ผงะ! ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเถื่อน ปล่อยโควิดลามแพร่ติดเชื้อ 15 ตาย 2 อนาถ สภาพความเป็นอยู่สุดสกปรก

19 ส.ค. 64

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ บ้านพักคนชรา เอกชน "แม่จ๋าพ่อจ๋าโฮมแคร์" หลังพบคนชราติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตและผู้ที่ยังอยู่ภายในบ้านพักคนชราแห่งนี้ยังติดเชื้อเกือบทั้งหมด รวมถึงผู้ดูแล ในขณะที่ชาวบ้านรวมตัว เตรียมขับไล่ให้ออกจากพื้นที่เพราะไม่มีใบอนุญาตเปิดดำเนินการ ไม่มีการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน มีการนำขยะปนเปื้อนใส่ถุงแดงออกมากองทิ้งไว้ริมถนน สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนที่พักอาศัยในบริเวณดังกล่าว

4_6

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ บ้านพักคนชรา เอกชน "แม่จ๋าพ่อจ๋าโฮมแคร์" หลังพบคนชราติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตและผู้ที่ยังอยู่ภายในบ้านพักคนชราแห่งนี้ยังติดเชื้อเกือบทั้งหมด รวมถึงผู้ดูแล ในขณะที่ชาวบ้านรวมตัว เตรียมขับไล่ให้ออกจากพื้นที่เพราะไม่มีใบอนุญาตเปิดดำเนินการ ไม่มีการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน มีการนำขยะปนเปื้อนใส่ถุงแดงออกมากองทิ้งไว้ริมถนน สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนที่พักอาศัยในบริเวณดังกล่าว

5_4

นายไมตรีไต รติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีสถานประกอบการรับดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ระหว่างพักฟื้นแบบช่วยเหลือตัวเองได้และแบบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ อัมพฤกษ์ครึ่งซีกที่ไม่มีคนดูแล ชื่อ "แม่จ๋าพ่อจ๋าโฮมแคร์" ซึ่งเป็นของเอกชนโดยมี นางสาวสาธิดา ประทีปวัฒนวิทย์ อายุ 49 ปี เป็นเจ้าของที่ดูแลสถานประกอบการแห่งนี้ว่ามีคนชราที่อยู่ในความดูแลเสียชีวิตเพราะติดเชื้อโควิดหลายราย

อีกทั้งสถานประกอบการดังกล่าวไม่มีการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูลและขยะปนเปื้อนที่ถูกสุขลักษณะ โดยมีการนำใส่ถุงแดงมากองทิ้งไว้ริมถนนสายฉะเชิงเทรา-สุวินทวงศ์ ตำบลคลองหลวงแพ่ง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา อีกทั้งน้ำที่ใช้ในการซักล้างสิ่งสกปรกกับเททิ้งลงบนพื้นและไหลไปยังบ้านเรือนใกล้เคียง ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านที่พักอาศัยในบริเวณนั้น เพราะเนื่องจากบ้านพักคนชราแห่งนี้ถ้ามีแค่เรื่องของคนชราชาวบ้านยังพอรับได้แต่พอมีเรื่องของคนชราที่ติดเชื้อโควิดเสียชีวิตติดต่อกันหลายราย เห็นคนกู้ภัยมาเก็บศพออกจากบ้านพักคนชราแห่งนี้ทำให้ชาวบ้านยิ่งเกิดความกลัวและไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย

3_1_1

ทางผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราจึงได้มอบหมายสั่งการให้อำเภอเมืองฉะเชิงเทราและชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรคโควิด-19 ประจำตำบลคลองหลวงแพ่งลงตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งสถานประกอบการบ้านพักคนชราแห่งนี้เป็นอาคารพาณิช 4 ชั้น 2 ห้องอาคารสีส้ม อยู่ติดริมถนนสายฉะเชิงเทรา-สุวินทวงศ์ก่อนข้ามสะพานคลองหลวงแพ่งที่จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพโดยมีแรงงานไทยใหญ่กำลังนำผ้าใบสีฟ้าทำการปิดล้อมรั้วของอาคารพาณิชแห่งนี้

จากการตรวจสอบพบว่าสถานประกอบการแห่งนี้กำลังอยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาระพึ่งพิงโดยมีการพักค้างคืนในลักษณะกิจการนิติบุคคลเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ
ในขณะที่สถานประกอบการบ้านพักคนชราแห่งนี้ได้เปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 1 ปี โดยในเบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูงอายุและคนชราเข้าพักอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 22 คนพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 15 คนและมีผู้เสียชีวิต 2 คนโดยบางส่วนได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามแล้ว ส่วนตัวเลขล่าสุด ณ ตอนนี้ยังมีผู้สูงอายุและคนชราที่ยังรักษาตัวอยู่ภายในสถานประกอบการแห่งนี้อีก 10 คน เป็นผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด

6

นอกจากนี้ยังมีผู้ดูแลผู้ป่วยอีก 4 คนซึ่งติดเชื้อแล้ว 2 คนส่วนอีก 2 คนยังไม่ติดเชื้อ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ใส่ชุด PPE เพื่อเข้าไปทำการสำรวจด้านในพบว่าเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะแก่การนำผู้สูงอายุหรือคนชราเข้ามาพักรักษาตัว เพราะพื้นที่มีความสกปรก กลิ่นเหม็นทั้งอุจจาระและปัสสาวะ ผู้สูงอายุนอนบนเตียงใกล้ๆ กันทั้ง 3 ชั้น รวมชั้นลอยของอาคารพาณิชส่วนห้องน้ำมีเพียง 2 ห้องที่ใช้งานได้ส่วนอาหารการกินได้สร้างเพิงพักด้านหลังอาคารพาณิชเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทำกับข้าวหุงหาอาหารและยังเป็นพื้นที่ซักล้างสิ่งปฏิกูลต่างๆ

7

ในขณะที่ชาวบ้านทราบข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบต่างรีบพากันมาร้องเรียนพฤติกรรมของสถานประกอบการบ้านพักคนชราแห่งนี้ และชาวบ้านต้องการให้ย้ายออกนอกพื้นที่ไปอยู่ที่อื่นเช่นเดียวกับ นายวิชาญ งามฤทธิ์ ที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินคดีของสถานประกบการดังกล่าว เนื่องจากเปิดทำการโดยไม่ได้รับอนุญาตและยังทำให้ผู้สูงอายุและคนชราต้องติดโควิดทั้งหมดและเริ่มมีคนเสียชีวิตแล้ว ส่วนขยะปนเปื้อนสารคัดหลั่งของผู้ป่วยต้องให้หน่วยงานที่ดูแลและทำลายขยะปนเปื้อนเหล่านี้เข้ามาดำเนินการเพราะชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่แถวนี้รวมถึงคนที่ผ่านไปผ่านมาอาจติดเชื้อได้เพราะมีการนำขยะปนเปื้อนมาทิ้งไว้ริมถนน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ