
กลายเป็นประเด็นร้อนสนั่น กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง อ้างว่า อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่โปรโมตตัวเองเป็น โค้ช-ครู ทำร้ายร่างกายเด็ก 2 คนกลางสปอร์ตคลับย่านสุขุมวิท หลังจากเด็กได้ไปสะกิดโดนตีนกบ จนทำให้เจ้าตัวไม่พอใจ พร้อมคลิปกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุที่มีการจูงมือเด็กทั้งสองคน
ล่าสุด "กระติ๊บ ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล" ออกมาเคลื่อนไหวแชร์โพสต์ดังกล่าวว่า "ปกติก็จะไม่ค่อยยุ่งเรื่องของใครหรอกนะคะ โทษกฏหมายติ๊บไม่รู้ แต่อยากให้ได้โทษทางสังคม นี่มาทำลูกของคุณครูที่ติ้บรัก แล้วก็ไม่อยากให้ค่าให้แสง อินฟลูท่านหนึ่ง การตบเด็ก แค่เค้าวิ่งขอบสระ ไปชนปลายตีนกบ (ย้ำปลายตีนกบ) มันออกจะอุ...ไปหน่อย ตัวเท่ายักษ์เด็ก 9 ขวบเองทำลงได้ไง เป็นไลฟ์โคช์ในเพจตัวเอง แต่ชีวิตจริงเป็นหน้าตั๋วเฮีย ก็ไม่ ไหวนะคะ โอ้ยโกรธจนมือสั่น พิมพ์ผิดๆถูกๆ ใครอยากใส่ใจไปดูเพิ่มเติม ลิงก์นี้เลยค่ะ มีคลิปนาทีเกิดเหตุ"
ทั้งยังโพสต์อีกข้อความว่า "บางทีสิ่งที่น่ากลัวกว่า ผู้ใหญ่ที่ลงมือทำร้ายเด็ก คือ ผู้ใหญ่ที่ยังคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ทำได้ ในประเทศนี้ เด็กแค่เดินเฉียดตีนกบ แต่ถูกตบเหมือนเป็นอาชญากร ขณะที่ผู้ใหญ่กลับอธิบายตัวเองยาวเหยียด เหมือนกำลังเขียนเรียงความแก้เกรด ไม่ใช่รับผิดชอบชีวิตคนตัวเล็กๆ คำว่า ผมแค่สอนบทเรียน มันน่ากลัวกว่าแรงตบอีก เพราะหมายถึงว่า…ผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่ง เชื่อจริงๆ ว่าตัวเอง เหนือเด็ก และ เหนือกฎหมาย นี่คือปัญหาของสังคมไทย ไม่ใช่แค่เหตุการณ์เดี่ยว เราถูกสอนให้เคารพผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่บางคนไม่เคารพความเป็นมนุษย์ของเด็กเลย เด็กมีแค่ร่างกายเล็กๆ กับเสียงเบาๆ แต่กลับต้องรับมือกับอารมณ์ของผู้ใหญ่ที่ตัวใหญ่กว่าเป็นสิบเท่ ความจริงง่ายที่สุด คือ เด็กไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของผู้ใหญ่ และการตีเด็ก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มันคือ ความรุนแรง ไม่ใช่ บทเรียน สังคมที่ยอมให้ผู้ใหญ่ทำร้ายเด็กได้ จะไม่มีวันเป็นสังคมที่ปลอดภัยสำหรับใครทั้งนั้น ถ้าผู้ใหญ่ยังไม่โต เด็กในประเทศนี้จะเติบโตอย่างไร?"
ทั้งยังคอมเมนต์ข้อความเพิ่มเติมอีกว่า "สำคัญกว่าคือ เด็กๆ ที่เกิดเรื่องมาใช้ชีวิตฝึกซ้อมว่ายน้ำที่นี่ อาทิตย์ละ 3-5 วัน เรื่องวิ่งเตะโฟม เหวี่ยงดูดเดิ้ล (ซึ่งเป็นอุปกรณ์ของที่สระที่เค้าใช้ซ้อมกันประจำ) มันเป็นเรื่องปกติค่ะของบริเวณนี้ค่ะ ที่อ้างว่าไปเหยียบฟินของคุณ ปกติแล้วฟิน free diving จะค่อนข้างมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงในระดับนึงเลยด้วยซ้ำ หากน้ำหนักเด็ก 9 ขวบเหยียบแล้วพัง คุณน่าจะต้องไปเคลมกับยี่ห้อที่ซื้อมาแล้วแหละค่ะ เพราะผลิตไม่ได้คุณภาพ แล้วตัวผู้ใหญ่คนนี้เองก็ไม่ได้มาที่นี่เป็นประจำถามคนที่นั่นได้เลยเค้าจะเห็นทุกวันว่าเด็กเล่นกันแบบนี้แต่ยังไงไม่ว่าเด็กจะกวนจะดื้อยังไง เค้าก็ไม่มีสิทธิที่จะแตะต้องเด็กค่ะ ยิ่งบอกว่าอบรมสั่งสอนฟังไม่ขึ้นเลย"
อย่างไรก็ตาม ทางด้านของโค้ชคนดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงทั้งในรูปแบบโพสต์ข้อความ และคลิปที่มีการกล่าวขอโทษ พร้อมแคปชั่นว่า "ผมอยากแสดงความขอโทษจากใจ กับ เด็กทั้งสองคนและครอบครัว ในเรื่องที่ผมได้ทำสิ่งที่ไม่ดีไป และ ขอโทษผู้ติดตามผมเสมอมา ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีครับ อยากให้กรณีผมกรณีศึกษาของสังคมว่าไม่ควรใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เราควรพูดและเจรจาด้วยสันติ และมีสติในการควบคุมอารมณ์ตนเองตลอดเวลา วันนี้ผมได้ทำผิดพลาดไป ผมขอโทษอย่างสูงจากใจจริง ผมสำนึกผิดและพร้อมที่จะแก้ไขและปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่ที่ไม่มีพฤติกรรมแย่เช่นนี้อีกต่อไป ผมอยากกลับมาเป็นคนที่ดีและทำประโยชน์ให้สังคมครับ เรื่องราวนี้จะเป็นบทเรียนชีวิตให้กับผมว่าควรมีสติในการดำเนินชีวิตให้มากยิ่งขึ้น"
Advertisement