จับแล้วหัวหน้ายามปืนโหดฆ่าลูกน้องตอนหลับ หนีซุกดงกล้วย ปมแค้นทำตกงาน (คลิป)

กรณีนายรณกร พงษ์สุด หรือ เฟิร์ส อายุ 21 ปี รปภ. ถูกนายจีรวัฒน์ โอภาสสถาพร หรือ เล็ก อายุ 58 ปี อดีตหัวหน้ารปภ.ยิงเสียชีวิตคาป้อม ขณะนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่บนเก้าอี้ภายในป้อมดังกล่าว บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านเมืองเอก จ.ปทุมธานี ซึ่งนายจีรวัฒน์ ได้หลบหนีไป ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 17 ก.ย.64 นายจีรวัฒน์ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ ก่อนรับสารภาพว่าโกรธแค้นผู้ตายที่ทะเลาะกัน สุดท้ายกลับถูกไล่ออกจากงานเพียงผู้เดียว จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว 

ส่วนนายจีรวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ตนทำลงไป เพราะเคยทะเลาะกัน 3 ครั้งแล้ว และผู้จัดการบริษัทได้ไล่ตนออกเพียงคนเดียว จึงเกิดความเจ็บแค้นใจที่ไม่ได้ทำงานต่อ ทำให้ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตนไม่มีรายได้ จึงน้อยใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว 

พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต กล่าวว่า อาวุธปืนที่ผู้ต้องหาใช้เป็นอาวุธ พบเป็นปืนสั้นไทยประดิษฐ์ขนาด .380 หลักจากผู้ต้องหาก่อเหตุแล้วได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในสวนกล้วย ตั้งแต่เวลา 05.00 น. จนถึงเวลา 19.00 น. ผู้ต้องหาจึงออกมาจากสวนกล้วย ซึ่งทางผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กำชับให้กดดันคนร้ายและจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้ โดยผู้ต้องหายิงไปจำนวน 2 นัด ซึ่งทางผู้ตายหลับอยู่ในป้อมยาม ไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตำรวจจะได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามควรแก่พฤติการณ์

ทีมข่าวได้เดินทางมาพูดคุยกับน.ส.แดง (นามสมมติ) หลานสาวของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุตนไม่ได้รับเบาะแสของผู้ต้องหา เนื่องจากตนไม่สนิทด้วย และไม่พูดคุยกันมาเกือบ 1 ปีแล้ว เพราะผู้ต้องหาโกรธเคืองที่ตนเก็บค่าไฟ ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.64) ช่วงที่เกิดเหตุตนอยู่ในร้านจริง ยืนยันว่าไม่เห็นผู้ต้องหาวิ่งเข้าไปซ้อนในป่ากล้วยหลังหอพัก ทางญาติไม่ได้ปกปิดแต่อย่างใด โดยภายหลังจากเกิดเหตุ ตนยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ต้องหา สำหรับลักษณะนิสัยของผู้ต้องหานั้นเป็นคนอารมณ์ร้อน เอาตัวเองเป็นใหญ่

นอกจากนี้ ญาติ ๆ ยังไม่ได้ปรึกษากันว่าจะประกันตัวหรือไม่ แต่ตนคิดว่าคงไม่มีการประกันตัว ผู้ต้องหากระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ใจร้อนเกินไป มีอะไรทำไมไม่มาปรึกษา โดย 2-3 เดือนที่ผ่านมา ยอมรับว่าผู้ต้องหามีปัญหากับผู้ตายจริง ตนไม่คิดว่าผู้ต้องหาจะโกรธแค้นผู้ตายมากถึงเพียงนี้ ภายหลังจากเกิดเหตุตนยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของผู้ตาย ส่วนจะเยียวยาอย่างไรยังไม่ได้ปรึกษากัน จะต้องขอปรึกษาแม่ของตนที่เป็นพี่สาวของผู้ต้องหาเสียก่อน 

ต่อมาทีมข่าวได้เดินมายังวัดรังสิต ศาลา 4 ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลของนายรณกร พงษ์สุด หรือ เฟิร์ส อายุ 21 ปี ผู้ตาย โดยพ่อแม่ของผู้ตายได้มาเฝ้าที่ศาลา

นางลำปาง แดงนา อายุ 40 ปี แม่ของนายรณกร กล่าวว่า ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาไปมอบตัว ตนยอมรับว่าไม่ทราบ ตำรวจไม่ได้มาแจ้งให้ทราบ เมื่อตนจะไปดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพก็ไปไม่ทันแล้ว หากไปตนอยากถามว่า "ฆ่าลูกชายแม่ทำไม เขาไปทำอะไรให้" ขณะเดียวกันแม้ว่าผู้ต้องหาจะมอบตัวแล้ว ตนก็ยังคงรู้สึกวิตกกังวลและกลัวว่าผู้ต้องหาจะถูกปล่อยตัวออกมาโดยเร็ว เพราะตนคิดว่าเขาฆ่าคนทั้งคน ควรที่จะถูกจำคุกให้นาน ๆ พฤติกรรมของเขารุนแรงเกินไป ผิดมนุษย์ ตนไม่คิดว่าจะแค้นฝังใจกันมากถึงเพียงนี้

นอกจากนี้ ภายหลังจากเกิดเหตุ ครอบครัวของผู้ต้องหายังไม่ได้มาร่วมงานศพ ส่วนตัวแล้วก็คงต่างคนต่างอยู่ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกัน ตนยืนยันว่าไม่ขอให้อภัย และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตนอยากให้ผู้ต้องหาทุกข์ทรมานเหมือนที่ลูกชายของตนโดนกระทำ เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.64) ก็เป็นวันเกิดของสามี ไม่คิดว่าจะเป็นวันตายของลูกชาย โดยทางครอบครัวปรึกษากันว่าจะจัดเตรียมซื้ออาหารมาทานด้วยกัน และปกติทุก ๆ ปี ลูกชายจะเข้ามากอดแต่หลังจากนี้คงไม่มีอีกแล้ว เขาเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเงินมาได้ก็จะนำมาให้ตน หลังจากนี้คงต้องสู้ต่อไป