กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “เจ้ม๊อย v plus” โพสต์คลิปหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งในมือทั้ง 2 ข้างกำลังถือถุงสิ่งของบางอย่าง พร้อมข้อความระบุว่า “ทุกคนผู้หญิงคนนี้คือคนที่เอาบิลค่าไฟไปอ้างตามบ้าน ว่าตัวเองนั้นเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เรียกเก็บเงินเค้าไปทั่ว ที่ตำรวจตามล่าตัวอยู่มั้ย” ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ว่า น่าจะเป็นคนเดียวกัน แต่เหตุใดตำรวจยังไม่สามารถจับกุมได้
กระทั่งสาวผู้ที่ถ่ายคลิป ออกมาเปิดเผยว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวหญิงรายนี้ไปที่โรงพักแล้ว แต่ต้องปล่อยตัวเพราะไม่มีหมายจับ "ตำรวจปล่อยเขาไปค่ะ ตอนที่อยู่ในโรงพักกลิ่นตัวเขาแรงด้วย สภาพร่างกายเขาดูพูดไม่รู้เรื่อง ตำรวจถามอะไรก็ตอบอีกเรื่องหนึ่ง เขาสติดีไหมเราก็ไม่กล้าไปตัดสินเขาได้" ทำให้หญิงเอวลอยคนนี้ ได้รับฉายาว่า "เปรี้ยว เอวลอย"
ล่าสุดวันที่ 13 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ใกล้กับวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 125 สีเทา ทะเบียน บนบ 630 จอดอยู่ในร้าน ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ปรากฏในคลิปที่สาวเอวลอยใช้ตระเวนเก็บค่าไฟฟ้า
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายชลสิทธิ์ บุญตา อายุ 21 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค.64 ตนทำงานที่ร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์ และด้วยความเพลียจึงลืมนำรถจักรยานยนต์เข้ามาเก็บในร้าน แต่ได้จอดไว้บริเวณหน้าร้านโดยที่มีกุญแจเสียบคาอยู่ที่รถ
กระทั่งวันที่ 6 ส.ค.64 ช่วงบ่าย ๆ เมื่อตื่นขึ้นมาจึงทราบว่ารถจักรยานยนต์หายไป ก่อนจะเดินทางไปแจ้งความที่ สน.บางกอกใหญ่ และได้ติดต่อที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด พบว่าช่วงเช้ามืด มีสาวทอมคนหนึ่งเข้ามาขโมยรถออกไป
จากนั้นช่วงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค.64 มีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่า สามารถจับตัวสาวทอมคนนี้ได้ ที่ซอยอิสรภาพ 19/1 ตนจึงรีบเดินทางไปเพื่อนำรถจักรยานยนต์กลับมาที่ร้าน และจากการสอบถามสาวทอม อ้างว่าเห็นรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ จึงจะนำไปเก็บให้ ซึ่งตนก็ไม่เคยรู้จักสาวทอมและสาวเอวลอยมาก่อนอีกด้วย
"ผมก็เพิ่งจะมาเห็นคลิป ที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ ตอนนั้นผมรู้สึกโมโหมาก ๆ ที่เขานำรถไปทำแบบนี้ รถจักรยานยนต์ที่ขโมยไปไม่มีความเสียหาย มีเพียงแค่ถอดตะกร้าหน้ารถออกเท่านั้น สาวทอมจึงถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ทั้งนี้ผมจึงยากให้เจ้าหน้าที่รีบตามจับกุมตัวหญิงสาวอีกคน เพื่อดำเนินคดีให้เร็วที่สุดครับ" นายชลสิทธิ์ ผู้เสียหาย กล่าว
ทีมข่าวได้เบาะแสเพิ่มเติมว่า มีแม่ค้าอีกรายที่เป็นผู้เสียหายเช่นกัน ทีมข่าวเดินทางร้านขายไก่ทอด แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพ จึงได้พูดคุยกับน.ส.ช่อทิพย์ ชมสมุทร อายุ 20 ปี แม่ค้าซึ่งเป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.64 รกฎาคม เวลา 13.00 น. ขณะนั้นตนกำลังขายไก่ทอดกับแม่ เพิ่งจะตั้งร้านและระหว่างนั้น มีหญิงคนหนึ่งเดินลงมาจากรถจักรยานยนต์รับจ้าง และเข้ามาถามแม่ของตนว่า "ไก่สุกหรือยังจ๊ะ" ตนจึงบอกว่า "ที่สุกแล้วมีแค่นี้" หญิงคนดังกล่าวจึงเลือกไก่ใส่ถุง ประมาณ 100 บาท แต่บอกว่าไม่มีเงิน
จากนั้นหญิงคนดังกล่าว ได้อ้างว่ามีแฟนอยู่แถวนี้ ชื่อว่า "บอม" เดี๋ยวจะกลับไปเอาเงินก่อน และจะนำกลับมาให้ จากนั้นก็เดินออกจากร้านไป และไม่กลับมาอีกเลย โดยลักษณะการแต่งตัวขณะนั้น สวมใส่เสื้อเอวลอย แต่สวมกางเกงขาสั้น ถือถุงอาหารมากมาย เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าว แต่ไม่มีบิลค่าไฟฟ้าในมือ
ทั้งนี้ ตนก็คิดว่าซื้อของมากมายขนาดนี้ คงจะต้องมีเงินจ่ายแน่ ๆ และยังอ้างว่ารู้จักคนในละแวกนี้ ตนจึงยอมให้ไก่ทอดไปก่อน โดยไม่ได้รับเงิน ต่อมาตนได้ถามคนชื่อบอมว่า มีแฟนหรือไม่ แต่นายบอม กลับบอกว่าไม่มี ตนจึงทราบทันทีว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่รู้จักหญิงคนนี้มาก่อน และไม่ทราบชื่อ กระทั่งตนมาเห็นคลิปที่แชร์กันจำนวนมาก จึงจำได้ว่าเป็นหญิงคนเดียวกันกับที่มาซื้อไก่ทอดและไม่จ่ายเงิน ตนจึงอยากให้ตำรวจตามจับให้ได้โดยเร็ว เพราะเขาก่อความเดือดร้อนให้ประชาชน
ทีมข่าวไปเจอกับนายสุดเขต โพพี หรือ บอม อายุ 37 ปี หนุ่มที่สาวเอวลอยอ้างว่าเป็นแฟน เปิดเผยว่า หญิงสาวคนนี้ตนรู้จัก เคยคบหากันจริงเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว แต่คบหากันได้ไม่ถึงเดือน และจำชื่อไม่ได้จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้คุยกัน
ส่วนสาเหตุที่รู้จักกัน เพราะเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว บังเอิญตนขับรถไปที่ซอยบ้านของเพื่อนคนหนึ่ง และได้ไปเจอกับหญิงสาวคนนี้ โดยมักจะชอบสวมใส่เสื้อเอวลอย จึงได้ชักชวนไปที่บ้าน แต่ตนจำไม่ได้ว่าบ้านของเขาอยู่บริเวณใด ส่วนนิสัยใจคอของเขาก็ปกติ ไม่เคยมีพฤติกรรมขโมยหรือหลอกลวง ตนก็ไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้ เพราะคบหากันได้ไม่นาน และตนก็ไม่ได้ดูข่าวจึงไม่ทราบว่าเขาไปหลอกลวงชาวบ้าน ก็รู้สึกตกใจเช่นกัน
