โผล่อีก! วัดปริวาสฯ ถูกผู้พักคอนโดร้องสวดมนต์ดัง เจ้าอาวาสทำกระจกกั้นจบปัญหา (คลิป)

จากกรณีมีการร้องเรียนเรื่องวัดปริวาสราชสงคราม ว่าทางวัดส่งเสียงดัง เช่น การตีระฆัง และการตีกลอง รวมถึงเสียงพระสวดมนต์ส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อยู่อาศัย ภายในคอนโดมิเนียมใกล้เคียงนั้น

วันที่ 4 ต.ค. 61 ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดปริวาสราชสงคราม ห่างจากคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ประมาณ 200 เมตร แต่ไม่พบพระราชพัฒนากร เจ้าอาวาส เนื่องจากไปกิจนิมนต์

คุณหมี เจ้าหน้าที่วัด เปิดเผยว่า จากกรณีมีผู้ร้องเรียนเรื่องเสียงระฆัง และเสียงสวดมนต์นั้น เจ้าอาวาสก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงปรับปรุงหอสวดมนต์ โดยสร้างหอสวดมนต์เป็นห้องกระจกทั้งหมด และสร้างหลังคาเพื่อกันเสียง ไม่ให้ออกไปสู่ภายนอก รวมถึงพยายามลดเสียงตีระฆัง เสียงตีกลอง เพื่อให้คอนโดฯ กับวัดอยู่ด้วยกันได้ ซึ่งตั้งแต่ตนอยู่มา ก็ไม่มีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องเสียงดัง มีเพียงคนเดิม ๆ ที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ 1-2 คน ร้องเรียนมาเท่านั้น ตนก็ไม่รู้ว่าเขานับถือศาสนาใด แต่ไม่ว่าศาสนาใดก็แล้วแต่ ก็พยายามให้อยู่ด้วยกันได้ ตนยังมองว่า เรื่องเสียงที่ออกไปก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะคนที่ฟัง ก็จะได้ยกระดับจิตใจ และปลดจากความทุกข์ และเป็นการสั่งสอนชาวบ้านไปในตัวด้วย ส่วนเรื่องเมรุเผาศพ ทางวัดก็มีการปรับปรุง ชาวบ้านก็ไม่เคยร้องเรียน เพราะเมรุได้มาตรฐานของทางเขตยานนาวา และยืนยันว่า ไม่มีควัน และไม่มีกลิ่น

ทั้งนี้ คุณหมีได้พาทีมข่าวสำรวจบริเวณหอสวดมนต์ พบว่ามีการสร้างหลังคาอย่างมิดชิด เป็นทางยาวกว่า 50 เมตร เพื่อป้องกันเสียงออก อีกทั้งห้องสวดมนต์ก็เป็นห้องกระจกทั้งหมด

พระอัศวิน สุคนโธ เลขาเจ้าอาวาส เปิดเผยว่า เคยมีคนในคอนโดฯ มาร้องเรียนเรื่องเสียงระฆัง การแห่นาคบวชพระ และฝุ่นละออง ควันจากเมรุ และเรื่องสวดมนต์เสียงดัง ในเรื่องเสียงนั้น ระยะแรกจะร้องเรียนไปทางเขตยานนาวา เจ้าหน้าที่เขตเข้ามาถ่ายรูป และตรวจสอบ ในระยะที่ 2 ได้ร้องเรียนไปทางสำนักพระพุทธศาสานา สำนักพุทธฯ ก็ได้ส่งจดหมายมายังวัดเพื่อให้ดำเนินการแก้ไข และให้ทำความเข้าใจกับประชาชน ต่อมาก็ร้องเรียนไปถึงสำนักนายกฯ หลังจากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่มาพูดคุย ซึ่งทางวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเปลี่ยนเวลาตีระฆังปลุกพระมาทำวัตร จากเดิมที ตีระฆังเวลา 04.00 น. คือเวลาก่อนทำวัตร เปลี่ยนเป็นตีระฆังในเวลา 05.30 น. คือหลังทำวัตรเสร็จแล้ว ส่วนเรื่องการเปลี่ยนเวลาตีระฆัง แล้วจะกระทบต่อประเพณีนั้น ตนมองว่าประเพณีไหนที่ดี ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนนั้น ก็ควรจะรักษาไว้ ซึ่งทางวัดก็ได้ปรับอย่างเหมาะสม คือเปลี่ยนเวลาตีระฆัง และสร้างหลังคาป้องกันเสียง และสร้างห้องสวดมนต์เป็นห้องกระจก เพื่อป้องกันเสียง ซึ่งหลังจากปรับปรุง ก็มีร้องเรียนอยู่บ้าง เมื่อมีมหรสพ หรือมีงานที่ส่งเสียงดัง ในส่วนเรื่องการร้องเรียนเมรุเผาศพนั้น ตนก็คาดว่าเป็นคนเดียวกันที่ร้องเรียน เพราะจากการที่ตนได้พูดคุยกับนิติบุคคล ทางคอนโดฯ ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ เพราะมีแค่คนที่อาศัยแค่บางคนเท่านั้น ซึ่งตนอยากบอกประชาชนว่า ให้ช่วยกันรักษาประเพณีเอาไว้ คนละครึ่งทางก็ได้ ส่วนเรื่องวัดอยู่ก่อนคอนโดฯ ตนก็ไม่อยากให้ไปยึดติดว่าวัดอยู่ก่อนหรือหลัง