เชือดแล้วไกด์จีนเถื่อน พูดข้อมูลมั่วทำไทยเสียหาย แชร์ว่อนเป็นคลิปเก่า (คลิป)

จากกรณีเฟซบุ๊ก นพรชัย นุชสาย มัคคุเทศก์ 360 องศา (Volunteer Spirit) ได้โพสต์คลิปวิดีโอไกด์จีนเถื่อน แนะนำนักท่องเที่ยวแบบผิดเพี้ยน โดยข้อความในโพสต์ระบุว่า "สาวไทยที่ยากจนขายตัวให้ทหารอเมริกันในค่ายทหาร ครอบครัวที่ยากจนมีลูกชายจะส่งลูกมาเรียนรู้การเป็นกะเทยเพื่อสร้างความบันเทิงให้ทหารอเมริกัน นี่คือสิ่งที่ไกด์เถื่อนต่างชาติสื่อสารข้อมูลเท็จให้นักท่องเที่ยวจีน ทำความเสื่อมเสียให้กับชื่อเสียงประเทศไทย เป็นความอัปยศอดสูของคนไทย มาจากกลุ่มไลน์มัคคุเทศก์ 360”

วันที่ 1 ต.ค. 61 นายนพรชัย นุชสาย ผู้โพสต์คลิปวิดีโอ เปิดเผยว่า คลิปที่โพสต์ลงไปเป็นคลิปส่วนหนึ่งที่มีความยาวเพียงแค่ 40 วินาที โดยภายในคลิปวิดีโอที่ปรากฏภาพ ไกด์กำลังพยายามอธิบายประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองพัทยา แต่กลับบรรยายไม่ตรงความเป็นจริง ซึ่งในคลิปอธิบายว่าที่พัทยาแรกเริ่มมีทหารอเมริกันมาท่องเที่ยวเป็นชุดแรก จากนั้นก็มีคนแนะนำผู้หญิงไทยให้เข้าไปหา เพื่อให้ความสุขกับทหารอเมริกัน และได้พูดถึงเรื่องสาวประเภทสอง โดยบอกว่าครอบครัวที่มีลูกเป็นผู้ชาย ก็จะส่งลูกไปสอนโรงเรียนเต้นรำ เพื่อให้ลูกเป็นผู้หญิงเพราะจะได้ทำมาหากิน เลี้ยงครอบครัว และที่สำคัญบอกว่าถ้าจะเป็นสาวประเภทสอง บ้านต้องยากจนเท่านั้นถึงจะเป็นได้

นายนพรชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งตามหลักความเป็นจริง ประวัติความเป็นมาของเมืองพัทยา คือ ก่อนหน้านี้มีทหารอเมริกันเข้ามาบุกเบิกเป็นชุดแรกจริง แต่ไม่ได้มีคนไปหาผู้หญิงไทยมาให้ทหารอเมริกัน ซึ่งแท้จริงแล้ว ทหารกลุ่มนี้มาเพื่อต้องการพักผ่อน และก็มีคนไทยไปหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาขายให้ หลังจากนั้น พัทยาก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็นเมืองประมง ก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นร้านผับ บาร์ ตามยุคสมัย ส่วนเรื่องสาวประเภทสองนั้น จริงแล้วคนไทยรู้กันอยู่ว่าไม่ต้องมีฐานะยากจนก็เป็นได้ ส่วนเรื่องขายบริการ เราจะไม่แนะนำ เพราะไม่ได้เกิดผลดีต่อประเทศ ซึ่งประเด็นหลักในคลิปวิดีโอ มี 2 เรื่อง ที่ทำให้ประเทศไทยเสียหายคือ เรื่องผู้หญิงไทยที่ไปสร้างความสุขให้กับทหารอเมริกัน เพราะที่จริงแล้วทหารเป็นคนหาผู้หญิงเหล่านั้นเอง โดยที่ผู้หญิงไทยไม่ได้เสนอตัวให้ และไม่ได้มีคนแนะนำไป และอีกเรื่องหนึ่ง คือ คนที่มีบ้านยากจนแล้วมีลูกเป็นผู้ชายต้องส่งไปเรียนโรงเรียนสอนเต้นรำ หรือโรงเรียนกะเทย ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้ เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ด้านนายชนะพันธ์ แก้วกล้าไชยวุฒิ เลขาธิการสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า คลิปที่ปรากฏออกมานั้นเป็นคลิปที่มีมานานมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น ทั้งนี้ทางสมาคมมีการจัดการกับไกด์เถื่อนอยู่แล้ว และไม่ได้ปล่อยปละละเลย และสมาคมก็ยังได้ทำงานร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวด้วย