ชาวบ้าน จี้ เจ้าอาวาส กู้ศรัทธาท้าตรวจ DNA สยบปมสีกา ลั่นสั่งหั่นตะเคียนทำโต๊ะหมู่รับได้ (คลิป)

จากเหตุการณ์ที่วัดวาปีรัตนาราม ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีชาวบ้าน ประมาณ 100 คนรวมตัวที่วัด สอบถามเรื่องที่พระครูวาปีศีลคุณ เจ้าคณะตำบลย่านรี และเจ้าอาวาสวัดวาปีรัตนาราม เลื่อยไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ เพื่อทำเฟอร์นิเจอร์ใช้ในวัดนั้น (อ่าน : เจ้าอาวาสโต้เรี่ยไรขุด “ตะเคียน” ยันสั่งหั่นทำเก้าอี้มีประโยชน์กว่า – ชาวบ้านคาใจ ลามถามปมสีกา)

วันที่ 3 ต.ค. 61 ที่วัดวาปีรัตนาราม ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่ศาลามีไม้ตะเคียนแปรรูปเป็นแผ่น พร้อมกับเขียนระบุจำนวนเลขที่ไม้ตะเคียนตั้งอยู่รวมกัน พระสมยศ พระลูกวัด บอกว่า วันนี้พระครูวาปีศีลคุณ เจ้าคณะตำบลย่านรี และเจ้าอาวาสวัดวาปีรัตนาราม ไม่ได้อยู่ที่วัดเนื่องจากไปทำกิจธุระ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้อาตมาเดินทางไปบิณฑบาตรกับพระตอนเช้าปกติ ซึ่งชาวบ้านก็ใส่บาตรตามปกติ ซึ่งก็ไม่มีประชาชนที่ทำท่าทีไม่พอใจ ส่วนที่วัดจะมีประชาชนมาทำบุญก็ต่อเมื่อวันพระเท่านั้น ซึ่งต้องรอดูวันพระที่ใกล้จะถึงนี้ว่าประชาชนจะเดินทางมาที่วัดเช่นเดิมหรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าประชาชนจะเดินทางมาตามปกติ เนื่องจากไม่ได้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเท่าที่ทราบ ต้นตะเคียนที่ได้เลื่อยก็จะนำไปทำโต๊ะ หน้าต่าง หรือโรงครัว เนื่องจากโรงครัวที่กำลังสร้าง ยังทำไม่เสร็จ แต่เรื่องนี้คาดว่าในสัปดาห์หน้า คงพูดคุยกันอีกครั้ง พระสมยศ กล่าวต่อว่า นิสัยของพระครูวาปีศีลคุณ เป็นคนดี ซึ่งเวลาได้เงินบริจาคก็จะนำมาพัฒนาวัด และเรื่องทุจริตเงินบริจาควัดก็ไม่เคยมี ส่วนในเรื่องที่เจ้าอาวาสพัวพันกับสีกาหรือไม่นั้น ตนไม่เคยได้ยินมาก่อน เนื่องจากเพิ่งบวชได้ไม่นาน แต่เท่าที่ทราบคือเจ้าอาวาสไม่มีครอบครัว

นางยา พาเห้า ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุที่ชาวบ้านรวมตัวขับไล่พระครูวาปีศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดวาปีรัตนาราม นั้นเพราะไม่พอใจที่เจ้าอาวาสประพฤติตัวไม่เหมาะสม สงสัยว่ามีเมีย มีลูก 2 คน ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่เข้าวัดไปทำบุญแล้ว จนกว่าเจ้าอาวาสจะสึกออกไป ทั้งนี้หากเจ้าอาวาสจะไม่สึก ตนก็คงจะทำอะไรไม่ได้ ถ้าเจ้าอาวาสอยู่ได้โดยไม่แคร์สายตายประชาชน ก็อยู่ไป แต่ตนมองว่า ควรจะตรวจดีเอ็นเอ พิสูจน์ว่าเจ้าอาวาสมีลูกหลังจากบวชเป็นพระแล้วจริงหรือไม่ ถ้าหากเจ้าอาวาสบริสุทธิ์ ตนจะเคารพ ยอมกราบไหว้เช่นเดิม

นายสิงโต นาสักกะ ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีกระแสเรื่องต้นตะเคียน พระก็บิณฑบาตเหมือนเช่นเคย แต่เจ้าอาวาสจะบิณฑบาตในพื้นที่ใกล้ และตนคงใส่บาตรกับพระสงฆ์เหมือนเดิม เนื่องจากคิดว่าคงได้บุญกับสิ่งที่ทำ แต่ยอมรับว่าเมื่อมีเรื่องต้นตะเคียนเข้ามาก็มีกระทบจิตใจอยู่บ้าง ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนก็ไม่พอใจที่ตัดต้นตะเคียน แต่เมื่อกระทำลงไปแล้ว ก็คงต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และหากในอนาคตดัดแปลงต้นตะเคียนที่ตัดเป็นของขลัง หรือโต๊ะหมู่บูชาก็ดี เพื่อไว้เคารพกราบไหว้ เนื่องจากถ้าทำเป็นโต๊ะนั่ง จะมีบุคคลใดกล้านั่ง เพราะเสียความรู้สึกไปแล้ว นอกจากนี้ นิสัยของเจ้าอาวาสเป็นคนดี แต่เรื่องส่วนตัวตนไม่ทราบ