
จากกรณี "พิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ" สมาชิกวุฒิสภา ออกมาให้สัมภาษณ์ประเด็นที่อาสาขับเจ็ตสกีลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วม เขต 8 แต่ถูกปืนยิงไล่ เผยว่า "การที่ว่าเขต 8 มีข่าวลงว่ายิงกัน พวกเจ็ตสกี เที่ยวไปแข่งเรือ ขับเล่น ไม่ได้ช่วยคน พวกเขามองว่าไปขับเล่น เลยโกรธ คนหาดใหญ่ไม่ได้ร้ายแบบนั้น พวกเจ็ตสกีไม่มีใครกล้าลงไปเขต 8 ผมเลยบอกผมลุยเอง ลุยไปก็ไม่มีอะไรครับ ทุกคนยกมือไหว้ เขาบอกไม่มีข้าวกินมาหลายวันแล้ว" งานนี้ก็เกิดความไม่พอใจกับทีมงานอาสาและประชาชนที่ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือเป็นอย่างมาก
"แทค ภรัณยู" ได้ออกมาโพสต์ขอความระบายถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า "ควาย อาสากู้ภัยที่ไหนจะไปขี่เจ็ตสกีเล่น "น้ำท่วม" "วันหลัง พวก สส สว มึงมาช่วยดูนะ มาก็ไม่ต้องมีคนตามเป็นฝูงนะ" "พอน้ำลดนี้ พวกมึงเก่งจริงๆ" "Vip ต่างๆ มาหาพ่องอะไรเยอะ ภาระ ทั้งนั้น"
พร้อมกันนี้ "แทค ภรัณยู" หนึ่งในทีมอาสาที่ไปร่วมขับเจ็ทสกี ช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยเช่นกัน ได้เปิดใจกับทีมข่าวอมรินทร์ว่า "ไม่มีอาสาหรือกู้ภัย หรือนักเก็ตสกีทีมชาติคนไหนหรอก ที่จะเอาเจ็ตสกีเนี่ย ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเป็นพันกิโลเนี่ย แล้วมาขี่เล่นตอนน้ำท่วม มันไม่มีหรอก แต่การที่ สว. ระดับเงินเดือนเป็นแสน ออกมาแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้ ถือเป็นความคิดที่ง่าวมาก ซึ่ง เด็กน้อยยังคิดได้และตอกย้ำว่า หาก สว. ได้ยินข้อมูลมา ก็ควรจะอย่าหูเบา และต้องตรวจสอบความจริงหน้างานก่อน"
ถามถึงเหตุผลที่ต้องใช้ "เจ็ตสกี" และต้อง "ขับเร็ว" เจ้าตัวบอกว่า "การใช้เจ็ตสกีจำเป็นมาก เพราะบางครั้งเรือมันไปไม่ได้ และใช้เพื่อช่วยผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ เช่น ผู้ที่ต้อง "ฟอกไต" หรือต้องการออกซิเจน ส่วนสาเหตุที่ต้องขับเร็ว เนื่องจากในน้ำอาจมีกระแสคลื่นหรือพวกเชือก พวกขยะอยู่ในนั้น ซึ่งหากขับช้า อาจทำให้เครื่องดับได้ อาสาฯ ต้องประเมินหน้างาน ถ้าจุดไหนไม่มีประชาชนก็ "ต้องหวดแล้ว" เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องดับ สำหรับเรื่องเสียง ตนได้เปรียบเทียบกับเสียงเครื่องยนต์ว่า เสียงเจ็ตสกีกับเสียงเด็กแว้น เสียงเด็กแว้นน่าตบกว่าอีก"
ทั้งนี้เจ้าตัวก็ย้ำเตือนให้สังคมเข้าใจถึงบทบาทของอาสาสมัคร ระบุว่า "อาสาคือต้องใช้เงินของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าเครื่องบิน ค่าเสื้อผ้า หรือค่าน้ำมัน พวกเราเป็นคนซัพพอร์ตกัน ต่างจาก สว. ส.ส. ที่มีเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ซึ่งเวลามีเหตุการณ์ สว. ส.ส. ไปไหนหมดไม่รู้ มีแค่อาสา และตนอยู่หน้างาน ไม่เคยเห็นเลย"
พร้อมทั้งเสนอแนะวิธีการทำงานที่เหมาะสมกว่า "เวลาที่จะมาไม่ต้องเอาคนมาเยอะ หากมาเยอะจะเป็น ภาระ ที่อาสาสมัครต้องเสียเวลาไปต้อนรับดูแล และให้มาแบบซึมๆ ควรมาคนสองคน และคอยซึมหน่วยงานต่างๆ เพื่อจะได้รู้ว่าหน้างานเป็นยังไง ลำบากขนาดไหน จริงๆ"
ส่วน สว. ที่มาพูดถึง แทค ยังฟาดต่อว่า "ไม่เคยเห็นหน้า พึ่งเคยเห็นหน้าเค้า ก็ตอนเนี้ยแหละ" สุดท้าย แทค ฝากถึง สว. และ สส. ว่า "ให้ทำงานให้สมกับเงินเดือนที่ประชาชนจ่ายให้ และปิดท้ายด้วยการย้ำสถานะของประชาชนว่า เราเป็นนายเขา เขาไม่ใช่นายเรา"
Advertisement