จากกรณีเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 20 ส.ค. 64 พบศพนายสุทธิพงษ์ ไพรสิงห์ ใช้เชือกไนล่อนมัดขอเท้า ทั้งซ้าย ขวา แล้วใช้สายไฟฟ้าผูกไปที่ปลายข้อเท้าซ้าย หลังจากนั้นได้เสียปลักไฟฟ้า เพื่อให้ไฟฟ้าช็อตตัวเอง โดยนายสุทธิพงษ์ ได้นอนทับร่าง น.ส.ทิชากร แก้วบุญเรือง อายุ 30 ปี ภรรยา ที่นอนห่มผ้าห่มอยู่ เสียชีวิตทั้งคู่
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทั้ง 2 ครอบครัว ได้ดำเนินการรับศพไปประกอบพิธีคนละวัด ครอบครัวของนายสุทธิพงษ ได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพลูกชาย ที่วัดเขาดาวเรือง ต.หนองหลว อ.สว่างอามรณ์ จ.อุทัยธานี โดยมีพระสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัด ประกอบพิธีอย่างเรียบง่าย เนื่องจากศพที่พบนั้นเสียชีวิตและขึ้นอืดแล้ว ทางญาติจึงประสงค์ที่จะเผาทันที
ส่วนทางครอบครัวของ น.ส.ทิชากร แก้วบุญเรือง ถูกนำศพไปยังวัดปิยะมงคล หมู่ 11 คลองข่อย ต.ไผ่เขียว อ.สว่างอามณ์
นางประภา แนบเนียร แม่ของนายสุทธิพงษ์ ผู้ตาย พร้อมได้โชว์รูปที่ลูกชายถ่ายกับสะใภ้เป็นภาพคู่ กล่าวถึงบาดแผลที่เกิดบนตัวฝ่ายสะใภ้ ว่าทางผู้ก่อเหตุน่าจะมีปากเสียงกับสะใภ้ ก่อนลงมือใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต เดิมสะใภ้เคยทะเลาะกับลูกชาย ตนไม่ได้อยู่ในช่วงทะเลาะกัน เพราะต้องออกไปทำงานทุกวัน
ส่วนวันที่เกิดเหตุ ลูกชายก็หาข้าวปลาให้ภรรยากิน เพราะป่วยไข้ทับฤดู ทางลูกชายก็ไปหาซื้อยามาให้กิน เห็นหายาและข้าวไปให้กิน ซึ่งไม่เห็นว่าทะเลาะกัน
นอกจากนี้ ทีมข่าวเดินทางมายังวัดปิยะมงคล หมู่ 11 คลองข่อย ต.ไผ่เขียว อ.สว่างอามณ์ มีญาติพี่น้องร่วมงานศพด้วยบรรยากาศที่โศกเศร้า
นางทวี แก้วบุญเรือง แม่ของ น.ส.ทิชากร ผู้เสียชีวิต เล่าย้อนให้ฟังว่านิสัยลูกสาวจะไม่ยอมพูดปัญหาอะไรให้ฟัง ถ้าพี่ชายไม่เค้นถาม เดิมเคยถูกใช้ไฟช็อตมาแล้ว โดยใช้สายไฟรัดคอ ก็หนีออกมาได้ มาอบสมุนไพรรักษาตัว จากนั้นผัวมารับก็กลับไป
ก่อนหน้านี้ ประมาณวันที่ 3-4 ส.ค. ก็เอาหน่อไม้กับเห็ดมาส่งให้แม่ ก่อนที่ 16 ส.ค. โทรมาถามแม่ บอกว่าถูกหวยไหม ซึ่งเป็นการพูดคุยกันครั้งสุดท้าย ส่วนเรื่องการชันสูตรพลิกศพว่าถูกไฟช็อตนั้น ในใจตนรู้ว่าผัวมันต้องฆ่าเมียก่อน แล้วใช้ไฟช็อตตัวมันตายตาม แต่เอาเรื่องอะไรไม่ได้ แต่ถ้ามันไม่ตาย ตนจะเอาเรื่องมันถึงที่สุด เพราะว่ามันก็ต่างคนต่างตายทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ขอต่างฝ่ายต่างอยู่ ดำเนินชีวิตของตัวเองต่อไป
