ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ เผยมวลน้ำเริ่มเข้าเขต อ.เมือง สั่งกำชับพร้อมรับสถานการณ์ขั้นสูงสุด ขณะที่ตำบลปากดุก อ.หล่มสัก ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่พื้นที่หมู่ 6 ซึ่งติดแม่น้ำป่าสักยังน่าเป็นห่วง ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนยังถูกน้ำท่วมสูง ต้องใช้เรือในการสัญจรและลำเลียงอาหารน้ำดื่ม
นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในภาพรวมในเขต อ.หล่มสัก ตอนนี้ยุบตัวลงแล้ว โดยมวลน้ำขณะนี้อยู่ที่ปากดุก อ.หล่มสัก และส่วนหัวของมวลน้ำเริ่มเคลื่อนเข้าที่ ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ แล้ว ได้กำชับให้ทางอำเภอเมืองและนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ให้จับตาดูสถานการณ์มวลน้ำที่จะไหลผ่านเขตพื้นที่อำเภอเมืองโดยเฉพาะเทศบาลเมืองฯให้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ขั้นสูงสุดในการป้องกันน้ำไม่ให้น้ำแม่น้ำป่าสักเอ่อท่วมพื้นที่ในเขตเมือง ส่วนเขตพื้นที่การเกษตรก็อาจจะได้รับผลกระทบบ้างซึ่งตอนนี้ทุกฝ่ายก็พยายามป้องกันไม่ให้มวลน้ำก้อนนี้สร้างความเสียหายและเชื่อว่าหากผ่านวันพรุ่งนี้ไปได้สถานการณ์ก็จะน่าจะไม่มีผลกระทบอะไร และมวลน้ำก้อนนี้ก็จะไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่างของจังหวัดผ่านอำเภอหนองไผ่ อำเภอบึงสามพัน อำเภอวิเชียรบุรี และอำเภอศรีเทพ ตามลำดับ
นายกฤษณ์ กล่าวอีกว่า เวลานี้คาดเดาได้เลยว่าน้ำท่วมเพชรบูรณ์จะเริ่มตรงจุดไหนและไปท่วมตรงไหน สามารถคำนวนได้แม้กระทั่งระยะเวลา ฉะนั้นการแก้ปัญหาระยะยาวได้กำชับให้ทุกอำเภอประสานกับทางชลประทานหาแนวทางแก้ไข อาทิ ทางเบี่ยงน้ำบายพาสน้ำโดยยกตัวอย่างคลองลัดโพธิ์ซึ่งในหลวง ร.9 ทรงทำที่แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นบายพาสน้ำไม่ให้เข้าสู่เขตตัวเมืองโดยเฉพาะ อ.หล่มสักและอ.เมือง ควรเร่งศึกษา ส่วนเทศบาลเมืองมีระบบป้องกันน้ำค่อนดีเยี่ยมอยู่แล้ว มีคันกั้นน้ำหรือผนังกั้นน้ำเป็นระบบป้องกันน้ำเข้าเมือง ได้แจ้งนายกเทศมนตรีฯ ให้หาแนวทางเสริมคันหรือผนังกั้นน้ำโดยให้เร่งของบฯ ในช่วงนี้เลยเพราะน้ำท่วมก็จะรู้ว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหนก็เร่งของบมาดำเนินการเนิ่นๆ ส่วนเขตพื้นที่หล่มสักก็จะประสานทางนายกเทศมนตรีเช่นกันให้หาทางเบี่ยงน้ำหรือให้น้ำผ่านชมชนเมืองหล่มสักให้น้อยที่สุด
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ยังแสดงความหนักใจเนื่องจากอยู่ในช่วงโควิดระบาดและยังมีสถานการณ์น้ำท่วมมาซ้ำเติมอีก โดยนายกฤษณ์กล่าวว่าเกรงพี่น้องประชาชนจะเดือดร้อนเรื่องทำงานไม่หนักใจแต่เรื่องความเดือดร้อนประชาชนยอมรับมีความหนักใจ แต่เชื่อว่าพายุโซนร้อนลูกนี้ไม่มีผลกระทบต่อจังหวัดเพชรบูรณ์เพิ่มเติมแล้วเพราะ 2 วันมานี้ฟ้าเปิดและจากข่าวสารกรมอุตุนิยมวิทยาก็แจ้งว่าเส้นทางพายุลูกนี้เปลี่ยนผ่านไปทางอื่นโดยไม่ผ่านเพชรบูรณ์แล้ว ส่วนสถานการณ์โควิดของ จ.เพชรบูรณ์ ก็ดีขึ้น ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อไม่มากแล้วราวแค่ 10-30 ราย อยู่ประมาณนี้ซึ่งสามารถควบคุมได้
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ตำบลปากดุก อำเภอหล่มสัก ซึ่งมี 4 หมู่บ้านได้รับผลกระทบทันทีกว่า 362 หลังคาเรือน ประกอบด้วยหมู่ 6 จำนวน 135 หลัง หมู่ 4 จำนวน 157 หลัง หมู่ 3 จำนวน 40 หลัง และหมู่ 2 จำนวน 30 หลัง ล่าสุดเช้าวันนี้แหล่งข่าวเปิดเผยว่าจากวันแรกที่น้ำเริ่มท่วมจนถึงขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงจากวันแรกแล้วราว 50 ซม. แต่ว่าราษฎรทั้ง 4 หมู่บ้านบางส่วนยังคงถูกน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำโดยเฉพาะราษฎรหมู่ 6 ที่บ้านเรือนปลูกอาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำป่าสักยังคงถูกน้ำท่วมสูงราษฎรกว่า 100 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบไม่สามารถเข้าออกได้จำเป็นต้องใช้เรือในการสัญจรและลำเลียงอาหารแห้งข้าวกล่องน้ำดื่มเข้าไปแจกจ่ายอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแม้สถานการณ์มวลน้ำจะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่เขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์บ้างแล้ว แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากทางต้นน้ำเขตอำเภอหล่มเก่าว่ามีฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำป่าสักหนุนสูงต่อเนื่องซึ่งจะต้องมีการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมืออย่างใกล้ชิด
