แฉ! “หลวงตาเทพ” ชกพม่าวีรกรรมถี่ พังร้านกาแฟ สมภารเอือม ไล่ก็ไม่สึก (คลิป)

จากรณีที่มีคลิปจากกล้องวงจรปิด ขณะมีพระสงฆ์ต่อยคนงานชาวเมียนมาที่ทำงานอยู่ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรุนแรง และความเหมาะสมของการกระทำดังกล่าว

โดยต่อมา พระชาญเทพ เสียงโสภณ หรือ หลวงตาเทพ พระภิกษุที่ปรากฎในคลิป เปิดเผยว่า สาเหตุที่กระทำดังในคลิปเนื่องจากเคยถูกไล่อย่างกับหมูกับหมา จะมาขอขมาฉันได้อย่างไร

นอกจากนี้ หลวงตาเทพบอกด้วยว่า สาเหตุที่เกลียดพม่า เพราะในอดีตชาติเคยเป็นทหารรบของพระเจ้าตากสิน รู้สึกโกรธแค้นที่พม่ามาบุกบ้านเมือง จึงทำให้ไม่ชอบพม่ามาตั้งแต่แรก (อ่าน : แฉคลิปพระต่อยพม่า อ้างอดีตเป็นทหารพระเจ้าตาก เจอข้าศึกต้องเอาคืน)

วันที่ 6 ต.ค. 61 นางจำปี จารุสุวรรณกุล เจ้าของร้านกาแฟบริเวณวัด เปิดเผยว่า หลวงตาเทพเคยมาทำร้ายตน เนื่องจากมีคนเอาเงินของหลวงตาไป แต่หลวงตากลับมาโทษตนว่าเป็นคนเอาไป ยืนยันว่าตนไม่ได้ยืมเงินหลวงตา 3,000 บาท แต่ก็ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ก็เคยยืมเงินหลวงตา แต่ตนก็คืนเงินไปหมดแล้ว ซึ่งในวันที่หลวงตามาพังร้านตนนั้น หลวงตาให้เหตุผลว่าตนไม่ยอมคืนเงินที่ยืมไป ทั้งที่คืนไปหมดแล้ว แต่กลับถูกหลวงตาใช้ไม้คมแฝกตีร้านขนมปังปิ้งและตีเข้ากลางหลังตน ซึ่งทำให้หลังบวมแดง แม้ว่าตนจะไปแจ้งความที่โรงพัก แต่ตำรวจก็ไม่รับ โดยบอกว่า "จะแจ้งทำไมกับพระแก่ๆ" นางจำปียืนยันว่าหลวงตานำไม้คมแฝกมาตี โดยให้เหตุผลว่าหมั่นไส้ และไม่เคยให้เงินรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ส่วนเรื่องปืนนั้นตนก็ไม่ทราบว่ามีหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ยิมเงินนั้น เป็นเพราะหลวงตาเห็นว่าครอบครัวของตนลำบาก จึงยื่นเงินมาช่วยเหลือ 2,000 บาทเท่านั้น

ด้าน น.ส.พรทิพย์ แพสุพัฒน์ ลูกสาวบุญธรรมของหลวงตาเทพ เปิดเผยว่า ช่วงต้นเดือน ก.ย. ตนเห็นลูกจ้างชาวเมียนมาไล่หลวงพ่อ เนื่องจากข้าวไม่สุก และไม่ได้ใส่บาตร แต่ตนไม่ได้ด่าคนในร้าน ตนเข้าไปพูดดี ๆ เพราะไม่เข้าใจว่าลูกจ้างชาวเมียนมาไล่หลวงพ่อทำไม เพราะเหตุนั้นทำให้หลวงพ่อคาใจมาตลอด จึงทำให้เกิดเรื่องที่หลวงพ่อไปต่อยชาวเมียนมา หลังจากนั้นหลวงพ่อก็เดินไปที่โรงพักเพื่อมอบตัว และยอมรับกับตำรวจว่าต่อยชาวเมียนมาจริง แต่ก็ไม่ได้ลงบันทึกประจำวัน น.ส.พรทิพย์ เล่าต่อว่า โดยปกติแล้วเจ้าของร้านอาหารนั้น ไม่ได้มีเหตุเคืองใจกับหลวงพ่อ ส่วนเรื่องที่หลวงพ่อไปพังร้านกาแฟ แล้วใช้ไม้ตะพดตี เนื่องจากนางจำปี ติดเงินหลวงพ่อประมาณ 3,000 บาท แต่หลังตีเสร็จ หลวงพ่อก็ให้เงินไปซื้อของอีก ซึ่งของก็ไม่ได้เสียหายมาก ไม่ได้รุนแรง แต่ตนก็อยากให้หลวงพ่ออโหสิกรรมให้นางจำปีและคนงานชาวเมียนมา เพราะหลวงพ่อเป็นพระที่ดี ตนก็ยินดีให้มาขอขมา เพราะบางครั้งหลวงพ่อก็หลง ๆ ลืม ๆ เนื่องจากอายุมากแล้ว

ขณะที่ นายสันติ ทินปราณี ลูกศิษย์หลวงตาเทพ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุต่อยชาวเมียนมา ตนตามไปด้วย แต่ก็ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งในวันนั้นเจ้าของร้านอาหารก็มาโวยวายใส่หลวงพ่อ ตนก็ได้พยายามขอโทษ หลังจากนั้นหลวงพ่อก็เดินไปมอบตัวที่โรงพัก ทั้งนี้ ลูกศิษย์หลวงพ่อมีเยอะ บางวันไปบิณฑบาตต้องใช้รถเข็นขนของกลับ อีกทั้งคนชอบพูดคุยกับหลวงพ่อ เพราะหลวงพ่อชอบพูดคุยและให้พร ยืนยันว่า ตนศรัทธาหลวงพ่อด้วยความจริงใจ

อย่างไรก็ตาม พระครูสถิตสารสุนทร เจ้าอาวาสวัดไผ่ตัน เปิดเผยว่า ทราบเรื่องที่หลวงตาเทพไปต่อยคนงานชาวเมียนมาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถลงโทษทางวินัยได้ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นคดีอาญา อยากให้ไปสู้คดีกันในทางโลก หรือถ้าเป็นเหตุซึ่งหน้าตำรวจก็สามารถจับไปได้ โดยพฤติกรรมของหลวงตาเทพ ถ้าอยู่ในวัดก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะมีปัญหาเมื่อออกไปข้างนอกเท่านั้น ซึ่งตั้งแต่หลวงตาเทพบวชมา 38 ปี ก็เกิดเรื่องชกต่อยหลายครั้งแล้ว ส่วนเรื่องการปล่อยเงินกู้นั้น ตนก็คิดว่าหลวงตาเทพคงไม่มีเงินจะปล่อยเงินกู้ได้ เพราะมีเท่าไรก็มักจะมีคนมาขอยืมเงิน ซึ่งหลวงตาเทพก็ได้ให้ไปจนหมด ส่วนเรื่องปืนนั้นก็ทราบมาว่าหลานของหลวงตาเทพที่เป็นทหารเคยนำมาฝากไว้ แต่ตอนนี้จะยังมีอยู่หรือไม่ก็ไม่ทราบ พระครูสถิตสารสุนทรบอกอีกว่า ตนก็เคยเตือนหลวงตาเทพแล้วว่าอย่าออกไปไหน เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องอีก แต่หลวงตาเทพก็ไม่ยอมและออกไปข้างนอก และแม้ว่าเจ้าคณะอำเภอจะให้หลวงตาเทพสึกพ้นจากวัดไป แต่หลวงตาเทพก็ไม่ยอมสึกและไม่ยอมไป ส่วนเรื่องหลวงตาเทพไปพังร้านกาแฟนั้น ก็เพราะว่าเวลาที่หลวงตาเกิดโทสะ หรือโมโห ก็มักจะระแวงและไปทำร้ายผู้อื่น ซึ่งตนก็ยืนยันว่าหลวงตาไม่ได้ป่วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะนิสัย โดยถ้าหากเกิดเรื่องอีกก็ขอให้ทางโลก หรือตำรวจจัดการได้เลย