แก๊งโจ๋กระทืบลุงวัย 60 ดอดมอบตัวอีก 3 - ตร.ล่ามือโพสต์ด่าคู่กรณี ก๊วนปล่อยกู้นอกระบบ

ความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย นายจรูญ อินต๊ะ อายุ 60 ปี เจ้าของหอพัก ในตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ กลางดึกคืนวันที่ 28 ก.ย. 61 โดยเนื่องจากผู้ตายเข้าไปห้ามปรามเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างผู้เช่าห้องพักที่เป็นวัยรุ่นคนไทย กับคนงานชาวไทยใหญ่ แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นคนไทย ที่ต่อมาทราบว่าเป็นกลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบ รุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งกล้องวงจรปิดในหอพักสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ (อ่าน : แฉนาทีฆ่า! 20 โจ๋กระทืบลุงวัย 60 เมียไหว้ขอชีวิตไม่หยุด – ลูกแค้น ด่าใจสัตว์)

ล่าสุด วันที่ 2 ต.ค. 61 ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย นายอนิวัฒน์ รุจิวงศ์ หรือ ดำ อายุ 26 ปี, นายอารักษ์ เมตรตา อายุ 38 ปี และนายบรรจง โกสุโท หรือ แบงค์ เดินทางเข้ามอบตัวในคดีดังกล่าว หลังถูกออกหมายจับ โดยวานนี้ (1 ต.ค. 61) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คน ได้แก่ นายจักรนัย โพธิชัย, นายคุณานนท์ วงค์รักษ์ และนายสุพิฌาย์ วิทยาลัย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำ และนำตัวส่งศาลฝากขัง ส่วนผู้ต้องหาอีกคน คือ นายศักดิ์ชัย สุมาลี หรือ จันทร์ ผู้ถือมีดที่ปรากฏอยู่ในคลิปวงจรปิด ขณะนี้ตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนี ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้ พบว่านายโปร ซึ่งไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ได้โพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะข่มขู่ผู้เสียหาย โดยทางตำรวจกำลังตรวจสอบ และเช็กประวัติ ทราบเบื้องต้นว่านายโปร มีอาชีพปล่อยกู้นอกระบบเช่นกัน ตรวจสอบแล้วพบว่าอาศัยอยู่ที่จังหวัดลำพูน บ้านเดิมเป็นคนอุทัยธานี เป็นหัวหน้าปล่อยเงินกู้ในระบบเป็นทอง และเก็บเงินเหยื่อรายวัน ดอกเบี้ยโหด กำลังติดตามตัวอยู่

พ.ต.ต.ศรายุทธ บุญแจ่ม สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสันทราย เปิดเผยว่า การจับกุมตัวคนร้ายกลุ่มนี้ สืบสวนจากกล้องวงจรปิดเป็นหลัก ประกอบกับสามารถจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุคนแรกได้ คือ นายจักรนัย หรือ ต๋อง ซึ่งรับสารภาพว่าร่วมอยู่ในวันก่อเหตุ รุมทำร้ายเจ้าของหอพักดังกล่าว แต่ตัวเองไม่ได้ลงมือ เพียงแต่อยู่ในกลุ่มเท่านั้น และได้ให้การซัดทอดในกลุ่มว่ามีใครบ้าง และใครเป็นหัวโจก ในการก่อเรื่องครั้งนี้ จนทางเจ้าหน้าที่สามารถกดดันจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ โดยมีผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ มีประมาณ 10 คน จับกุมได้แล้ว 6 คน ยังเหลืออีกอย่างน้อย 4 คน