จนมุม! มือฆ่าสาวดาวน์ซินโดรมรับเมาหื่น หลักฐานมัดเดินประกบเหยื่อ สำนึกขอโทษแม่ก่อนโดนรวบ (คลิป)

15 ก.ย. 64

จากกรณี น.ส.ซิ้ม อายุ 48 ปี ผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตบริเวณปากซอยร่วมสุข 7/24 ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด และสืบหาตัวคนร้ายจนเจอ คือ นายมารุธ นนภิภักดิ์ อายุ 20 ปี

328166

วันที่ 15 ก.ย. 64 เวลา 13.00 น. ตำรวจได้นำตัวของนายรุธ ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ สวมใส่หมวกกันน็อก แต่งกายด้วยชุดนอนลายเป็ด ที่เกิดเหตุบรรยากาศมีประชาชนมาเฝ้ารอดูการทำแผนหนาแน่น ปราศจากครอบครัว

542597

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อยากให้เกิดเหตุชุลมุน จึงไม่ได้บอกกล่าวเวลาที่ชัดเจนให้ญาติผู้ตายทราบ โดยตำรวจได้พาตัวนายรุธไปจุดแรก จุดที่ข่มขืน ก่อนจะผลักผู้ตายใบหน้าฟาดกับต้นไม้ แล้วล้มลงกับพื้น ต่อมาผู้ต้องหาได้พยุงผู้ตายขึ้นมาก่อนจะเดินไปพาจุดแอ่งน้ำที่พบศพ

567349

เมื่อมาถึงแล้วผู้ตายได้ล้มลง ก่อนที่ร่างจะจมไปในแอ่งน้ำ ผู้ต้องหาบอกว่าไม่ได้ช่วยเหลือ เพราะว่ายน้ำไม่เป็น เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาทีลงไปลากร่างขึ้นฝั่ง ขณะนั้นผู้ตายน้ำลายฟูมปาก ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยกลับบ้าน

334241

นายรุธรับ สารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มสุราและเสพกัญชา ทำให้มึนเมา ขณะที่พบเจอผู้ตายได้มีการล่อลวงจ้างวานให้ไปนวด ราคา 200 บาท จากนั้นพาเดินไปจุดเกิดเหตุ ลงมือข่มขืนกระทำชำเราผู้ตาย

cg

ผู้ตายได้ขัดขืน ทำให้นายรุธได้ใช้กำลังผลักผู้ตาย ใบหน้าไปชนกับต้นไม้คอหัก ภายหลังได้พาไปทิ้งลงในน้ำ และได้ลงไปในน้ำ นำศพผู้ตายขึ้นมาไว้บนฝั่งครึ่งตัว ก่อนหลบหนีไป

237528508435887725

กระทั่งฝ่ายสืบสวนได้ไปตามที่บ้านพัก ทั้งคนร้ายและแม่ของเขายอมรับว่านายรุธได้กระทำจริง ตำรวจจึงได้เดินทางไปขอหมายศาลจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานเป็นเสื้อผ้าในวันที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว ภายในร่างกายของผู้ก่อเหตุมีร่องรอยเล็บ ซึ่งต้องไปตรวจเล็บของผู้ตายว่ามีดีเอ็นเอของผู้ก่อเหตุหรือไม่

461997

ขณะที่ตำรวจจะนำตัวนายรุธไปจุดที่ทิ้งเสื้อผ้า ก็ได้เป็นลมหมดสติไป ก่อนที่ตำรวจจะช่วยกันหามผู้ต้องหาไปโรงพยาบาล ซึ่งเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่าผู้ต้องหาอาจจะเครียด ภายหลังจากที่นำตัวมาทำแผนประกอบรับสารภาพ

652227

ที่ สภ.ปากคลองรังสิต พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ชี้แจงว่าภายหลังจากเกิดเหตุทางผู้กำกับและฝ่ายสืบสวนได้ช่วยกันตามหาตัวคนร้าย สืบจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อม จนทราบตัวผู้ก่อเหตุ

263185

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่น ข่มขืนกระทำชำเราอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และพาไปเพื่อการอนาจาร ส่วนภายหลังจากนี้หากทราบว่ากระทำความผิดเพิ่ม ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ขณะเดียวกันผู้ก่อเหตุ มีโรคประจำตัวเป็นโรคลมบ้าหมู หอบหืด ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ตำรวจจะตรวจสอบให้ชัดเจน

422596

ทั้งนี้ ยอมรับว่าเมื่อวานที่ผ่านมาที่ได้นำตัวผู้ก่อเหตุมาที่ สภ. ครั้งแรก ไม่มีพยานหลักฐานที่แน่ชัด จึงปล่อยตัวผู้ก่อเหตุไป จากการตรวจสอบประวัติอัชญากรรมของผู้ก่อเหตุนั้นยังไม่พบ

114521

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางพรพรรณ บางจั่น อายุ 64 ปี พี่สาวผู้ตาย และญาติ ได้นิมนต์พระมาเชิญดวงวิญญาณของผู้ตาย ได้นำกระทง 4 เหลี่ยมปักด้วยก้านธงสีขาว 4 มุม มีอาหารอยู่ข้างในพร้อมกับน้ำดื่ม มีการสวดเชิญดวงวิญญาณ

362445

นางพรพรรณกล่าวว่า "ซิ้มเอ่ย พี่มารับเอ็งแล้วนะ ไปกับพี่นะ วัดที่หนูขอบดูลิเก ไปกับพี่นะตอนนี้ จัดพิธีดอกไม้สวย ๆ ที่หนูอยากได้ รูปสวย ๆ โลงสวย ๆ ไฟประดับสวย ๆ พระอาจารย์ได้ทำให้น้องแล้วนะ งานศพของน้องสวยมากอย่างที่น้องอยากได้ อย่างที่น้องเคยพูดไว้เวลานี้น้องได้สมใจแล้วนะ" พร้อมกับร่ำไห้

158475

ทีมข่าวเดินทางมายังวัดเทียนถวาย สถานที่บำเพ็ญกุศลศพของผู้ตาย ญาติได้นำดอกไม้มาจัดเรียงอย่างสวยงาม บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางพรพรรณ บางจั่น อายุ 64 ปี พี่สาวผู้ตาย เผยว่า ภายหลังที่สามารถจับผู้ต้องหาได้ตนรู้สึกดีใจมาก ที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เร็ว ขณะเดียวกันทุกวันตนได้จุดธูปบอกให้ผู้ตายนั้นดลจิตดลใจ ให้สามารถจับคนร้ายได้เร็ว เพราะคนตายนั้นก็ทรมานเหลือเกิน

904200

ตนมองว่าผู้ตายนั้นโกรธแค้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาครอบครัวได้ถ่ายรูป แต่ไม่สามารถบันทึกรูปได้ ถ่ายรูปไม่ติด จนต้องขออนุญาตผู้ตาย นอกจากนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้ตายยังได้ไปเปิดไฟที่บ้านทิ้งไว้ ยอมรับว่ารู้จักกับผู้ต้องหาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ตนไม่คิดเลยว่าจะกล้ากระทำ ครอบครัวของตนรู้จักกับครอบครัวของผู้ต้องหามานาน กระทั่งแตกคอกันเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะตนห้ามไม่ให้แม่ของผู้ต้องหานั้นไปตบตีเจ้าหนี้ ซึ่งทางแม่ของผู้ต้องหาก็มาด่าทอตน ตนจึงไม่คุยด้วย

ตนมองว่าครอบครัวของผู้ต้องหานั้นนิสัยแย่ และที่ผ่านมายอมรับว่าครอบครัวของตนนั้นช่วยเหลือครอบครัวของผู้ต้องหาให้หยิบยืมเงิน ส่วนที่ครอบครัวของผู้ต้องหาอ้างว่าครอบครัวของตนนั้นไปหยิบยืมเงิน ไม่เป็นความจริง ตนขอยกมือไหว้สาบา หากเป็นความจริงตามที่พูดก็ขอให้จนลง ที่ผ่านมาตนไม่เคยยืมเงินของครอบครัวผู้ต้องหา ขณะเดียวกันบ้านที่ครอบครัวของผู้ต้องหาพักอาศัยนั้นก็เป็นบ้านที่ตนค้ำประกันให้ นอกจากนี้ ผู้ต้องหาเคยทำร้ายชายเร่ร่อนกระทั่งเสียชีวิต แต่ไม่มีเจ้าทุกข์ร้องเรียน จึงรอดไป

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของตนก็ตัดขาดกับครอบครัวของผู้ต้องหามานานแล้ว หลังจากนี้ก็คงไม่มีการพูดคุยกัน ตนยอมรับว่าแค้นผู้ต้องหา ช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ย. 64 ตนได้เจอผู้ต้องหา สอบถามว่าเห็นผู้ตายหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธ อ้างว่าเมาสุราแล้วนอนหลับไป หากเจอจะนำตัวผู้ตายไปที่บ้าน อยู่ในลักษณะอาการที่ไม่รู้สึกสลด นิ่งเฉย ผู้ตายนั้นรู้จักกับผู้ต้องหา เคยเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก จึงถูกผู้ต้องหาชักชวนไปได้ ที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยไปกับคนแปลกหน้า

518198

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้คลิปวิดีโอขณะที่ผู้ตายยังมีชีวิต บันทึกไว้เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 64 ช่วงเวลาหัวค่ำ ซึ่งผู้ตายมีการรำ อารมณ์ดี เนื่องจากได้พัดลมตัวใหม่

854307

ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เวลา 1002 น. นายรุธ ผู้ต้องหา เดินเข้าไปยังร้านขายของชำข้างบ้านของผู้ตาย สักพักได้เดินออกมาจากร้านขายของชำ พร้อมกับหยุดลวงกระเป๋า ขณะนั้นนายรุธไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ก่อนจะดึงหน้ากากอนามัยขึ้นจากคาง แล้วเดินต่อไป ต่อมาเดินไปหาผู้ตายที่กำลังเก็บขยะอยู่ ทั้งคู่ได้พูดคุยกัน ก่อนที่ผู้ตายจะเดินนำหน้าผู้ต้องหา ทั้งคู่ได้เดินกลับบ้านของผู้ตาย ต่อมาผู้ตายได้ออกมาซื้อน้ำอัดลม และได้เดินออกไปกับผู้ต้องหา

557281

นายนพ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี พี่ชายของผู้ต้องหา เผยว่า เมื่อวานช่วง 21.00 น. ตำรวจได้มาที่บ้านพร้อมกับเชิญตัวน้องชายไปสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะนั้นน้องชายซึมนั่งร้องไห้ ไม่ยอมชี้แจงอะไรเลย กระทั่งตนมาทราบข่าวว่าน้องชายเป็นผู้กระทำผิดจากแม่ แม่ทราบก็สติแตก รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น งตนก็ตกใจเช่นกัน และยังไม่ได้พูดคุยกับน้องชาย

ขณะเดียวกันในวันที่เกิดเหตุ 13 ก.ย. ตั้งแต่ช่วงเช้า 08.00 น. ถึงช่วงเที่ยงน้องชายก็ปกติดี ไม่มีท่าทีอิดโรยหรือร้อนรน ตนได้เพียงกลิ่นสุราเท่านั้น น้องชายก็ยอมรับว่าเสพกัญชา ส่วนร่างกายตนสังเกตเห็นว่ามีน้ำมันเปื้อนเปรอะกางเกง เสื้อตนเห็นสวมใส่สีชมพู แต่ขณะช่วงเช้าตนไม่ทราบว่าน้องชายใส่เสื้อสีอะไร ก่อนที่น้องชายจะขอตัวไปนอน และหลังจากนั้นใช้ชีวิตปกติดี

ตนขอชี้แจงว่าน้องชายไม่ได้ทำร้ายชายเร่ร่อนถึงขั้นเสียชีวิต สิ่งที่ชาวบ้านพูดนั้นต้องให้ตำรวจเป็นผู้ตัดสิน ภายหลังจากเกิดเหตุ ยอมรับว่าเป็นห่วงน้องชาย เพราะน้องชายป่วยเป็นโรคสมอง เป็นโรคลมชัก ขณะเดียวกันตนขอชี้แจงว่าครอบครัวของตนไม่ได้รับการช่วยเหลือจากครอบครัวของผู้ตาย ถึงแม้จะรู้จักกันมานาน ตนเห็นว่าพี่สาวผู้ตายมักมาขอยืมเงินแม่ของตน ตนไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับครอบครัวผู้ตาย หลังจากนี้คงต่างคนต่างอยู่ ส่วนทางครอบครัวจะประกันตัวน้องชายหรือไม่ก็คงจะไม่ ขอให้เขาชดใช้สิ่งที่ได้ทำ ยืนยันว่าน้องชายนิสัยเฮฮาไม่ได้มีพฤติกรรมทำร้ายใคร

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส