ลุงอัจผนึกอนันต์ชัย จัดหนักแก๊งบิ๊กปลัดชิงตัวผู้ต้องหา ตร.แจงถูกจับแล้ว (คลิป)

18 ก.ย. 64

กรณีคลิปวิดีโอ จำนวน 5 คลิป ซึ่งเป็นคลิปที่ถูกแอบถ่ายได้ในขณะที่มีกลุ่มชาย 3 คน เข้ามาขัดขวางการบันทึกจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนสัตว์ป่าสงวน ของเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารที่ 3 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หน่วยหัวหิน-ชะอำ โดยหนึ่งใน 3 คนเป็นแอบอ้างว่าเป็นน้องสะใภ้ปลัดอำเภอ และอัยการจังหวัด เข้ามาพูดทำนองว่า “จับกุมตั้งแต่กี่โมง จะใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ทำไมถึงไม่รีบดำเนินคดีโดยเร็ว จับกุมมาตั้งแต่ช่วง 10 โมงเช้า ปานนี้เวลา 19.00 น. แล้ว ทำไมถึงไม่มีความคืบหน้า ผมจะโทรหาผู้กำกับ และจัดการเรื่องนี้เอง จะจับก็จับ ผมจะเป็นคนเอาผู้ต้องหาไปส่งเองที่โรงพักหัวหิน”

897228

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตนได้รับคลิปร้องเรียนมาจากหัวหน้าส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการปฎิบัติหน้าที่บันทึกจับกุมผู้ต้องหา ก่อนที่จะส่งให้กับพนักงานสอบสวน เนื่องจากพบการกระทำผิดลอบขนสัตว์สงวนแห่งชาติ แต่ระหว่างที่ดำเนินการจับกุมและสอบสวน กลับมีกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นญาติของผู้ต้องหาเข้ามาต้องการที่จะช่วยเหลือคนของตัวเอง โดยอ้างว่าเป็นปลัดอำเภอ และชายอีกคนอ้างว่าเป็นอัยการจังหวัด สามารถที่จะเคลียร์หรือดำเนินการเรื่องนี้ได้ จากนั้นก็พาตัวผู้ต้องหาขึ้นรถออกไปจากสำนักงานที่มีการจับกุม และอ้างว่าจะพาตัวไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน แต่สุดท้ายกลับไม่พาไปโรงพัก

240544

"ผมอยากจะให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ได้รับความเป็นธรรม แม้ว่าจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือมีตำแหน่งในจังหวัด ก็ไม่ควรใช้อำนาจกับข้าราชการหรือส่วนงานอื่น เพื่อปกป้องคนผิด ดังนั้นจึงอยากให้คลิปนี้ถูกแชร์ พร้อมทั้งมีหน่วยงานต้นสังกัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปกำกับดูแล ไม่ให้ข้าราชการผู้ใหญ่รังแกข้าราชการผู้น้อยในพื้นที่" นายอัจฉริยะ กล่าว 

ล่าสุดวันที่ 18 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ 3 โดยมีนายวันชัย สิงห์โต เป็นผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุม โดยพบว่าได้เข้ารับการรักษาสุขภาพเนื่องจากป่วยโรคหัวใจ จึงยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูล

ในระหว่างที่ทีมข่าวเดินทางไปที่หน้าห้องส่วนงานอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ 3 ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุในวันที่มีการพาผู้ต้องหาออกไปจากการบันทึกจับกุม พบว่าวันนี้เป็นวันหยุดราชการ ทำให้ไม่มีเจ้าหน้าที่พนักงานราชการมาประจำการหรือทำงานในวันหยุด ห้องยังคงปิดเงียบ แต่สังเกตบริเวณโต๊ะไม้ด้านหน้าของสำนักงานส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งปรากฏภาพอยู่ในคลิปที่มีการบันทึกจับกุม และมีชายปริศนาอ้างตัวเองว่าเป็นปลัดและอัยการจังหวัด เข้ามาพาผู้ต้องหาหญิงออกไปจากจุดดังกล่าว ยังคงมีโต๊ะไม้ตั้งอยู่จุดเดิม และใกล้กันยังคงมีโต๊ะหินอ่อน ที่มีมุมภาพหรือคลิปที่แอบถ่ายบางคลิป มีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่บริเวณโต๊ะหินอ่อนดังกล่าวก็ยังตั้งวางอยู่ในจุดเดิม

525112

ทีมข่าวได้คุยกับ นายสิน (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ในฐานะคนที่อยู่ในคืนวันเกิดเหตุ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุได้มีการดำเนินการจับกุมผู้ต้องหา รายที่ 1 นายสุชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวต.ท่าแลง ซึ่งมีของกลางเป็นนกชมพู 15 ตัว กรงไม้เล็ก 9 กรง กรงไม้ใหญ่ 2 กรง จากนั้นได้มีการขยายผลไปจับผู้ต้องหารายที่ 2 นายสมปอง (นามสมมติ) ชาว อ.ชะอำ ซึ่งมีของกลางเป็นนกสีชมพู 8 ตัว กรงไม้เล็ก 7 กรง และมีการขยายผลเพิ่มเติมไปจับผู้ต้องหารายที่ 3 จนนำไปสู่การควบคุมตัวนายจอมขวัญ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี น้องชายภรรยาของปลัดอำเภอ พบของกลางเป็นนกสีชมพู 12 ตัว นกปรอด 1 ตัว ซากเขากระทิง 1 เขา กรงไม้ 20 กรง จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ไปบันทึกจับกุม ขยายผล และสอบปากคำที่สำนักงานอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ 3 

551189

แม้ว่าขั้นตอนการจับกุมจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั่งนำตัวผู้ต้องหามาที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าในช่วงบ่าย แต่ด้วยการบันทึกจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย 3 คดี ต้องใช้เวลาในการสืบสวน ขยายผล และทำบันทึกสอบปากคำจับกุมพอสมควร จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. มีรถตู้สีขาว ของชายที่อ้างว่าเป็นปลัดและอัยการ เข้ามาต่อว่า รวมถึงขัดขวางการบันทึกจับกุม และอ้างว่าจะพาผู้ต้องหาไปส่งโรงพักเอง เพราะการควบคุมตัวใช้เวลานานเกิดไป จากนั้นก็นำผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายจอมขวัญ ขึ้นรถออกไป ส่วนนายสมหมาย และนายสุชาติ ชุดจับกุมส่งไปดำเนินคดีพื้นที่ สภ.ชะอำ

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เป็นการขยายผล และจับกุมผู้กระทำผิด โดยทีมจับกุมไม่มีใครรู้ว่า ผู้ต้องหาเป็นใคร ญาติใคร แต่หลังจากที่มีชายปรากฎตามคลิป จึงมารู้ภายหลังว่าเป็นปลัดอำเภอและอัยการจังหวัด ที่สำคัญชุดจับกลุ่มก็เพิ่งทราบว่า 1 ในผู้ต้องหาเป็นน้องชายของภรรยาปลัดอำเภอ เพราะก่อนหน้านี้ยอมรับว่าไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าใครเป็นใคร และมีญาติเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายปกครองท้องถิ่นหรือไม่

908308

ขณะที่นายไก่ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ประจำสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ในฐานะคนที่อยู่ในคืนวันเกิดเหตุ แต่ไม่ได้เป็นชุดร่วมจับกุม เปิดเผยว่า ในคืนวันดังกล่าวตนได้เดินทางมาเข้าเวรตั้งแต่เวลา 16.00 น. พบว่าบริเวณด้านหน้าส่วนงานอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งเป็นที่ทำงานของนายวันชัย สิงห์โต ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เตรียมการเพื่อจะนำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำและบันทึกจับกุมหลังพบการกระทำผิดลักลอบขนนกสีชมพู นกปรอด ซึ่งเป็นสัตว์สงวน แต่ตนไม่รู้ว่ามีการจับกุมตั้งแต่กี่โมง จำได้ว่าเป็นช่วงเวลาประมาณก่อน 19.00 น. มีรถตู้และรถกะบะของชุดจับกุม เข้ามาเทียบนำตัวผู้ต้องหา 3 คนลงมาสอบปากคำ เพื่อบันทึกจับกุม

โดยทีมจับกุมมีหลายหน่วยเข้ามาร่วมทำงาน อาทิ ส่วนอนุรักษ์สันว์ป่า 3, ตำรวจพื้นที่, ตำรวจปทส. ซึ่งการสอบปากคำ 3 ผู้ต้องหา ต้องใช้เวลาทั้งการขยายผล การบันทึกจับกุม เฉลี่ยแล้วใช้เวลาคนละไม่ถึง 3 ชั่วโมง แต่ช่วงประมาณ 20.00 น. พบว่ามีรถตู้สีขาวของชาย 3 คน ขับเข้ามาพร้อมกับส่งเสียงโวยวาย แต่ตนจับใจไม่ความไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นรถตู้ก็ขับกลับออกไป และเพิ่งมารู้ภายหลังว่ามีการชิงตัวผู้ต้องหาไปด้วย 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังตนมาทราบเรื่องทั้งหมด จึงมองว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง การที่เป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และ ใช้อำนาจข่มเหงข้าราชการชั้นผู้น้องเพื่อให้พวกพ้องของตังเองรอด เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง ส่วนตัวในฐานะที่ทำงานร่วมกัน ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นครที่ตรงไปตรงมา มีความจริงใจต่อการทำงาน แต่การบันทึกจับกุม ตัวของผอ.และทีมงานเป็นคนละเอียด จึงทำให้อาจใช้เวลาในการสอบสวน แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าล่าช้าอย่างที่ถูกกล่าวหา

555199

ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่ สภ.ชะอำ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้พบกับ พ.ต.อ.ปัญญา กุลไทย ผกก.สภ.ชะอำ เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.ย.64 ภายหลังรับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท ภายในพื้นที่สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พื้นที่รับผิดชอบ จึงได้ส่งสายตรวจเข้าไปตรวจสอบ แต่เมื่อไปถึงพบว่ามีปลัดอำเภอและอัยการ ได้เข้าไปมีปากเสียงกับชุดจับกุม แต่บอกกับชุดสายตรวจว่า สามารถเคลียร์ปัญหาได้ ชุดสายตรวจจึงเดินทางกลับมายังโรงพัก 

หลังจากนั้น เมื่อทีมจับกุมมีการทำบันทึกเสร็จ ก็ได้ส่งของกลาง พร้อมกับผู้ต้องหา คือ นายสมหมาย และนายสุชาติ ที่มีการขยายผลจับกุมได้ในพื้นที่ชะอำ ส่งตัวมายัง สภ.ชะอำ เพื่อดำเนินคดี ในข้อหา “ครอบครองสัตว์ป่าสงวน โดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรมอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช” ซึ่งมีอัตราโทษสามารถเปรียบเทียบปรับได้ในชั้นพนักงานสอบสวน จึงได้มีการเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท จากนั้นมีการปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อไปขึ้นศาลต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป

307792

ส่วนผู้ต้องหาอีก 1ราย คือ นายจอมขวัญ ชุดจับกลุ่มได้นำบันทึกไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนที่โรงพัก สภ.หัวหิน เพราะเป็นพื้นที่รับผิดชอบในการจับกุมและเป็นที่เกิดเหตุ โดยพบว่าตัวของ ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้เดินทางไปพร้อมกับบันทึกจับกุม นำไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.หัวหิน แต่เมื่อไปถึงนั่งรอประมาณ 2 ชั่วโมง และพบว่าตัวของนายจอมขวัญ มีกลุ่มชายอ้างว่าเป็นปลัดและอัยการ พาตัวออกไปจากส่วนของการจับกุม อ้างว่าจะส่งตัวไปโรงพักด้วยตนเอง แต่สุดท้ายมีเพียงแค่บันทึกจับกุม แต่ไม่มีตัวผู้ต้องหา

เบื้องต้นจากพฤติกรรมของปลัดและอัยการที่มีการพาตัวผู้ต้องหาออกจากพื้นที่จับกุมนั้น ยังไม่เข้าข่ายการพาผู้ต้องหาหลบหนี เพราะถือว่าไม่ได้บีบบังคับ แต่มีการพูดคุยกันตกลงกัน ก่อนที่จะพาขึ้นรถออกไปจากพื้นที่ที่คาดว่ามีการบันทึกการจับกุมหรือสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว เพราะถ้าหากยังบันทึกจับกุมไม่เสร็จสิ้น ชุดจับกลุ่มก็ไม่สามารถที่จะอนุญาตให้ใครออกไปจากการสอบสวนของเจ้าพนักงานได้ ดังนั้นจึงยังไม่เข้าข่ายเรื่องของการพาผู้ต้องหาหลบหนี

แต่ความคิดที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาญา คือ จะต้องเอาผิดในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งจะต้องมีการเรียกสอบปากคำบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งผู้ต้องหาที่มีการถูกควบคุมตัว เพื่อสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการรวบรวมพยานหลักฐานและทำสำนวนส่งให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้มีการเอาผิดกับปลัดอำเภอและอัยการ ในฐานะประพฤติตัวไม่เหมาะสมพี่เป็นคนของรัฐ แต่ในการแจ้งความคดีอาญา ทางโรงพักไม่สามารถดำเนินการได้ ทำได้เพียงแค่ส่งเรื่องให้กับ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อไป

856848

ขณะที่ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีนายจอมขวัญ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาในคดีครอบครองสัตว์ป่าสงวนฯ หลังจากที่ชุดจับกุมสำนักบริหารที่ 3 ส่วนงานอนุรักษ์สัตว์ป่าเพชรบุรี มีการส่งสำนวนบันทึกจับกุมมายังโรงพัก แต่พบว่าในวันที่ 10 ก.ย.64 ไม่มีตัวของผู้ต้องหามามอบให้กับพนักงานสอบสวน ชุดจับกลุ่มได้เดินทางกลับแต่ได้ฝากสำนวนบันทึกจับกุมเอาไว้ กระทั่งผ่านไป 2 วัน คือ วันที่ 12 ก.ย.64 คนในครอบครัวนายจอมขวัญ ได้นำตัวมามอบให้กับพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งรับทราบข้อกล่าวหาตามบันทึกจับกุม และมีการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการทำบันทึกจับกุมและทำสำนวนส่งอัยการฟ้องศาล โดยนายจอมขวัญ ก็สามารถใช้สิทธิ์ไปต่อสู้ในชั้นศาลภายหลังได้ แต่เรื่องของสำนวนคดีหลักจะอยู่ที่ สภ.ชะอำ ส่วนตนก็รับผิดชอบเฉพาะบันทึกจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดในพื้นที่เพียงแค่ 1 ราย แต่กรณีการเผยแพร่คลิปกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นปลัดและอัยการ ก็เป็นขั้นตอนการตรวจสอบของสภ.ชะอำ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสภ.หัวหินแต่อย่างใด

ทีมข่าวยังได้เดินทาง ไปที่บ้านของปลัด ที่ถูกกล่าวหา อ้างว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิป พบว่าตัวของปลัดคนดังกล่าวไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้าน หรือแม้แต่ตัวของนายจอมขวัญ ผู้ต้องหา ก็ไม่อาศัยอยู่บ้านเช่นเดียวกัน โดยน.ส.นา (นามสมมติ) พี่สาวของปลัดผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยสั้น ๆ ว่า ตอนนี้ปลัดอำเภอและนายจอมขวัญ ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้าน คาดว่าออกไปทำธุระในช่วงวันหยุดข้างนอก และยังไม่ทราบเวลาว่าจะกลับมาหรือไม่ 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส