เจ้าแม่ตะเคียน ยังเฮี้ยน! ชาวบ้านตะเพิดเจ้าอาวาสแค้นเลื่อยไม้ ลั่นเลือกผี ไม่เอาพระ (คลิป)

จากกรณีพระครูวาปีศีลคุณ เจ้าคณะตำบลย่านรี และเจ้าอาวาสวัดวาปีรัตนาราม ที่ทำการเลื่อยไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ เพื่อทำเป็นเฟอร์นิเจอร์และใช้ประโยชน์อื่น ๆ จนชาวบ้านเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากนับถือเจ้าแม่ตะเคียนนั้น (อ่าน : แม่ตะเคียนแผลงฤทธิ์ สมภารถูกไล่ ชาวบ้านฉุนตัดทำเก้าอี้ ดันแนะไหว้ได้แถมมีประโยชน์)

วันที่ 1 ก.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่วัดวาปีรัตนาราม ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยภายในวัดมีพระภิกษุสงฆ์ลูกวัด 4 รูป ซึ่งพระลูกวัดได้ให้ข้อมูลว่า พระครูวาปีศีลคุณ เจ้าอาวาส ไม่อยู่วัด ออกไปทำกิจนิมนต์นอกวัด นอกจากนี้ พระลูกวัดได้พาทีมข่าวดูศาลากลางวัด ซึ่งเป็นจุดที่ไม้ตะเคียนตั้งอยู่ มีไม้ตะเคียนแปรรูปเป็นแผ่น ความยาวประมาณ 6 เมตร จำนวน 2 แผ่น และเศษไม้ตะเคียนที่มีโรยแป้งขาวโพลน ความยาว 1 เมตร ประมาณ 10 ท่อน ตั้งอยู่รวมกัน นอกจากนี้ ข้างศาลายังพบกองขี้เลื่อย ที่มีรอยถูกเผารวมกับขยะอีก 2 กอง ซึ่งภายในกองขี้เลื่อยนั้น มีผ้า 3 สี ที่ไว้ใช้กราบไหว้บูชารวมอยู่ด้วย

น.ส.โบว์ (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ต้นตะเคียนดังกล่าวมีความสำคัญต่อจิตใจ และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่มาก เพราะเดิมทีต้นตะเคียนดังกล่าว จมดินอยู่ในป่า แต่ทางวัดและชาวบ้านได้รวมเงินกัน และจ้างรถแบคโฮไปขุดขึ้นมา และนำไปตั้งบูชาไว้ที่วัด ซึ่งตั้งอยู่ประมาณ 6 ปีแล้ว โดยในช่วงวันพระ ชาวบ้านจะมากราบไว้บูชาเจ้าแม่ตะเคียน นำผ้า 3 สี มาพันรอบต้น และนำแป้งมาถูเพื่อขอโชคขอลาภ เพราะเชื่อว่าเป็นไม้คู่บ้านคู่เมืองมายาวนาน ตั้งแต่บรรพบุรุษ น.ส.โบว์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากทราบว่าเจ้าอาวาสสั่งตัดไม้แปรรูปต้นตะเคียนดังกล่าว ชาวบ้านรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากไม่คิดว่าท่านจะกล้าทำโดยพลการเช่นนี้ เนื่องจากเจ้าอาวาสไม่ได้มีการปรึกษาชาวบ้านในพื้นที่ก่อน อีกทั้งท่านยังให้เหตุผลว่า ต้องการแปรรูปไม้ตะเคียนเป็นเก้าอี้ไว้นั่งรับรองแขก ซึ่งตนอยากถามว่า หากแปรรูปกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์แล้ว ใครจะอยากกราบไหว้อีก ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ ถ้าให้เลือกพระกับไม้ ชาวบ้านขอเลือกไม้ โดยเบื้องต้น หลังจากที่ไม้ถูกแปรรูปแล้ว ชาวบ้านก็คงไม่กล้าแตะต้องหรือทำอะไรกับไม้ เพราะใจจริงแล้ว อยากให้ไม้เป็นท่อนอยู่เหมือนเดิม

ด้าน นายสมบูรณ์ มิ่งพา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ต้นตะเคียนดังกล่าวมีขนาดผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ลักษณะต้นเป็นวงรี ภายในลำต้นกลวง ความยาวประมาณ 6 เมตร ได้ตั้งอยู่ที่วัดมา 6 ปีแล้ว ซึ่งขณะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากพระอาจารย์ให้คนมาเลื่อยไม้โดยพลการ และไม่มีการปรึกษาตนและชาวบ้านที่กราบไหว้ ขอพรจากต้นตะเคียน ซึ่งเจ้าอาวาสได้ให้เหตุผลว่าจะตัดเพื่อเฟอร์นิเจอร์เนื่องจากช่วงหลังไม่มีใครเข้าไปกราบไหว้ต้นตะเคียน เจ้าอาวาสจึงทำไปโดยพลการ ซึ่งตรงส่วนนี้ท่านเจ้าอาวาสก็ได้ยอมรับผิด เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ เจ้าอาวาสจึงได้ขอโทษชาวบ้านกว่า 90 คน ต่อหน้านายอำเภอกบินทร์บุรีไปแล้ว ซึ่งไม้ที่เหลือตอนนี้ ได้มีมติจากชาวบ้านแล้วว่าให้ปล่อยไม้ไว้ก่อน ยังไม่มีการขนย้ายหรือทำอะไรกับไม้ในตอนนี้

น.ส.ภา (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า หลังจากที่รู้ว่าเจ้าอาวาสตัดต้นตะเคียน ตนก็ไม่อยากให้ทำ เพราะเคยไปกราบไหว้ต้นตะเคียน อีกทั้งคนแก่คนเฒ่าก็เคารพนับถือต้นตะเคียน เพราะมีความเชื่อเรื่องเจ้าแม่ตะเคียนมาแต่เก่าแก่ โดยคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟัง ตนก็มีความผูกพันธ์กับสิ่งเหล่านี้ อีกทั้งต้นตะเคียนดังกล่าว พระอาจารย์ก็เป็นคนไปนำมาไว้ที่วัด จึงทำให้ตนเชื่อ โดยส่วนตัวแล้วเชื่อทั้งพระพุทธศาสนา และเชื่อในต้นตะเคียนศักดิ์สิทธิ์ แต่สาเหตุที่ไม่อยากให้ตัด เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเคยไปขอพรกับต้นตะเคียน ตอนที่เจ็บป่วยก็ดีขึ้น แม้กระทั่งขัดข้องเรื่องการงาน ทำมาหากิน หลังจากไปขอพร การงานก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แม้ว่าใครจะไม่เชื่อแต่ตนเชื่อ น.ส.ภา ยังบอกอีกว่า ส่วนเรื่องที่มีการชี้แจงว่าต้นตะเคียนผุกร่อนจนต้องนำไปแปรรูปนั้น ตนก็ยังไม่เห็นว่าต้นตะเคียนจะผุกร่อนแต่อย่างใด เพราะเห็นเป็นปกติมา 5-6 ปี ก็ไม่ได้มีปัญหา อีกทั้งตนก็ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เนื่องจากตนก็ไม่คิดว่าเจ้าอาวาสจะตัดต้นตะเคียนนี้