Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ไทย-อินโดนีเซีย ปักหมุดอนาคต! เปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือระดับผู้นำ

ไทย-อินโดนีเซีย ปักหมุดอนาคต! เปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือระดับผู้นำ

19 พ.ค. 68
13:18 น.
แชร์

"ไทย-อินโดนีเซีย" ปักหมุดอนาคต! เปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือระดับผู้นำ ยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนยุทธศาสตร์

(19 พ.ค. 2568) เวลา 11.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายปราโบโว ซูบียันโต (H.E. Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างหน่วยงานของไทยและอินโดนีเซีย จำนวน 1 ฉบับ คือ

บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข (Memorandum of Understanding Between The Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and The Ministry of Health of the Republic of Indonesia on Health Cooperation) โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และ H.E. Mr. Sugiono รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นผู้ลงนามฝ่ายอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับอินโดนีเซียและพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขในสาขาต่างๆ เช่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพและระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ความมั่นคงด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การเงินการคลังด้านสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น

จากนั้น นายกรัฐมนตรีไทยและประธานาธิบดีอินโดนีเซียแถลงข่าวร่วมกัน โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการแถลงข่าว ดังนี้

นายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ในการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ไทยและอินโดนีเซียมีมิตรภาพอันยาวนานกว่า 150 ปี โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ เยือนต่างประเทศครั้งแรกที่เกาะชวาในปี พ.ศ. 2414 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยการเยือนของประธานาธิบดีอินโดนีเซียในวันนี้ เป็นการยืนยันถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้น และเป็นหมุดหมายสำคัญในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับอินโดนีเซียในปีนี้

ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันอย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นมิตร ผ่านการเป็นประธานร่วมในกลไกใหม่ เรียกว่า “การประชุมหารือระดับผู้นำ” เป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็นกลไกที่ส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศอย่างสม่ำเสมอในอนาคต

ผู้นำทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการเสริมสร้างความร่วมมือในหลากหลายมิติในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยในฐานะประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียน

และมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ในภูมิภาค ไทยและอินโดนีเซียจะร่วมมือกันเสริมสร้างความเข้มแข็งของอาเซียนท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนในเชิงภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประเด็นสำคัญจากการหารือ ดังนี้

ด้านความร่วมมือทางการเมืองและความมั่นคง เห็นพ้องที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนและการหารือระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ และใช้ประโยชน์จากกลไกทวิภาคีต่างๆ ที่มีอยู่อย่างเต็มที่ โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายร่วมกันจัดทำ “แผนปฏิบัติการหุ้นส่วนยุทธศาสตร์” เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมโดยเร็วภายในปีนี้ นอกจากนี้ กองทัพของทั้งสองประเทศจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในทุกมิติ พร้อมศึกษาแนวทางความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมทั้งตำรวจไทยและอินโดนีเซียจะเสริมสร้างความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการค้ายาเสพติด

ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เห็นพ้องที่จะส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยในปี 2567 การค้าระหว่างไทยกับอินโดนีเซียมีมูลค่าสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และด้วยขนาดของตลาดและการเชื่อมโยงที่มีอยู่ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่ายังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศ แต่จะรวมถึงภูมิภาคอาเซียนโดยรวมด้วย ดังนั้น ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมาธิการการค้าร่วม (Joint Trade Committee) ครั้งที่ 1 ภายในปีนี้ เพื่อหารือแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือดังกล่าว

ผู้นำทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ และส่งเสริมให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศศึกษาความได้เปรียบและศักยภาพการลงทุน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีอินโดนีเซียที่ให้การสนับสนุนบริษัทไทยที่ดำเนินธุรกิจในอินโดนีเซียมาโดยตลอด และได้ขอให้ดูแลบริษัทเหล่านี้ให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างราบรื่นด้วย

ด้านความมั่นคงทางอาหาร เห็นพ้องที่จะฟื้นฟูและส่งเสริมความร่วมมือ โดยเฉพาะการค้าสินค้าเกษตร รวมถึงอุตสาหกรรมฮาลาล และจะศึกษาความเป็นไปได้ในการเป็นหุ้นส่วนด้านการทำประมงอย่างยั่งยืน รวมทั้งเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงทางพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสีเขียว

ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อการเปิดเส้นทางการบินใหม่ระหว่างกรุงเทพฯ ประเทศไทย กับเมืองสุราบายาและเมืองเมดาน อินโดนีเซีย และการเปิดเส้นทางการบินระหว่างภูเก็ต-เมดานในอนาคต ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต กับชวาตะวันออกและสุมาตราเหนือ และการเชื่อมโยงในภูมิภาค พร้อมทั้งหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศจะหารือเพื่อทำการตลาดร่วมในเส้นทางบินใหม่ รวมทั้งเห็นพ้องว่า ยังมีจุดหมายปลายทางอื่นๆ ที่มีศักยภาพในทั้งสองประเทศที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ และจะร่วมกันพิจารณาต่อไป

ด้านสาธารณสุขและการศึกษา ในฐานะที่ไทยและอินโดนีเซีย เป็นสมาชิกกลุ่มนโยบายต่างประเทศและสุขภาพโลก (Foreign Policy and Global Health Group) ที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดภายใต้กรอบองค์การสหประชาชาติ ไทยพร้อมจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ปี 2544 ในเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าแก่อินโดนีเซีย

ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงพันธกิจร่วมกันในการส่งเสริมความเป็นเอกภาพและความเป็นแกนกลางของอาเซียน ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่มีความผันผวนในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ โดยจะร่วมผลักดันการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจและสังคมของอาเซียนอย่างทั่วถึงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น รวมถึงเสริมสร้างเสถียรภาพในระดับภูมิภาค

ผู้นำทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกันในการเห็นเมียนมาเป็นประเทศที่สงบสุข มีเสถียรภาพ และเป็นปึกแผ่น ไทยและอินโดนีเซีย ในฐานะมิตรที่ดีของเมียนมา จะร่วมมือกับมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน เพื่อช่วยสนับสนุนให้เกิดสันติภาพในเมียนมา โดยอาเซียนเป็นผู้มีบทบาทนำ

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีอินโดนีเซียสำหรับมิตรภาพอันอบอุ่น และหวังว่าจะได้มีโอกาสเยือนอินโดนีเซียในอนาคตอันใกล้นี้

Advertisement

แชร์
ไทย-อินโดนีเซีย ปักหมุดอนาคต! เปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือระดับผู้นำ