เปิดหลักฐานคนฉกกระดูกนิ้ว "อ.ถวัลย์" สุขุมโร่คืนโชว์จ.ม.คนให้เพราะเลื่อมใส (คลิป)

17 ก.ย. 64

กรณี อ.สุขุม มีพันแสน ศิลปิน ที่ออกมาอ้างว่าเวลาวาดภาพจะคล้องคอหรือพกกระดูกของศิลปินดังหลายท่าน ได้แก่ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พ.ศ.2544 ผู้ล่วงลับไปแล้ว อ.รศ.ดร.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์ ศิลปินเอกมือปั้นและวาดภาพพุทธศิลป์ ชั้นครู ผู้ล่วงลับ และนายนพคุณ กุลสุจริต นายกสมาคมถ่ายภาพกรุงเทพ ผู้ล่วงลับ โดยเชื่อว่าขณะวาดจะทำให้ภาพมีพลัง และสีต่าง ๆ จะผุดขึ้นมาในหัวโดยอัตโนมัติโดยที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งยังยกเป็นแรงบันดาลใจหลาย ๆ อย่าง ทำให้เกิดความมั่นใจ และทำให้สีของภาพมีพลังเป็นธรรมชาติ

443122

กระทั่งวันที่ 16 ก.ย.64 ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี ลูกชายคนเดียวของอ.ถวัลย์ ออกมาเปิดใจกับอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจจนน้ำตาร่วง เพราะมองว่าพ่อควรอยู่ในที่ที่พ่อควรอยู่ ไม่ใช่ไปอยู่ในคอของใคร และจากที่ได้พิสูจน์ทราบแล้วว่ามีบุคคลหนึ่งที่รู้จัก แอบหยิบไปจริง ๆ และเขาก็ยอมรับว่าเป็นคนเอาไปให้อ.สุขุม ทางครอบครัวจึงไม่ได้อนุญาต พร้อมกันนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีที่แอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์จากกระดูกผู้เสียชีวิต เพื่อให้เป็นบทเรียนกับสังคม และเป็นบรรทัดฐานของทรงคุณค่าในงานศิลปะ แม้ว่าอ.สุขุม จะฝากกระดูกมาคืนแล้วก็ตาม

ล่าสุดวันที่ 17 ก.ย.64 เวลา 10.30 น. อ.สุขุม พร้อมทีมงานจึงต้องออกมาแถลงข่าว เพื่อปกป้องตัวเองในกรณีถูกกล่าวหาขโมยอัฐิของอ.ถวัลย์ และถูกกล่าวหาเป็นคนลวงโลก ณ อมตลันตารีสอร์ท สุวรรณภูมิ พิพิธภัณฑ์อาชาโพธิ์สัตว์

 

395249

โดยวันนี้ “อ.สุขุม” ได้นำหนังสือสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร การส่งมอบกระดูกชิ้นดังกล่าว ในหนังสือจะปรากฏเป็นภาพเหรียญและกระดูกนิ้วชี้ พร้อมข้อความที่ “นายมินนา ปัญญาเลิศ” ศิลปิน นำกระดูกมอบให้กับ “อ.ถวัลย์” ซึ่งระบุว่า “ขอมอบเหรียญและกระดูก อ.ถวัลย์ ดัชนี ให้คุณสุขุม มีพันแสน ไว้เป็นที่ระลึกและบูชา ด้วยความเสน่หา และเป็นบุคคลที่ผมเคารพ และคอยช่วยเหลือให้โอกาสที่ดีตลอดเสมอ” ลงวันที่ 9 พ.ค.62 พร้อมลายเซ็น “มินนา ปัญญาเลิศ”

701232

อ.สุขุม กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำงานมั่วซั่ว เพราะตนทำงานมานานแล้ว และคิดว่าตัวเองทำดีมาตลอด ไม่เคยคิดโหนกระแสใคร แม้ไม่ได้ไปออกรายการทีวี หรือไม่ได้แขวนสร้อยกระดูก รูปวาดของตนก็ขายได้มานานแล้ว มิใช่เพิ่งจะขายได้ ดังนั้นด้วยแรงศรัทธาที่ตนนับถือ “อ.ถวัลย์” ในฐานะรุ่นพี่สมัยเรียนเพาะช่างคนหนึ่ง ตนจึงนำกระดูกไปเลี่ยมเพชรราคาหลักแสน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์งานกว่า 4,000 ชิ้นในช่วงโควิด-19 และไม่เคยคิดลบหลู่แม้แต่น้อย อย่างที่บอกว่ากระดูกชิ้นนี้ ตนได้รับมาจาก “นายมินนา” ด้วยความชอบธรรม เพราะมีลายลักษณ์อักษรชัดเจน จึงไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นประเด็นใหญ่ จนทำให้หลายคนเดือดร้อนเท่านี้

ในขณะเดียวกัน “นายมินนา” ก็อ้างว่าได้รับกระดูกชิ้นนี้มาจาก “ดร.ดอยธิเบศร์” ด้วยความชอบธรรม มีพยานรับรู้ ในวันที่มีการลอยอังคาร แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าไม่ได้บอก “ดร.ดอยธิเบศร์” ก่อนที่จะนำมามอบให้ตนหรือไม่ ตนจึงอยากขอโทษดร.ดอยธิเบศร์ และครอบครัว ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ความรู้สึกที่ตนมีต่อดร.ดอยธิเบศร์ ก็ยังเหมือนเดิม เคารพนับถือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะให้ขอโทษอีกกี่ครั้งตนก็สามารถทำได้

884092

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่ากระดูกของ “อ.ถวัลย์” กลับสู่บ้านก็อาจจะเป็นโอกาสดี เนื่องจากวันที่ 27 ก.ย.64 เป็นวันเกิดของท่าน และท่านคงอยากจะกลับบ้าน ในวันนี้ตนยอมรับว่าหลังคืนกระดูกกลับไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้คุยกันโดยตรง เพราะพยายามโทรศัพท์ไปหลายสิบรอบแล้ว แต่ไม่มีใครรับสาย เชื่อว่าเพราะคงยุ่ง ๆ หรือไม่ หลังจากนี้ ตนยังคงทำงานสไตล์ “อ.ถวัลย์” ต่อไปเหมือนเดิมด้วย เพราะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันเป็นอัตตา มันเกิดขึ้นในรูปธรรม แล้วมันก็จะกลายเป็นนามธรรม ส่วนกระแสโจมตีที่หลายคนมองว่าตนเป็นนักต้มตุ๋น ตนเชื่อว่าจากการแถลงข่าวในวันนี้หลายคนคงได้เห็นความชัดเจนแล้ว จึงถือเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานมากกว่า

สุดท้ายนี้ ตนก็อยากขอโทษครูบาอาจารย์ทุกท่านที่ทำให้ไม่สบายใจ ทำให้กระทบกับวงการงานศิลป์ หากสิ่งไหนที่ไม่ถูกต้อง ตนจะขอน้อมรับไว้เพียงผู้เดียว และขอยืนยันว่าตนทำงานศิลปะ งานจิตรกรรมมานานแล้ว ไม่ใช่เพราะมีกระดูก “อ.ถวัลย์” หรือเพราะออกรายการทีวี ถึงจะสามารถทำงานได้ ตนทำงานอย่างมีหลักการ และมีภัณฑารักษ์คอยกำกับดูแล

649170

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี วิดีโอคอลพูดคุยกับ ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี ทายาทเพียงคนเดียวของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินชื่อดัง หลังจากได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า “ได้กระดูกพ่อคืนมาเเล้ว โดยดร.ดอยธิเบศร์ เปิดเผยว่า ตนได้โทรศัพท์หาบุคคลที่ชื่อ นายมินนา ที่ไม่เคยติดต่อกันเป็นเวลา 7 ปี หลังจากที่พ่อของตนเสียชีวิต ซึ่งเป็นบุคคลที่อ.สุขุม อ้างว่าได้รับกระดูกมา ทั้งนี้นายมินนา ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนหยิบกระดูกไปจริง และนำเอาไปมอบให้อ.สุขุม โดยหยิบไปในวันลอยอังคารเมื่อ 7 ปีที่เเล้ว ตนมีหลักฐานเป็นภาพที่บันทึกไว้ในวันเกดิเหตุ ถือว่าเป็นการได้มาโดยมิชอบ ตนรู้สึกเสียใจมาก ๆ เพราะเป็นกระดูกของพ่อ คนในครอบครัวไม่มีใครยอมรับเรื่องนี้ได้ ตนจึงบอกนายมินนาว่า "ให้นำกระดูกของพ่อผม คืนมาภายใน 3 วัน” นายมินนา จึงขับรถจากจ.เชียงใหม่ ไปหาอ.สุขุม ที่กรุงเทพฯ เพื่อนำกระดูกมาคืนให้กับตน

578222

สำหรับความรู้สึกตอนนี้ดีใจที่ได้กระดูกพ่อคืนกลับมาแล้ว เเต่อีกด้านตนก็รู้สึกผิดหวัง เพราะนายมินนา ก็รู้จักกับครอบครัวของตนมานาน เคยช่วยงานพ่อหลายเรื่อง ไม่น่าทำเเบบนี้ หากเขานำไปบูชา ตนจะไม่โกรธ เเต่ไม่ควรนำไปให้บุคคลอื่น ๆ โดยที่ครอบครัวยังไม่อนุญาต หลังจากนี้จะนำกระดูกไปทำพิธีบรรจุลงในโกศ เเละเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ จ.เชียงราย ในวันที่ 27 ก.ย.64 ซึ่งเป็นวันถวัลย์ ดัชนี ที่ผ่านมาตนจะทำบุญตักบาตร อุทิศส่วนกุศลให้พ่อทุกปีอยู่เเล้ว จึงถือโอกาสนี้เนื่องจากพ่อรักสถานที่แห่งนี้มาก ๆ เป็นเสมือนจิตวิญญาณของพ่อ เเละผู้ที่เข้าเยี่ยมชมก็จะมีโอกาสได้สักการะกระดูกด้วย

138908

ทั้งนี้ ดร.ดอยธิเบศร์ ฝากถึงบุคคลที่นำกระดูกไป เเละบุคคลที่นำกระดูกไปบูชาว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เเต่เป็นเรื่องส่วนรวม ตอนนี้กระดูกกลับคืนสู่ครอบครัวเเล้ว ตนก็ขอขอบคุณที่ส่งคืนให้ เเต่สิ่งที่รับไม่ได้คือการนำกระดูกไปเเอบอ้างเเสวงหาผลประโยชน์ เป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบอย่างรุนเเรงต่อวงการศิลปะ เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ในอนาคตคงไม่มีใครเรียนวิชาศิลปะ เพียงเเค่ไปหาขุดกระดูกศิลปินมาห้อยคอเป็นเครื่องราง ก็สามารถวาดรูปได้ ถูกต้องหรือไม่

"งานศิลปะต้องทำออกมาจากวิญญาณ จากจิตใจที่บริสุทธิ์ เเละจากฝีไม้ลายมือที่ผ่านการฝึกฝนมานาน เป็นสิ่งที่คนศิลปะควรคำนึงถึง ไม่มีทางลัด ไม่มีพลังวิเศษใด ๆ ที่จะช่วยเราได้ งานศิลปะกับวัตถุมงคล จึงเป็นคนละอย่างกัน ขณะเดียวกันขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ วันนี้ผมจะพาพ่อกลับบ้าน" ดร.ดอยธิเบศร์ กล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส