าแต่ละกลุ่มจะมีประมาณ 6 คนที่ได้คะแนนล้นกระด้าน 60-70 คะแนน สูงสุด 79 คะแนน 2. มีรูปแบบการโหวตรอบแรกเลือกได้ 10 หมายเลขจาก 154 หมายเลข ปรากฏว่าทุกชุดมีการเขียนหมายเลขแบบเดียวกัน เรียงแบบเดียวกัน 10-20 ใบ ทั้งที่โอกาสจะเกิดการซ้ำได้แค่ 2 ใบก็น้อยมากๆ 3. มีกลุ่มผู้สมัครสว.ที่ใส่เสื้อสีเหลือง แบบแกะออกจากซองใหม่ๆ ทับด้วยสูท และหอบแฟ้มจำนวนหลายร้อยคน หากมี 1 คนซื้อมาให้ถือว่าผิดเป็นการรับผลประโยชน์ ซึ่งข้อเท็จจริงก็ปรากฏชัดเจน พบเดินทางมาด้วยกันและกลับด้วยกันด้วยรถทะเบียนรถบุรีรัมย์ เพียงแค่นั่งรถคันเดียวกัน และมีแค่ 1 คนที่จ่ายแค่นี้ก็ผิดการให้ผลประโยชน์

“วันแรกๆ เราเรียกเขาว่าสว.สีน้ำเงิน แต่วันนี้เราพูดได้ตรงไปตรงมามากขึ้นโดยไม่ต้องอ้อมค้อม สว. กลุ่มหลักเป็นกลุ่มสว.ที่มีความเกี่ยวพันกับพรรคภูมิใจไทย พูดกันตรงไปตรงมาเลยเพราะทุกอย่างเปิดเผยชัดเจน สว.ชุดปัจจุบันมีอย่างน้ยอ 6 คนที่เมื่อปี 2566 สวมเสื้อภูมิใจไทยสมัครสส. แต่สอบตก ก็ลาออกและมาสมัครสว. และได้เป็นสว.” นายยิ่งชีพ กล่าว และว่ายังมีสว.อีกหลายคนที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยงานรัฐในยุคที่บิดานายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่ง และรวมถึงสมัครนายอนุทิน และรัฐมนตรี หรือบุคคลสำคัญในพรรคภูมิใจไทยด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกเยอะ ดังนั้นเมื่อดูประวัติทุกคนชัดเจนว่าสว.ชุดนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างแน่นแฟ้นกับพรรคการเมืองชื่อภูมิใจไทย และเมื่อเข้ามาทำงานก็นัดกันใส่เสื้อสีเหลือง เสื้อสีน้ำเงินไปประชุมวุฒิสภา เมื่อพรรคภูมิใจไทย เปลี่ยนทิศทางการโหวต สว. กลุ่มนี้ก็เปลี่ยนทิศทางการโหวตที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภูมิใจไทย

นายยิ่งชีพ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเรามีความหวังไม่มากกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพราะดีเอสไอไม่ได้มีอำนาจเยอะ ต้องไปก่ออำนาจทำงานร่วมกับกกต. ดีเอสไอมีอำนาจสูงสุดแค่สรุปสำนวนว่าน่าจะมีความผิดและส่งฟ้อง และคนที่ตัดสินก็จะเป็นศาล ซึ่งกระบวนการก็ไม่น่าจะเร็วต่อให้เร่งสุดๆ คิดว่าก็คงเสร็จปลายปีนี้ แต่เมื่อไปขึ้นศาลก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมีร้อยกว่าคน อาจติดภารกิจต้องเลื่อนการพิจารณา ดังนั้นจึงไม่คิดว่าจะเร็ว แต่การที่ดีเอสไอ เข้ามาทำคดี 2-3 เดือนที่ผ่านมาก็เป็นโอกาสที่ดีที่เกิดข้อถกเถียงในสังคม มีการเปิดข้อมูลจากดีเอสไอ และคนจำนวนมากที่ช่วยกันอธิบายว่ากระบวนการเลือกสว.ที่ผ่านมามีปัญหาไม่ปกติอย่างไร ทำให้ประชาชนร่วมกันรับรู้สถานการณ์จริง ข้อเท็จจริงได้มากขึ้น และหวังว่าประชาชนจะมีโอกาสรู้มากกว่านี้ และช่วยกันตระหนักถึงระบบการเลือกสว.อันเลวร้าย ที่มาสว.อันเลวร้ายและมองเห็นว่าสว.ชุดปัจจุบันไม่ได้ทำงานอย่างเป็นอิสระอย่างไร

“โอกาสน้อยมากที่สว. กลุ่มใหญ่ร้อยกว่าคนจะถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งและออกจากตำแหน่งภายในระยะเวลาใกล้ แต่สิ่งที่น่ากลัวมาก คือสว.กำลังจะลงมติเลือกกกต.ชุดใหม่ 1 คนเร็วๆ นี้ และอีก 2 คนปลายปีและอีก 2 คนประมาณต้นปีหน้าดังนั้นหากเขายังคงทำงานอยู่ก็จะเลือกกกต. ที่จะมาบอกว่าคดีนี้จะฟ้องหรือไม่ฟ้อง จะพบความผิดหรือไม่มีความผิด ดังนั้นสว.ชุดนี้ก็จะเลือกคนมาตรวจสอบหรือไม่ตรวจสอบตัวเอง นี่คือวัฏจักรอำนาจการเมืองที่เลวร้ายมากในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ถ้าเราจะพออยู่กันได้กับสว.ชุดปัจจุบันโอกาสเดียวที่พอจะเป็นไปได้คือขอร้องว่าอย่าพยายามใช้อำนาจอะไรมากเกินไป ท่านก็อยู่ของท่านไป ถึงวาระต้องโหวตขอให้โหวตโดยสุจริตใจ อำนาจที่เหลืออย่าพยายามใช้ เราก็พอจะอยู่ร่วมกันได้” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของสว. เพราะที่เรากลัวคือ สว.จะครบปี 2572 แล้วต้องเลือกสว.ต่อไปด้วยระบบปัจจุบัน เชื่อว่าคนที่เดินเกม ในปี 2567 เขารู้แล้วว่าจะทำอย่างไร แล้วคนที่อยากเป็นสว.ก็จะวิ่งไปหาเขาทั้งหมดและเชื่อว่า 200 คนนั้นเขาจะได้หมดเลย ดังนั้นไม่อยากให้ไปถึงตรงนั้นเราต้องเปลี่ยนแปลงให้ได้ แต่ถ้าวันนั้นไปถึง ส่วนตัวอายุถึงก็จะไปลงสมัครด้วย

ด้าน ดร.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวว่า กระบวนการเลือกสว.แบบนี้คิดว่าครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว เพราะไม่สร้างสรรค์และไม่ได้ทำใหได้มาซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่การกรองกฎหมาย ดังนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้การฮั้วสว.จะจบอย่างไรเป็นเรื่องที่คนไทยจำนวนมากอยากได้คำตอบ นี่สะท้อนความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ความไม่เชื่อมั่นในองค์กรอิสระ ถ้ามีรัฐธรรมนูญ มีสว. มีองค์กรอิสระแบบนี้ คนก็ต้องสงสัยว่ากระบวนการของสว.ที่กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่นี้จะจบอย่างไร ซึ่งตนพยายามคิดว่าจะจบแบบหลายๆ ทาง ดังนี้ “ก.” จบแบบมวยล้มต้องคนดู หลักฐานไม่พอ ไม่มีการฟอกเงิน อั้งยี่ ซ่องโจร “ข.” กลุ่มสีน้ำเงินถูกดำเนินคดีเล็กๆ น้อยๆ ไม่กี่คน แต่สาวไปไม่ถึงตัวใหญ่ “ค.” คนฮั้วพ้นสมาชิกภาพความเป็นสว.ถูกดำเนินคดีตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดนคดีอาญาฟอกเงิน อั้งยี่ ซ่องโจร พรรคที่เกี่ยวข้องโดนยุบ ผู้บงการถูกดำเนินคดีอาญา “ง.” พวกที่ออกมาร้องให้ยุบพรรค รวมทั้งดีเอสไอถูกฟ้องกลับแพ้คดีหมด “จ.” จบแบบล้มกระดาน ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีคนปั่นว่าจะเกิดรัฐประหารแล้ว และ “ฉ.” เกี้ยเซียะกันได้

"ตั้งแต่ ก. ถึง ฉ. เกิดขึ้นได้หมด ถ้ากระบวนการยุติธรรมในบ้านเรา องค์กรอิสระมันปกติเราจะไม่มีข้อ ก.-ฉ. แน่นอนต้องดำเนินการไปให้จบกระบวนการเพราะฉะนั้นจึงฝากประชาชนไปคิดกันเอง ว่ากระบวนการฮั้วสว. นี้จะจบที่ไหน แต่ดิฉันคิดว่าการฮั้วสว. แบบโกง คือมีการใช้เงินมีที่มาจากรัฐธรรมนูญเจ้าปัญหา ที่รั่วทุกจุด เป็นสารตั้งต้นแห่งปัญหาทั้ง ปวงถ้าไม่แก้ไข เรื่องอื่นๆ จะค่อยๆ ปะทุขึ้นมา แม้กระทั่งเราพูดถึงสตงก็เห็นๆอยู่ว่า มาจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้องค์กรอิสระไม่ได้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา จะถอดถอนก็ไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เปิดช่องเอาไว้เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหามาก" ดร.นันทนา กล่าว

ดร.นันทนา กล่าวต่อว่า เอาเฉพาะที่มาของสว. นั่นก็เป็นกติกาที่เปิดช่องให้มีการแฮกระบบฮั้วกันเข้ามา ประชาชนไม่มีส่วนร่วม และมีการโกงมหาศาล จึงจำเป็นต้องแก้ไขที่ตัวต้นเรื่องคือรัฐธรรมนูญ เพราะหัวใจ หรือกล่องดวงใจของรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ คือองค์กรอิสระ ให้องค์กรอิสระขยายอำนาจ กว้างขวาง คำวินิจฉัยผูกพันทุกองค์กร สามารถวินิจฉัยตัดสิทธิ์นักการเมืองตลอดชีวิต ยุบพรรคก็ได้ สั่งให้นายกพ้นจากตำแหน่งก็ได้ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยอำนาจที่ได้มานี้ก็มาจากสว.เลือกมา จึงเป็นแรงจูงใจให้พรรคการเมืองอยากจะเป็นเจ้าของสว. เพื่อเอาคนของตัวเองไปนั่งในองค์กรอิสระ ทำให้เป็นองคืกรอิสระในกำกับพรรคการเมือง นี่ว่าอันตรายที่สุด เมื่อองคืกรอิสระไม่อิสระอย่างแท้จริง กระบวนการต่างๆในประเทศนี้จะบิดเบี้ยวไปตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้าของ พรรคการเมืองไหนได้ครอบครองพรรคนั้นก็จะเป็นเจ้าของประเทศและเปลี่ยนแปลงทุกอย่างบิดเบี้ยวทุกอย่างไม่ได้ เราจึงต้องทลายกล่องดวงใจอันนี้ ด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องยาวไกล เฉพาะหน้าที่ต้องช่วยกันทำคือยับยั้งไม่ให้องค์กรอิสระไปเป็นของพรรคการเมือง ด้วยการให้สว.ใส่คนเข้าไป ซึ่งวันที่ 30 พ.ค. นี้ ประธานวุฒิสภาได้บรรจุระเบียบวาระการประชุมสมัยวิสามัญ มีพิจารณาเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่ง ใน ป.ป.ช. 3 คน อัยการสูงสุด 1 คน และมีการตั้งกรรมการวิสามัญพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของกกต. 1 คน และศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน รวมทั้งสิ้น 7 ตำแหน่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ขอรายชื่อสว. 1 ใน 10 ของสว.ทั้งหมด หรือ 20 คน เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภา ให้พิจาณราส่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติบทบาท ก็ไม่สำเร็จ ล่าสุด นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. ได้ยื่นญัตติเพื่อขอให้สว. ทั้งหมดชะลอการลงมติเรื่องการเห็นชอบองค์กรอิสระไว้ก่อน แต่ด่านสำคัญคือ ยื่นประธานวุฒิสภาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วย นอกจากนี้ยังมีคนอื่นๆ ที่ไปยื่นหนังสือจากด้านนอกต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ต่อ กกต.เพื่อให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญอีกทางหนึ่งด้วย และตอนนี้ตนขอให้ประชาชนร่วมกันส่งเสียงผ่านโซเชียลมีดี ถึงสว. ว่ามันไม่สง่างามไม่เหมาะสมไม่ควรใช้อำนาจมากจนเกินไปจนไม่เห็นหัวประชาชน ตรงนี้ถูกข้อกล่าวหาก็อยู่ไปก่อนได้หรือไม่ชะลอไว้ก่อนได้หรือไม่นี่คือสิ่งที่เราทำมา และหลายคนก็ช่วยกัน

“สว.ชุดนี้ชุดที่ถูกเรียก ไปรับทราบข้อกล่าวหาว่าเข้ามาโดยวิธีที่ไม่ปกติ นี่เท่ากับไปเลือกผู้พิพากษามาตัดสินคดีตัวเองหรือเปล่า เราเรียกร้องจิตสำนึกแห่งความเป็นผู้แทน จิตสำนึกของความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนหยุดการลงมติอันนี้ได้หรือไม่ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 93 ปีประชาธิปไตยไทย ที่สว. เกินครึ่งสภา ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าโกงเข้ามา เมื่อไม่มีมาก่อนเลยไม่มีกฎหมาย ว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เอาไว้ก่อนเราจึงต้องเรียกร้องทั้งจิตสำนึกและใช้ข้อกฎหมายที่พอมี” ดร.นันทนา กล่าว.

Advertisement

แชร์
ยิ่งชีพ เดือด ซัด สว.ภูมิใจไทย ชี้ 3 ข้อ โกงเลือกเข้าสู่สภาสูง