อดีตครูอ้างบรรลุเป็นศาสดาดิ่งตึกดับ พ่อเผยชอบไหว้แดดดูไตรปิฎก พระพยอมห่วงตีความผิด

6 ก.ย. 64

กรณี ร.ต.อ.อธิคม แสวงจิตต์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากการพลัดตกจากชั้น 3 ความสูง 12 เมตร ภายในซอยประชาอุทิศ 9 จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

356504

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อยู่บริเวณหน้าบ้าน ซอยประชาอุทิศซอย 9 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายมนวีร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี อยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้า มีสารคัดหลั่งออกที่บริเวณหู จมูก ปาก เป็นจำนวนมาก เบ้าตาข้างซ้ายบวมปูดเขียวช้ำ ฟันหัก ที่บริเวณศีรษะมีบาดแผล และที่เท้ามีบาดแผลถลอก ลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว กางเกงขายาวสีกรมท่า และไม่สวมรองเท้า

ล่าสุดวันที่ 6 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซอยประชาอุทิศ 9 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ซึ่งพบว่าหลังคากันสาดหน้าบ้านมีรอยบุบ เกิดจากผู้ตายที่ตกมากระทบหลังคาก่อนร่างจะร่วงลงมากระแทกพื้น

426197

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายนัน (นามสมมติ) อายุ 63 ปี เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าลูกชายมีอาการทางจิตอ่อน ๆ มานานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำร้ายตัวเองแบบนี้ ตนคาดว่าสาเหตุอาจจะเป็นเพราะลูกชายมักจะชิบอ่านหนังสือพระไตรปิฎกตั้งแต่เด็ก ๆ ประกอบกับป่วยโรคทางประสาท ทำให้เขาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่อ่านนั้นคืออะไร

786588

หากย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เดิมทีลูกชายเป็นคนที่เรียนเก่งมาก ๆ สอบติดแพทย์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ แต่เรียนไม่จบก็กลับมาเรียนสายวิทยาศาสตร์ ซึ่งตนก็ทราบว่าในช่วงที่เรียน ลูกชายเริ่มอ่านหนังสือพระไตรปิฎกแล้ว แต่ตอนนั้นลูกชายยังไม่มีอาการอะไร ซึ่งหลังจากลูกชายเรียนจบปริญญา ลูกชายก็ไปเป็นครูประมาณ 3 ปี หลังจากนั้นก็ลาออกมาเป็นอาจารย์กรวดวิชาอีก 2 ปี แต่สุดท้ายก็ลาออก เพราะลูกชายเริ่มป่วยทางประสาทกลายเป็นคนเก็บตัว ชอบเล่นเฟซบุ๊กและมักจะถกเถียงเกี่ยวกับพระพุทธศาสนากับเพื่อนในเฟซบุ๊ก ไม่ยอมออกจากห้อง มีอาการเหม่อลอย ชอบนั่งกอดเข่า บางครั้งก็ชอบคิดว่าตัวเองเป็นศาสดาและไปยืนนิ่ง ๆ พร้อมกับพยมมือไหว้ที่กลางแดดหน้าบ้าน

cg_7

ที่ผ่านมา ตนก็พาลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง แต่ลูกชายก็ไม่ยอมกินยา อาการก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งเมื่อ 3 เดือนก่อน จับลูกชายไปรักษาตัวอีกที่ แต่สุดท้ายแพทย์ก็ให้กลับมาอยู่บ้านและกินยา ซึ่งช่วงเดือนสุดท้ายลูกชายก็ไม่ยอมกินยา ตนก็พยายามแอบผสมยาไปในอาหารแต่ก็ไม่สำเร็จ

กระทั่งในคืนวันที่ 4 ก.ย.64 ลูกชายหายออกจากบ้านไป รุ่งเช้าวันที่ 5 ก.ย.64 ตนก็ไปแจ้งตำรวจ ได้เบาะแสว่าลูกชายนอนอยู่ริมถนนที่แถวซอยราษฎร์บูรณะ 42 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 3.5 กิโลเมตร ตนจึงไปตามลูกกลับบ้าน ซึ่งตอนที่ตนไปเจอลูกชายมีอาการพูดเพ้อเจ้อว่า "ผมมีความผิดบางอย่าง เป็นบาปที่เกิดจากผมเอง และผมสำนึกความผิดของตัวเองแล้ว" จากนั้นตนก็พากลับบ้านและให้อยู่ในห้องที่ชั้น 3 ผ่านไป 5 นาทีตนก็ได้ยินเสียงร่างลูกชายร่วงตกพื้นหน้าบ้าน

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าเป็นเพราะอาการทางประสาทของลูกชาย ไม่เกี่ยวกับลัทธิ เพราะลูกชายก็นับถือพระพุทธศาสนา ไม่ได้นับถือลัทธิอะไร อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากฝากเรื่องของลูกชายเป็นอุทาหรณ์ ครอบครัวใดที่มีผู้ป่วยก็อยากให้ดูแลผู้ป่วยดี ๆ ไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีเช่นครอบครัวของตน

920055

ทีมข่าวย้อนกลับไปยังปากซอยราษฎร์บูรณะ 42 กทม. ซึ่งเป็นจุดที่มีคนมาเจอนายมนวีร์ เดินเร่ร่อนก่อนที่จะเสียชีวิต โดยทีมข่าวได้พบกับ น.ส.อุ้ม (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ชาวบ้านที่เจอผู้เสียชีวิตก่อเกิดเหตุ ได้พาทีมข่าวไปดูหน้าอาคารพาณิชย์ริมถนน ซึ่งผู้ตายมานอนก่อนที่จะฆ่าตัวตาย

133730

น.ส.อุ้ม เปิดเผยว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 ตนเจอกับนายมนวีร์ มานอนอยู่ที่หน้าร้าน ซึ่งเขาก็ดูแต่งตัวดี เสื้อผ้าไม่ได้เปรอะเปื้อน ไม่เหมือนคนเร่ร่อน อีกทั้งข้าง ๆ ยังพบถ้วยข้าวและอาการอีกมากมาย แต่ก็ไม่มีอาการเหม่อลอยหรือคลั่ง ไม่มีท่าทีว่าจะฆ่าตัวตาย เพียงแค่นอนหลับอยู่หน้าบ้าน ซึ่งตนคิดว่าเขาเป็นแค่คนเร่ร่อน ไม่คิดว่าเขาจะมีครอบครัวหรือป่วยทางประสาท

หลังจากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปที่งานศพของนายมนวีร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยพิธีสวดมีญาติ ๆ มาร่วมตัวกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม เนื่องจากยังรู้สึกเศร้าสลดกับการเสียชีวิตของนายมนวีร์ ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้ตาย พบว่าเฟซบุ๊กถูกปิดไปแล้ว

312317

พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า พระพุทธเจ้าท่านเปรียบศาสนาของพระองค์ว่า เหมือนหญ้าคา ถ้าถอนดี กำดี ๆ ให้แน่น เอาไปมุงหลังคากันแดด กันฝน ให้ความร่มเย็นอยู่รอดปลอดภัย แต่ถ้ากำไม่ดี อาจจะบาดมือได้ คนที่อ่านพระไตรปิฎกแล้วไปกระโดดตึกตาย เข้าข่ายลักษณะกำหญ้าคาไม่ถูกวิธี จับไม่ถูกวิธี หรือจับประเด็นคำสอนไม่ถูกต้อง เพราะการที่เราจะอ่านพระไตรปิฎกให้ดับทุกข์ ไม่ใช่เพื่อไปกระโดดตึกหนีทุกข์ แต่ทุกข์มีให้เราเห็นไม่ได้มีให้เราเป็น เรามีตัวตนมีสติปัญญาทำตัวตนให้เป็นที่พึ่งคือการทำความดี

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส