โจ๋วัยใสย่างสดลูกอ้างแท้งเฝ้าศพ 4 วันก่อนเผา เพื่อนบ้านยันเรียนดีไม่รู้คบสาว (คลิป)

13 ก.ย. 64

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 ก.ย.64 เวลา 07.30 น. ร.ต.อ.นิธินันท์ ศรีรุต ร้อยเวร สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง รับแจ้งเหตุพบศพทารกถูกเผาแล้วมาทิ้งไว้ในพงหญ้า บริเวณลานออกกำลังกาย ซอยต้นจิก ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง

219099349259

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในขณะเกิดเหตุมีวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์มาจอด และโดยมีชายสวมใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ได้เปิดเบาะมอเตอร์ไซค์และได้หยิบกระเป๋าออกมา ก่อนที่จะเดินไปที่จุดที่พบศพเด็ก ผ่านไปครู่หนึ่งจะเห็นว่าเกิดประกายไฟออกมา ซึ่งตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว เป็นพ่อแม่วัยใส อายุ 17 ปีทั้งคู่ ซึ่งตำรวจได้เรียกตัวมาสอบปากคำที่ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง

142975

วันที่ 13 ก.ย. 64 ทีมข่าวโทรศัพท์พูดคุยกับ พ.ต.อ.ภาสกร ไพรจิตต์ ผกก.สภ.มาบตาพุด ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา "ลอบซ้อนเร้นทำลายศพ" กับพ่อและแม่วัย 17 ปี ของศพเด็ก ซึ่งหากพบผลชันสูตรสาเหตุการตายที่มีความผิด ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม แต่เนื่องจากทั้งคู่ยังเป็นเยาวชน ทางตำรวจจึงให้ประกันตัวไป

674009

จากการสอบปากพ่อแม่วัยใส ให้การว่า ทั้งคู่มีสัมพันธ์กันโดยที่ผู้ปกครองไม่รู้ กระทั่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ฝ่ายหญิงประจำเดือนไม่มา และตรวจครรภ์พบว่าตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่ได้บอกผู้ปกครอง จนเดือนมีนาคม 2564 ฝ่ายหญิงพบว่ายังมีประจำเดือนมาปกติ แต่ตลอดเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงเริ่มมีร่างกายที่อวบอิ่มขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะตั้งท้อง

873072

กระทั่งเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 64 ฝ่ายหญิงรู้สึกปวดท้องจึงไปเข้าห้องน้ำ เมื่อเบ่งออกมาก็พบว่ามีเด็กหลุดออกมาด้วย ด้วยความตกใจจึงไม่กล้าบอกใคร บอกเพียงฝ่ายชายที่เป็นแฟนหนุ่ม และเก็บเด็กเอาไว้ในบ้านของฝ่ายหญิง โดยการจับเช็ดตัวและห่อผ้าตามปกติ และรักเหมือนลูก แต่ในขณะนั้นเด็กไม่มีลมหายใจแล้ว เมื่อผ่านไป 3-4 วัน ศพทารกก็เริ่มส่งกลิ่นเหม็น ทั้งฝ่ายชายและหญิงก็มีความเชื่อว่าถ้านำเด็กไปเผา ลูกก็จะไปสู่สุคติ

cg

ในวันที่ 11 ก.ย. 64 เวลา 20.30 น. พ่อของเด็กจึงได้ซื้อน้ำมันเบนซินและนำศพทารกใส่กระเป๋า ยัดช่องใต้เบาะมอเตอร์ไซค์ พ่อของเด็กได้ชักชวนเพื่อนชายอีกคน ขี่ไปที่บริเวณลานออกกำลังกาย ซอยต้นจิก ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง และได้นำศพทารกไปใส่ถังเหล็ก 2000 ลิตรที่ถูกตัดครึ่ง และนำน้ำมันเบนซินราดและจุดไฟเผา ซึ่งรออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ศพก็ไหม้ไม่หมด จึงได้นำศพไปโยนทิ้งไว้ที่พงหญ้าซึ่งเป็นจุดพบศพ เนื่องจากช่วงที่เผานั้นเป็นเวลาใกล้ 21.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเคอร์ฟิว จึงทำผู้ก่อเหตุรีบกลับออกมาก่อน ปล่อยศพเอาไว้ในจุดเกิดเหตุ

เบื้องต้น ตำรวจได้เก็บหลักฐานในสถานที่ต่าง ๆ ตามคำกล่าวอ้างของพ่อแม่เด็ก และได้เชิญเพื่อนของพ่อเด็กที่เดินทางไปด้วยมาสอบปากคำ เพื่อนำผลไปประกอบสำนวน

457853715656

ทีมข่าวย้อนกลับไปที่จุดเกิดเหตุบริเวณลานออกกำลังกาย ซอยต้นจิก ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งพบถังเหล็ก 200 ลิตร ที่ใช้เผาศพทารก ยังมีคราบเขม่าดำติดอยู่ ห่างออกไป 50 เมตร บริเวณพงหญ้าที่พบศพ เจอร่องรอยมีคนมาไหว้วิญญาณ เพราะมีกล่องนมจืด 1 กล่อง และธูป 1 ดอก ปักอยู่

560222

นางล้อม (นามสมมติ) ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ยอมรับว่ากล่องนมและธูปที่อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น สามีของตนเป็นคนเอาไปไหว้วิญญาณเด็ก และได้บอกกับวิญญาณว่า "ช่วยน้องได้แล้วนะ ให้ไปเกิดกับคนที่เขาอยากมีลูก" เพราะในวันที่เจอศพ สามีของตนก็ไปดูที่เกิดเหตุ และเจอศพเด็กนอนคว่ำอยู่ สภาพไหม้เกรียมจึงเอาไม้เขี่ย เมื่อมั่นใจว่าเป็นศพเด็กช่วยโทรประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ตนไม่แน่ใจว่าคนก่อเหตุเป็นใคร เพราะจุดดังกล่าวเป็นสถานที่สาธารณะ มีทั้งเด็กวัยรุ่นและคนวัยทำงาน เข้าไปนั่งพักผ่อนเป็นประจำ และเข้าไปแตกต่างเวลากัน ทั้งช่วงเย็นและช่วงค่ำ ตนไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของพ่อแม่ของทารกที่อ้างว่าแท้งเด็กออกมา เพราะศพเด็กนั้นค่อนข้างโต มีแขนขา ดวงตาสมบูรณ์ แต่ยังไม่มั่นใจว่าเด็กเป็นเพศอะไร อย่างไรก็ตาม ผ่านไป 1 คืนแล้วก็ยังไม่เจอสิ่งลี้ลับอะไร แต่ยอมรับว่ารู้สึกกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

224961

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายแมน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พ่อของศพทารก บ้านห่างจากจุดพบศพประมาณ 2.4 กิโลเมตร และพบว่าบ้านยังถูกปิดเงียบ นางอ้อย (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ที่บ้านของนายแมนนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน ซึ่งตนไม่รู้มาก่อนว่านายแมนเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ยอมรับว่าได้ติดตามข่าวอยู่ แต่ก็ไม่คิดว่านายแมนจะเป็นคนก่อเหตุ เพราะโดยปกติแล้วนายแมนไม่ใช่เด็กเกเร ซึ่งตัวนายแมนนั้นเรียนอยู่ย่านนนทบุรี และไม่เคยเห็นว่าเขาจะเอาผู้หญิงมาที่บ้านเลย เมื่อวานนี้ตนเห็นตำรวจมาหานายแมนที่บ้าน แต่เขาก็เข้าไปพูดคุยกันในบ้าน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเขาพูดคุยเรื่องอะไร แต่เห็นตำรวจรับตัวนายแมนไปตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งวันนี้ยังไม่เห็นตัวของนายแมนเลย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส