สยองขาศพน้องเอิร์ธโผล่แบ็กโฮหั่นขาด แม่-พ่อเลี้ยงปัดฆ่าเชื่อตกบ่อปูนฝังทั้งเป็น (คลิป)

24 ส.ค. 64

กรณี ด.ช.เอิร์ธ อายุ 4 ขวบ หายตัวไปจากที่พักแคมป์คนงาน ซอยมอเตอร์เวย์ 9 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร เมื่อ 17 ส.ค.64 ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 23 ส.ค.64 ไปพบเจอร่างของเด็ก แต่ยังหาส่วนขาไม่เจอ ตามที่นำเสอนข่าวไปแล้วนั้น 

529599555539

ล่าสุดวันที่ 24 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่โรงปูนดังกล่าว พบเป็นบ่อชำระเศษปูนที่ไม่ได้เอาไปใช้งานแล้ว รอเพียงน้ำไปทิ้งหากปูนเต็มบ่อ ซึ่งคนงานที่แคมป์แจ้งว่าเมื่อช่วงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้รถแบ็กโฮตักปูนที่ก้นบ่อขึ้นมา ก็พบเจอขาของเด็กทั้ง 2 ท่อนแล้ว ตั้งแต่ช่วงเวลา 09.40 น. เจ้าหน้าที่คาดว่าขาเด็กขาดหลังเป็นศพ ซึ่งช่วงเช้าญาติของน้องเอิร์ธ ได้จุดธูปบริเวณลานปูน เพื่อบอกกล่าวกับเจ้าที่ หลังจากที่เจอร่างของเด็กแล้ว

936781

โดยนายศุภวิชญ์ รัตนวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัทเจ้าของแคมป์ ได้เดินทางมาตรวจรายละเอียดที่เกิดขึ้น สอบถามแม่ของน้องเอิร์ธว่า "เสพยาหรือไม่" แม่น้องเอิร์ธ ตอบกลับทันทีว่า "เสพยา" แต่วันนี้ยังไม่ได้เสพ เพราะยังเครียดเรื่องลูกชาย

669679840150

ทั้งนี้ตนก็รู้สึกแปลกใจที่แม่ของน้องเอิร์ธ ไม่ออกไปตามหาลูกชาย ทั้ง ๆ ที่แคมป์แห่งนี้ก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรมาก ตนจึงมองว่าแม่ปล่อยปละละเลยมากเกินไป โดยส่วนตัวคิดว่าเด็กเดินไปเองแล้วพลัดตกลงไปในบ่อ ไม่เกี่ยวกับการฆาตกรรม

ทีมข่าวเดินทางมาที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ซึ่งครอบครัวน้องเอิร์ธ มาติดต่อขอรับศพ เบื้องต้นยังไม่สามารถรับศพได้ เนื่องจากต้องทำเรื่องรับขา 2 ข้างของน้อง และมารับศพใหม่ในวันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.64) โดยแพทย์นิติเวช จะต่อขาของน้องให้ด้วย ก่อนจะส่งศพให้ญาติต่อไป

920672

ทีมข่าวสอบถาม น.ส.นัทวดี กาญจนกุล แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันที่น้องหายไป ตนอยู่กับน้องเพียง 2 คน โดยช่วงเวลา 16.30 น. ตนล้างจานอยู่หลังบ้าน ตอนนั้นน้องเอิร์ธเดินมาหาตน สภาพเสื้อเปียกครึ่งตัว โดยตนก็คิดว่าลูกมาวุ่นวายตรงที่ตนล้างจานจนเปียก ก่อนน้องจะเดินกลับเข้าไปในห้องพัก

เมื่อตนล้างจานออกมาใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ไม่เห็นน้องในห้องแล้ว ตอนนั้นตนยืนยันว่าไม่ได้มีการดุด่าหรือตีลูก ตนมาดูที่หน้าห้องขณะนั้นก็ไม่พบน้องเอิร์ธ และตนเข้าใจว่าอาจมีคนรู้จักมารับน้องไปเล่นด้วย ตนจึงรอจนแฟนหนุ่มกลับมาช่วงเวลา 17.00 น. ตนถามแฟนว่า "เห็นน้องเอิร์ธหรือไม่" ซึ่งแฟนก็ตอบว่า "ไม่เห็น" ตอนนั้นแฟนตนก็พาไปตามหาจุดที่น้องเอิร์ธเคยไป ทั้งบ้านยาย บ้านเพื่อน บ้านพี่สาว ซึ่งทุกคนต่างไม่มีให้เห็น ตนจึงกลับมาที่แคมป์ คนที่แคมป์ก็ยืนยันว่าไม่เห็น

cg

ตอนนั้นตรงบ่อทิ้งเศษปูน ตนก็มองหาเช่นกัน แต่ไม่เจอความผิดปกติ อีกอย่างตนไม่คิดว่าลูกจะตกลงไปที่จุดนั้น ตนยังคิดว่าจะมีคนมาพาน้องไปเล่นด้วย ตนไปอาบน้ำ เข้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ติดกับบ่อก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ รองเท้าลูกชายก็ไม่ได้หายไป เพราะลูกไม่ได้ใส่วันออกไป ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายลูก ตั้งแต่มีลูกคนนี้ตนก็คิดว่าชีวิตตัวเองมีแต่เรื่องดี ๆ แต่อย่างหนึ่งที่ตนรู้สึก ตั้งแต่ลูกชายเกิดคือตนจะมีอาการรู้สึกเปียก ๆ ที่หลังตลอด ไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับความเชื่อว่าลูกจะจมน้ำหรือไม่

ทั้งนี้ ตนไม่คิดว่าจะมีใครทำร้ายลูกชาย เพราะเขาเป็นเด็กไม่ได้ดื้อ แต่ลูกเป็นคนชอบเล่นน้ำ เล่นไฟ ยอมรับว่าตัวเองเผลอไม่ได้ติดใจการตาย ตนขอให้ลูกไปสบาย และขอให้ลูกเกิดมาเป็นลูกตนอีก

ทีมข่าวสอบถาม นางสำเนียง กาญจนกุล ยายของน้องเอิร์ธ ซึ่งเป็นคนเดินเรื่องเอกสารทั้งหมด ได้ลงสาเหตุการตายเบื้องต้นว่า “สัญนิษฐานคาดขาดอากาศหายใจ”

 

725755

นางสำเนียง เปิดเผยว่า ปกติน้องเอิร์ธจะอยู่กับแม่ตลอด เพราะลูกสาวตนจะเลี้ยงลูกคนนี้เอง กรณีที่แจ้งความช้า ตนก็ไม่เข้าใจลูกสาว แต่ตนก็ถามลูกตลอดเวลา ส่วนตัวต้องแก้ข้อมูลว่าตนจำวันที่น้องเอิร์ธหายไปผิด จริง ๆ แล้วน้องหายวันที่ 18 ส.ค.64 หลังจากนั้นตนก็โทรประสานลูกสาวตลอดว่า "เจอหลานหรือยัง"

ในเช้าวันที่ 19 ส.ค.64 ตนก็โทรหาลูกสาวก็บอกว่า "ยังไม่เจอ" และยังไม่ได้แจ้งความ ตกเย็นก็ยังไม่เจอ สุดท้ายเช้าวันที่ 20 ส.ค.64 ตนโทรหาลูกสาว ลูกก็บอกยังไม่เจอ และยังไม่แจ้งความ ตนจึงตำหนิไปว่าลูกหายทั้งคน ทำไมยังไม่รู้สึกเดือดร้อนตามหาหรือแจ้งความ ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความเอง ส่วนตัวก็ยังรู้สึกแย่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีใครทำร้ายเด็ก

209228

นายสุริยา โสดาบุตร พ่อเลี้ยงของน้องเอิร์ธ เปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำร้ายเด็ก ตนเคยตีบ้างแต่ไม่ได้รุนแรง ตีตามประสาทั่วไป น้องเอิร์ธมาอยู่ที่แคมป์คนงานได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น เพราะปกติจะไป ๆ มา ๆ โดยในวันเกิดเหตุตนออกไปทำงาน ไม่ได้อยู่แคมป์ เมื่อกลับมาช่วงเวลา 17.00 น. ตอนนั้นแฟนถามว่าเจอน้องเอิร์ธหรือไม่ ซึ่งตนไม่เห็น จึงพากันออกตามหา ตนไปตามหาที่ไหนก็ไม่มีใครเจอน้อง จึงกลับมาที่ห้อง ตอนนั้นไม่คิดว่าน้องจะหายไป ยังคิดว่ามีคนมารับตัวน้องไป ทำให้ไม่ได้ไปแจ้งความ อีกอย่างน้องเคยหายไปแบบนี้แล้ว โดยตอนนั้นน้องอยู่อีกแคมป์คนงานหนึ่ง และเดินออกไปตามถนน แต่มีตำรวจพากลับมาส่งที่แคมป์ได้ ตนไม่สงสัยใครว่าจะทำร้ายน้อง เพราะตนไม่มีศัตรูที่ไหน 

titled

นายมีชัย โสดาบุตร คนขับรถโม่ปูน และเป็นญาติกับพ่อเลี้ยง เปิดเผยว่า บ่อปูนดังกล่าวเป็นบ่อสำหรับทิ้งปูนที่เหลือจากการส่งให้ลูกค้า ซึ่งรถปูนที่นี่มีมากกว่า 10 คัน คันหนึ่งวิ่งวันละ 4-5 เที่ยว โดยลักษณะการทำงานคือ เมื่อส่งปูนเสร็จแล้ว รถโม่ปูนจะกลับเข้าที่แคมป์เพื่อมาส่งงานต่อ แต่ปูนที่อยู่ในโม่จะต้องถูกล้างทิ้งที่บ่อจุดนี้

549984

ลักษณะจะมี 3 บ่อ บ่อหนึ่งเป็นบ่อน้ำ อีก 2 บ่อจะใช้ทิ้งปูน ซึ่งต้องทำแบบนี้ทุกเที่ยวหลังการส่งปูนเสร็จ บ่อนี้มีความลึก 4-5 เมตร วันที่น้องเอิร์ธหายไป ตนก็ทำงานและทิ้งปูนที่บ่อนี้ ก็ไม่พบความผิดปกติอะไร ไม่เห็นเด็กแต่อย่างใด อีกอย่างหากเด็กจมน้ำ ก็คงถูกปูนที่ทิ้งทับร่าง คนทิ้งปูนส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครสังเกต

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส