หลังจากที่เมื่อค่ำคืนวันที่ 21 สิงหาคม นักแสดงสาวปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ได้แจ้งข่าวเศร้าที่สุดในชีวิตของเธอกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของคุณแม่ ที่ประสบอุบัติเหตุล้ม แล้วศีรษะฟาดพื้น จนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ซึ่งตอนนั้นอาการถึงขั้นโคม่า ต้องมีการผ่าตัดเอาเลือดคั่งในสมองออก และรักษาตัวมาเรื่อยๆ มานานกว่า 3 เดือน ก่อนจะเสียชีวิตลงในวัย 60 ปี
ทางครอบครัวก็ได้จัดพิธีไว้อาลัยตามศาสนาคริสต์ ให้คุณแม่ดาวทิพย์ วัชรตระกูล คุณแม่ของ ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ณ วัดพระมหาไถ่ กรุงเทพ โดยพิธีเริ่มขึ้นในเวลา 15.00-17.00 น.
และเนื่องด้วยมาตราการรักษาความปลอดภัยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 จึงมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธี ทำให้มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่เดินทางมาในวันนี้ อาทิ อั้ม พัชราภา , จิ๊บ วสุ , ญิ๋งญิ๋ง ศรุชา , กวาง ฟ้ารุ่ง , เกี่ยวก้อย ขวัญกวินท์ (ใส่แมสสีฟ้านั่งติดกัน3คน) และที่สำคัญอดีตหวานใจอย่างไมค์ ภัทรเดช ก็มาร่วมงานด้วยเช่นกัน
ส่วนคนในวงการบันเทิงที่ไม่ได้มาร่วมงานก็ส่งพวงหรีดมาไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก อาทิ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ , นิวเคลียร์-ไทก้า , นิว วงศกร - นาว ทิสานาฏ , เอส กันตพงศ์ , รถเมล์ คะนึงนิจ , พุฒิ-จุ๋ย , ดีเจมะตูม , นุ่น - ต๊อด , เบลล่า ราณี , เป้ย ปานวาด , หนิง ปณิตา , แคทรียา อิงลิช
โดยสาวปุ๊กลุก ได้มีการขึ้นกล่าวประวัติคุณแม่ดาวทิพย์ โดยมีน้ำเสียงที่สั่นเครือตลอดการกล่าว และเมื่อมีการถวายเพลงพิเศษตามศาสนาคริสต์ สาวปุ๊กลุก ก็ร้องเพลงทั้งน้ำตา เรียกว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
หลังจากนั้น ปุ๊กลุก ก็ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกหลังสูญเสียคุณแม่ว่า ย้อนกลับไปช่วงแรกที่เกิดอุบัติเหตุ อาการดีขึ้นมาก แต่พอมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ทุกอย่างก็เริ่มแย่ลง
โดยตอนแรกที่เข้าโรงพยาบาล คุณหมอแจ้งเลยว่าอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน แต่คุณแม่ก็สู้มานานถึง 3 เดือน ทำให้คุณหมอยังบอกเลยว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่อยู่มาได้นานขนาดนี้ เพราะแผ่นฟิล์มเอ็กซเรย์เห็นชัดเจนเลยว่า คุณแม่เส้นเลือดในสมองแตกบริเวณแกน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะไว้สั่งการทุกอย่าง และผลยังชี้อีกว่า ขาดอากาศหายใจนานเกินไป จนสมองบวม ทำให้ไม่สามารถผ่าตัดได้
คุณหมอเลยแจ้งตั้งแต่ต้นว่า ไม่มีเหตุผลเลยที่จะรักษาเพราะยังไงก็ไปต่อไม่ได้ (ร้องไห้) แต่ตนก็ให้โอกาสคุณแม่ได้เลือกเอง จึงไม่ปล่อยมือและรักษาอย่างเต็มที่ จนในที่สุดได้ใช้ยาตัวสุดท้าย ซึ่งไม่มียาไหนใช้ได้อีกแล้ว โดยพอเห็นร่างกายแม่แย่ลง ตนก็เลยให้แม่เลือกเอง ว่าถ้าเหนื่อย ถ้าไม่ไหว ก็ค่อยๆไปนะ
ส่วนหนึ่งตนคิดว่าที่แม่สู้มาได้ถึง 3 เดือน เพราะแม่รู้ว่าลูกๆทำใจไม่ได้ มันกระชั้นชิดเกินไป แล้วแม่ก็เป็นศูนย์กลางของครอบครัว ซึ่งแม่ก็อยู่ได้ด้วยความเชื่อของพวกตน ถึงแม้แม่จะอาการแย่มากๆ จนหมอบอกให้ทำใจ แต่ทุกคนในครอบครัวไม่เคยทำใจ เพราะเชื่อว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น คุณหมอยังบอกเลยว่า ครอบครัวตนกำลังใจดีมาก เคสอื่นอาจถอดใจ ลดการช่วยเหลือลงแล้ว โดยทุกครั้งที่ได้คุยกับคุณแม่ จะบอกตลอดว่า สู้นะ อีกนิดเดียว ไม่เคยพูดเลยว่าจะปล่อยมือ
ถามว่าตอนนี้เข้มแข็งขึ้นไหม ทุกคนที่เคยสูญเสีย จะรู้ว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง อย่างคุณพ่อตนไม่เคยเขาเป็นแบบนี้ เขาร้องไห้ตลอดเวลา เนื่องจากพ่อและแม่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 40 ปี ไม่เคยแยกจากกันเลย ทำให้ทุกวันนี้ตนและพี่สาวนอนดึกกันมาก เพราะต้องคอยส่งพ่อเข้านอนก่อน หลังจากนี้ตนจะอ่อนแอไม่ได้ เพราะต้องคอยทำดีต่อพ่อด้วย (ร้องไห้)
โดยทุกคนในครอบครัวอยากจะจากไปอยู่กับแม่ เพราะรู้สึกว่าอีกโลกต้องสวยงามมากๆ ตนก็เลยอยากจะบอกว่าขอให้แม่ไปรอก่อนชั่วคราว วันหนึ่งพวกเราจะได้อยู่ด้วยกัน และไม่ต้องจากลากันอีก ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์
ตนอยากจะบอกว่า แม่เป็นนักสู้มาตลอด แม้กระทั่งตอนป่วย ก็ยังสู้จนมั่นใจว่าคนในครอบครัวจะทำใจได้ระดับหนึ่งแล้ว จึงจากไป โดยคุณแม่จะอยู่ในใจพวกตนตลอดไป
สำหรับวันนี้ตนก็ทำพิธีหลายอย่างด้วยตัวเองแบบเต็มที่ และวันพฤหัสบดีนี้จะทำพิธีแบบเดิมอีกครั้ง ก่อนที่ในวันศุกร์จะเคลื่อนย้ายร่างแม่จากโรงพยาบาลไปฝังที่จังหวัดสระบุรี ที่เลือกแบบฝังแทนการเผา เพราะเวลาคิดถึงก็จะได้ไปหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปุ๊กลุก แจ้งข่าวเศร้า คุณแม่จากไปอย่างสงบแล้ว
- แชมป์ ชนาธิป ลั่นถ้าไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่ยอมแน่! พ่อต้องพิการตลอดชีวิต
- ปุ๊กลุก แจงดราม่า รพ. ขอโทษรับปากจะพัฒนาองค์กร ด้านคุณแม่อาการดีขึ้นแล้ว
