รวบเดนคุกหน้าไม่ตรงปก แชตลวงสาวข่มขืน 4 วัน สารภาพรักเหยื่อ ใช้รูปหนุ่มหล่อจีบ (คลิป)

19 ส.ค. 64

วันที่ 19 ส.ค. 64 กรณีสาววัย 32 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ถูกหนุ่มชาว อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ใช้โพรไฟล์เฟซบุ๊กหลอกไปข่มขืนใจและกักขังหน่วงเหนี่ยว

675714

ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบนางเอ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี น้าของสาวที่ถูกหลอก เล่าว่า ตอนนี้หลานอยู่ระหว่างการกักตัวที่ศูนย์กักกัน เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 64 หลานสาวโทรศัพท์มาที่บ้านบอกว่า "หนูถูกหลอก ตอนนี้อยู่จังหวัดศรีสะเกษ" ทางครอบครัวงงเพราะหลานทำงานอยู่ จ.ระยอง จึงประสานหลายช่องทาง ต่อมาหลานแจ้งว่าได้เหมารถกลับบ้านแล้ว เมื่อมาถึงหลานสาวเล่าให้ฟังรู้สึกตกใจ ถูกหลอกไปกักขังที่ศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 64 แล้วหลบหนีออกมาได้ในวันที่ 14 ส.ค. 64

674508

น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนรู้จักกับผู้ชายคนนี้ทางเฟซบุ๊กชื่อ "อสูรกาย" เมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา แล้วพูดคุยกันมาเรื่อย ๆ ฝ่ายชายมีลักษณะเหมือนมาจีบ และอยากมาแต่งงานด้วย ตนก็คล้อยตาม เพราะตนไม่มีแฟน ประกอบกับรูปในโพรไฟล์เป็นผู้ชายหน้าตาดี

537984

สุดท้ายได้คุยกับเขาว่าจะกลับไปหาแม่ในวันแม่ 12 ส.ค. ที่ อ.ประโคนชัย ฝ่ายชายได้รบเร้าขอให้นั่งรถตู้โดยสารไปลงที่ จ.ศรีสะเกษ ตอนแรกตนชั่งใจ แต่ถูกฝ่ายชายตื้ช๊อให้มาให้ได้ อ้างว่าให้มารับแล้วเราจะไปหาแม่ด้วยกัน ไปขอแต่งงาน และช่วยกันทำมาหากิน ตนจึงตอบตกลง

808084714847510738626885

จากนั้น ตนเดินทางจาก จ.ระยอง วันที่ 11 ส.ค. มาถึง อ.เบญจลักษณ์ เวลาประมาณ 20.00 น. ฝ่ายชายนัดให้ไปรอที่หน้าร้านสะดวกซื้อในตัวอำเภอ เมื่อถึงเวลานัดหมาย เขาบอกว่าใส่เสื้อสีดำ แต่เมื่อเห็นหน้ากลับไม่ใช่ภาพชายในโพรไฟล์ จึงตอบปฏิเสธว่าจะกลับบ้าน เพราะคุยกันก่อนหน้านี้แล้วว่าหากภาพไม่ตรงปก ทุกอย่างจบกัน แต่ตนถูกบังคับให้ซ้อนรถจักรยานยนต์ไปด้วย ถ้าไม่ไปจะทำร้าย และสัญญาว่าตอนเช้าจะส่งกลับบ้าน ตนจึงจำเป็นต้องไปด้วย

cg1cg2

โดยชายคนดังกล่าวได้พาไปที่บ้านของเขา มีลูกชาย และแม่เขาอยู่ด้วย แต่แม่กับลูกชายเขาอยู่กระท่อมหลังบ้าน ตลอดเวลาที่อยู่บนบ้านรู้สึกไม่ดี อยากจะหนีออกมาให้ได้ แต่ถูกเอาปืนจี้ไว้ สุดท้ายตนถูกข่มขืนในเวลาตี 3 รุ่งเช้ามี อสม.บ้านหนองไผ่แคน ต.หนองฮาง อ.เบญจลักษณ์ เห็นเป็นคนแปลกหน้าให้ไปรายงานตัวที่ศูนย์กักกัน ตนดีใจที่จะได้อยู่ที่ศูนย์กักกัน หลังจากตรวจเสร็จอสม.กลับพาตนไปกักตัวไว้ที่บ้านหลังเดิม จนมาถูกข่มขืนอีกครั้ง

522443

ก่อนมีโอกาสในวันที่ 14 ส.ค. ตอนเช้ามืด หนีออกมาร้องของความช่วยเหลือที่บ้าน อบต. ในหมู่บ้าน ก่อนจะเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เบญจลักษณ์ ตนได้แจ้งกับตำรวจไปว่าถูกข่มขืนและทำร้ายร่างกาย และอยากจะได้ทรัพย์สิน เป็นโทรศัพท์ 2 เครื่อง เงินสด 4,400 บาท พร้อมเอกสารในกระเป๋าเงินคืน

แต่หลังจากตำรวจทราบตัวผู้ต้องหา ตำรวจกลับพยายามให้ตนรีบกลับบ้านที่ จ.บุรีรัมย์ ในทันที บอกว่าไม่ต้องมาห่วงทรัพย์สิน ให้เอาชีวิตตัวเองรอดไว้ก่อน จากนั้นภรรยาตำรวจได้นำเงินมาให้ 500 บาท เพื่อเป็นค่ารถเดินทางกลับบ้าน พร้อมขับรถมาส่งที่ท่ารถด้วย โดยได้ต่อรถมาที่ท่ารถ จ.อุบลราชธานี แต่ไม่มีรถโดยสารประจำทาง จึงเหมารถแท็กซี่จากสถานีขนส่งมา อ.ประโคนชัย เป็นเงิน 2,500 บาท ยยืมโทรศัพท์คนขับรถโทรให้ญาติเตรียมเงินไว้จ่ายค่าแท็กซี่

403819

นางสม (นามสมมติ) อายุ 58 ปี แม่ผู้เสียหาย บอกว่า หลังจากทราบเรื่องก็รู้สึกแค้นใจมาก เพราะก่อนหน้านี้ได้บอกว่าวันที่ 12 ส.ค. 64 ที่ผ่านมาจะมากราบแม่ที่ จ.บุรีรัมย์ แต่หลอกให้ลูกสาวเข้าไปหาก่อนที่ จ.ศรีสะเกษ แล้วจะพามาส่ง แต่พอหลังจากลูกสาวไปหา หน้าตาไม่เหมือนกับที่ขึ้นโพรไฟล์ ด้วยความที่เป็นเวลากลางคืน และสถานที่เปลี่ยว ลูกสาวก็กลัวทำให้ต้องขึ้นรถจักรยานยนต์ไปกับคนร้าย ตอนนี้รู้สึกเสียใจมาก รู้สึกจุกที่อก และจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

295275

ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บ้านไผ่หนองแคน ม.2 ต.หนองฮาง อ.เบญลักษณ์ จ.ศรีษะเกษ เป็นบ้าน 2 หลัง หลังที่เป็นกระท่อม เป็นบ้านของแม่ของผู้ต้องหาอยู่ ส่วนบ้านปูนชั้นเดียว เป็นบ้านของนายณัฐพล ผู้ต้องหา เป็นบ้านหลังถูกผู้เสียหายอ้างว่าถูกกักขัง

813725

นางทองสาย มูลคำ อายุ 67 ปี ประธาน อสม.ชุมชนบ้านไผ่หนองแคน บอกว่า ตนเป็นอสม.ประจำหมู่บ้าน ได้การพบว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้าน จึงได้มีการติดต่อเพื่อทำเรื่องกักตัวเนื่องจากมาจากพื้นที่สีแดง เมื่อทีม อสม.เข้าไปที่บ้าน พบว่าผู้เสียหายนั่งอยู่กับนายณัฐพลปกติ ในระหว่างที่นำตัวผู้เสียหายไปกักตัวตามมาตรการ ไม่มีท่าทีขอความช่วยเหลือ กระทั่งพาตัวผู้เสียหาย ไปตรวจโควิดที่โรงพยาบาลสนาม เมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 ก็ยังปกติ ดูเหมือนคนรักกัน ถ้าเขาส่งข่าวบอกว่าถูกทำร้ายร่างกาย ตนก็น่าจะรู้และช่วยเหลือ ส่วนนายณัฐพล ตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ทราบว่ามีคดีเยอะ

715080

ที่ สภ.เบญจลักษณ์ นายณัฐพล เผื่อแผ่ ผู้ต้องหา บอกว่า ตนได้มีการพูดคุยกับนางสาวบี (นามสมมติ) ผู้เสียหายผ่านเฟซบุ๊ก ประมาณ 2 เดือน ได้มีการชักชวนให้มาเจอที่จังหวัดศรีษะเกษ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 ซึ่งนางสาวบีเดินทางมาถึงค่อนข้างดึก และผิดหวังที่ตนรูปโพรไฟล์ไม่ตรงปกจะขอเดินทางกลับบ้าน แต่ตนเห็นว่าเวลานั้นดึกแล้ว เลยให้กลับไปนอนที่บ้านก่อน เช้าวันรุ่งขึ้น ตนตั้งใจไปส่งที่ บขส. แต่ถูกกักตัว เลยไม่สามารถไปส่งได้ ไม่ได้มีการกักขังแต่อย่างใด ส่วนการข่มขืนนางสาวบีพูดเกินจริง ตนไม่ได้มีการข่มขืน แต่ฝ่ายหญิงสมยอมเอง ซึ่งมีเพศสัมพันธ์ 2 ครั้ง ทั้งนี้ ตนอยากขอโทษผู้เสียหายที่ทำอะไรไม่ดีลงไป ตอนนี้รู้สึกผิดแล้ว แต่ยอมรับว่าชักชวนมาเพราะตกหลุมรักนางสาวบี และที่โพรไฟล์เฟซบุ๊กใช้รูปคนอื่น เพราะอายตัวเองที่เพิ่งออกจากคุก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส