กรณีนายวินัย จินตบุตร อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านตะเคียนงาม ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ใช้อาวุธปืนยิงนายบัวพา รุ่งเรือง อายุ 41 ปี ชาวบ้านตะเคียนงาม เสียชีวิตนอนคว่ำจมกองเลือด บริเวณริมถนนทางหลวงชนบท 3052 ปากช่อง-วังน้ำเขียว กม.34 ในพื้นที่หมู่บ้านตะเคียนงาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หมูสี ได้แจ้งข้อหากับผู้ใหญ่บ้าน ได้แก่ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
โดยร.ต.อ.อาทิตย์ พูนไธสง รอง สว.(สอบสวน) สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิต บริเวณริมถนนทางหลวงชนบท 3052 ปากช่อง-วังน้ำเขียว กม.34 พื้นที่หมู่บ้านตะเคียนงาม หมู่ 8 ต.โป่งตาลอง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง ผกก.สภ.หมูสี พร้อมตำรวจชุดสืบสวน จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร รพ.ปากช่องนานา
เมื่อถึงในที่เกิดเหตุบริเวณบนฟุตพาท พบร่างนายบัวพา รุ่งเรือง อายุ 41 ปี นอนคว่ำหน้าตะแคงด้านซ้ายจมกองเลือด สวมเสื้อกันหนาวแขนยาวสีขาว สวมกางเกงขายาวสีดำ ในมือขวาจับมีดอีโต้ปลายแหลม และมีหมวกไหมพรมสีขาว-ส้ม ตกอยู่ข้างกัน ในที่เกิดพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ห่างที่พบศพประมาณ 20 เมตร จำนวน 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายวินัย จินตบุตร อายุ 55 ปี รอมอบตัวอยู่ที่บ้านพัก ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร
นายวินัย จินตบุตร ผู้ใหญ่บ้าน ให้การอ้างว่า ตนกับนายบัวพา มีปัญหากันมาก่อน เนื่องจากตนถูกนายบัวพา ชกจนสลบ กระทั่งตนนำข้าวสาร อาหารแห้ง มาแจกให้กับชาวบ้านใชช่วงวิกฤตโควิด-19 แต่ผู้ตายมาขอรับก่อนเวลานัดหมาย ตนจึงบอกให้มารับพร้อมกันเวลา 12.00 น. จึงทะเลาะกันเสียงดัง และผู้ตายถือมีดปลายแหลมเดินมาหาตน ตนคิดว่าเจาจะต้องเข้ามาทำร้ายแน่ ๆ จึงชักปืนที่พกติดตัวมายิงสวนไป 1 นัด ถูกบริเวณหน้าอกจนล้มลง
ล่าสุดวันที่ 15 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พบว่าชาวบ้านนำทรายมาโรยกลบกองเลือดแล้ว ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายตะนาว (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ข่าวที่ถูกนำเสนอไปก่อนหน้า ไม่ตรงตามความเป็นจริง ในช่วงเช้าวันนี้ผู้ตายกับลูกชายวัย 8 ขวบ ได้เดินมายังจุดแจกของจริง แต่ไม่ได้มารับของ ที่จริงเขานำกล้วยไม้ป่า 1 ต้น มาเสนอขายให้ชาวบ้านจุดที่แจกของ ในราคา 100 บาท จากนั้นผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีอาการมึนเมาก็ได้เข้ามาต่อว่าผู้ตาย “ยังไม่ถึงเวลาเอาของ” แต่ผู้ตายและลูกชายไม่ได้สนใจอะไร จึงได้เดินกลับออกไป
จากนั้นผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามออกมา ก่อนลั่นไกยิง แต่ผู้ตายไม่ได้เสียชีวิตในทันที พร้อมกับตะโกนบอกลูกชายว่า “ปกป้องหนีไป” ลูกชายผู้ตายจึงวิ่งหนีไปบอกชาวบ้าน “พ่อหนูถูกผู้ใหญ่จ่อยยิง” ชาวบ้านทุกคนรู้ดีว่าผู้ตายเป็นคนสติไม่ดี ไม่เคยสร้างปัญหาให้ใคร ส่วนผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนขี้เมา ทั้งคู่เคยมีปากเสียงกันเมื่อเดือนก่อน
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายรัตน์ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนกับแฟนสาวได้ขี่รถจักรยานยนต์มาดูจุดรับของแจก จึงได้พบเห็นผู้ตายกับลูกชายวัย 8 ขวบ เดินมาขายกล้วยไม้ป่า แต่ผู้ก่อเหตุได้ไล่ผู้ตายออกไป พูดทำนองว่า “ไม่ต้องมารับของแจก แจกตอนเที่ยง”
เมื่อผู้ตายและลูกชายเดินออกมา ผู้ก่อเหตุก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์แซงหน้าผู้ตาย แล้วเลี้ยวเข้าบ้านตัวเองเพื่อไปหยิบปืน จากนั้นก็ได้ขี่รถมาหาผู้ตาย ก่อนจะเรียกชื่อและยิงใส่ทันที จำนวน 1 นัด ผู้ตายก้าวเท้าได้เพียง 2 ก้าวก็ล้มลงกับพื้น พร้อมกับตะโกนให้ลูกชายวัย 8 ขวบวิ่งหนีไป
ส่วนประเด็นที่ผู้ใหญ่บ้านอ้างว่า ผู้ตายชักมีดออกมา และตนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะติดตาเด็กไปตลอดชีวิต ส่วนผู้ตายเป็นคนสติไม่ดี มักถือโทรศัพท์เดินถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอไปเรื่อย สำหรับมีดที่พกติดตัวก็เป็นเครื่องมือหาของป่า ซึ่งเหตุการณ์นี้ยังถือว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ผู้ก่อเหตุไม่มีสิทธิ์อ้างว่าป้องกันตัว เพราะระยะยิงกับระยะตายนั้นห่างกันเพียง 2-5 เมตร ชัดเจนว่าเจตนาฆ่า
