วันที่ 7 พ.ค. 68 ที่รัฐสภา นาย ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญ กรุงเทพมหานคร กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาสรุปสาเหตุ อาคาร สตง.แห่งใหม่ ถล่ม
ปรากฏว่า นาย มณเฑียร เจริญผล ผู้ว่า สตง. ไม่ได้มาให้ข้อมูลด้วยตัวเอง แต่มอบหมายให้นาย สุทธิพงษ์ บุญนิล รองผู้ว่าสตง. มาให้ข้อมูลแทน
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในฐานะที่ตน เป็นอดีตข้าราชการประจำ เข้าใจความรู้สึกของท่านดี เพราะชีวิตตนก็เคยผ่านเรื่องที่คล้ายๆ แบบนี้เช่นกัน กรณีเรื่องป่าสาละวิน กรมป่าไม้ในขณะนั้น เดินไปไหนคนด่าทั้งประเทศว่าร่วมกันโกง เอาไม้มาสวมโสร่ง ตนต้องใช้เวลา 5 ปี ถึงกลับมาเป็นปลัดกระทรวง วันนี้ท่านทราบดีว่าตึกถล่มลงมา มีคนตายร้อยกว่าคน งบประมาณจะถึงสาปสูญไปหรือไม่ก็ไม่รู้ บริษัทประกันจะยอมหรือไม่ เพราะเป็นพิบัติภัย ท่านก็ต้องมารับเคราะห์
นายปลอดประสพ ระบุต่อว่า ท่านผู้แทน สตง.ที่มานั่งอยู่ที่นี้ ตนคิดว่าหลายท่าน ไม่เกี่ยวข้องเลย เพราะท่านยังไม่ได้เป็นอะไรตอนนั้น ยังไม่ต้องรับผิดชอบ มีนายกฤษฎา สวนสมภาค อดีตรองผู้ว่า สตง. คนเดียวที่เกี่ยวข้อง แต่ว่าเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว เราก็ต้องช่วยกัน ช่วยไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีก ตึกนี้ ต้องใช้เงินก่อนสร้าง 2,000 กว่าล้านบาท สร้างขึ้นมาโครงสร้างเสร็จแล้ว ถล่มภายใน 8 วินาที
ตนจึงอยากขอร้องท่านให้ช่วยสนับสนุนการทำงานของ กมธ.ฯชุดนี้ จะสร้างมิติใหม่ให้กับประเทศไทย เราอย่ามาปฏิเสธว่ามันไม่มีอะไร แต่มันมีอะไรแน่นอน เราไม่อาจจะยกระเบียบอะไรมาอ้างว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบ 100% ถ้าเราปฏิบัติ 100% แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ก็แปลว่าระเบียบนั้นมันเฮงซวย มันใช้ไม่ได้ หรือไม่ก็คือไม่ปฏิบัติตามระเบียบ มีอะไรซ่อนอยู่แน่นอน
ยืนยันกมธ.ชุดนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดีใดๆ ทั้งสิ้น แต่ กมธ.ชุดนี้ จะปฏิวัติ ปฏิรูป และเปลี่ยนแปลง ระเบียบราชการทั้งหมดที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นระดับ พ.ร.บ. หรือ รองลงมา เพื่อให้แน่ใจว่าอาคาร ทั้งของราชการ และเอกชน ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จะต้องไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ตนจึงอยากขอร้อง สตง. ได้กรุณาช่วยเราสร้างอาคารของประเทศไทยใหม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับลูกหลานของเราในอนาคต วันนี้ขอให้ท่านสบายใจว่าในห้องนี้ ไม่มีใครที่คิดจะมารังแกท่าน ถามไถ่ท่านให้เสียเกียรติยศ ที่นี่ไม่ใช่ที่จะมาดูถูกใคร แต่ท่านก็ต้องยอมรับความจริงว่าเหตุการณ์มันเกิดที่ท่าน และคนที่รู้ดีที่สุดคือพวกท่าน ซึ่งการที่ ท่านผู้ว่าฯสตง.ไม่ได้มาด้วยตัวเอง ด้วยท่านติดอะไรก็ไม่แน่ใจ จริงเท็จตนก็ต้องเชื่อท่าน เพราะท่านพูดมาแล้ว
“ในความเห็นส่วนตัว มาตรฐานของตน เป็นลูกผู้ชายไม่พอ ขออนุญาตใช้ความเป็นคนอายุ 80 ปี เปรียบเทียบให้ฟัง ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ต้องลุกขึ้นยืนอย่างกล้าหาญ เล่าให้พวกเราฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้น เพราะสิ่งนี้จะลบล้าง สิ่งที่ท่านได้รับการกล่าวหา และดูถูกดูแคลนของสังคม เพราะฉะนั้นถ้าไม่ลำบากเกินไปขอให้นำคำของผมไปพูดเรียนต่อ ผู้ว่าสตง. และตนจะเชิญท่านกลับมาอีกแน่นอน อย่างไรก็ต้องเชิญมา กมธ.มีความประสงค์ ฟังคำอธิบาย จากปากผู้ว่าฯสตง. พวกเราเคารพในตำแหน่ง รองผู้ว่าสตง. ซึ่งที่จริงเราก็ทราบอยู่แล้ว ว่าท่าน ผู้ว่า สตง.จะไม่มา จึงได้หารือกับ กมธ. หลายท่าน และจะเชิญท่านกลับไปด้วยซ้ำ แต่ตนถูกห้ามไว้ ว่าอายุมากแล้ว ไม่ควรใจร้อน จึงเชื่อทุกคนใน กมธ.”
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ตนได้เตรียมคำถามไว้ 20 ข้อ และอยากฝากคำถามอีกข้อ กับท่าน คือข้อ 21 ให้กลับไปคิด และบอกกับ ผู้ว่า สตง. ให้มาตอบคำถามนี้กับตน และ กมธ. ว่าในฐานะที่ท่านเป็น สตง. ตรวจงาน และให้คำแนะนำจำนวนมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากเกิดกับหน่วยงานอื่น ท่านจะให้คำแนะนำกับหน่วยงานอื่นอย่างไร และในบั้นปลายของ กมธ.ชุดนี้ จะไปให้ถึงการแก้ไขกฎหมาย และบทบาท ของสตง. เพื่อให้แน่ใจว่าท่านสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ ประชาชนไว้ใจท่านได้ ท่านก็ต้องถูกตรวจสอบด้วยเช่นกัน
Advertisement