รัฐบาลสิงคโปร์ จ่ายเงินเยียวยาทันที 5.5 ล้านบาท ให้วัยรุ่นอายุ 16 ปี หัวใจวายเฉียบพลัน หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์
สเตรทส์ ไทม์ส สื่อยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์ รายงานข่าว กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ยอมรับว่า พบเด็กชายวัย 16 ปี รายหนึ่งมีอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หลังได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มแรก ของ บริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค โดยทีมแพทย์สิงคโปร์สามารถช่วยชีวิตของเยาวชนรายนี้เอาไว้ได้อย่างฉิวเฉียด
คำแถลงของ ออง เย คุง (Ong Ye Kung) รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุว่า เด็กชายวัย 16 ปีรายนี้ ซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อตามกฏหมายคุ้มครองเยาวชน จะได้รับการจ่ายเงินเยียวยา จากรัฐบาลสิงคโปร์เป็นจำนวนเงิน 225,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5.5 ล้านบาทในทันที ถึงแม้เขาจะไม่ได้เสียชีวิต โดยวงเงินเยียวยาดังกล่าว นับเป็นจำนวนเงินที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศตั้งกองทุนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ขึ้นมา
รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุว่า เงินเยียวยาจำนวนดังกล่าว จะถูกจัดสรรมาจากกองทุนพิเศษที่ตั้งขึ้นตามแนวคิดของนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง สำหรับให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บรรดาผู้ได้รับผลกระทบจากการเข้ารับวัคซีนโควิด-19 หรือที่เรียกว่า กองทุน วีไอเอฟเอพี (VIFAP)
ล่าสุดมีการยืนยันว่า ขณะนี้ เด็กชายวัย 16 ปี รายนี้ ได้รับการช่วยชีวิตจากทีมแพทย์ของสิงคโปร์ และอยู่ระหว่างการพักฟื้นในโรงพยาบาล โดยอาการของเขาดีขึ้นเป็นลำดับ และอาจได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
อย่างไรก็ดี เขายังไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปเรียนหนังสือตามปกติ เนื่องจากแพทย์ลงความเห็นว่า เขายังมีความจำเป็นต้องเข้ารับการบำบัดด้านหัวใจต่อเนื่อง อีกระยะหนึ่งตามที่แพทย์นัดหมาย
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า เด็กชายวัย 16 ปี ได้เกิดอาการหัวใจวาย หลังจากเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคได้ 6 วัน โดยผลการตรวจของแพทย์ระบุว่า เด็กชายคนนี้ มีอาการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจอย่างรุนแรง ซึ่งคาดว่าอาจเป็นผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน
