กรณีชาวบ้านภายในชุมชนเรวดีซอย 3 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี แจ้งว่ามีหญิง อายุ 41 ปี ที่พิการทางสมองและสายตา อยู่บ้านเพียงลำพัง หลังจากแม่ วัย 67 ปี ทราบชื่อภายหลัง "ป้าอี๊ด" เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่ รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี
โดยคาดว่าหญิงพิการรายนี้ น่าจะติดเชื้อโควิด-19 เพื่อนบ้านจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครกล้านำข้าวและน้ำเข้าไปให้ เพราะเกรงว่าจะมีเชื้อแพร่กระจายอยู่ภายในบ้าน
ล่าสุดวันที่ 9 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พูดคุยกับน.ส.รัชนี เหมือนนึก อายุ 42 ปี เพื่อนบ้านที่คอยดูแล เปิดเผยว่า ตนทราบว่า ป้าอี๊ด หายใจไม่ออกตั้งแต่เวลา 20.00 น. แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ ป้าอี๊ดจึงโทรศัพท์เรียกลูกสาวอีกคนให้เข้ามารับตัวพาออกไปโรงพยาบาล ลูกสาวจึงสวมใส่ชุด PPE เข้ามารับ แล้วพาขึ้นรถกระบะไป รพ.พระนั่งเกล้า เมื่อไปถึงมือแพทย์ได้เร่งช่วยรักษา แต่กลับเสียชีวิตในเวลา 22.00 น.
ขณะนั้น ตนก็ยังไม่ทราบว่าป้าอี๊ดติดเชื้อโควิด-19 เพราะก่อนหน้านี้ทั้งป้าอี๊ด และลูกสาว ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 6 ส.ค.64 แต่ผลยังไม่ออก กระทั่งมาทราบป้าอี๊ด ติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องเร่งทำพิธีฌาปนกิจทันที
โดยปกติแล้ว ป้าอี๊ด เป็นแม่ค้าขายผลไม้ แต่ได้หยุดขายไปนานนับเดือนแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องใช้เงินเก็บเลี้ยงลูกสาวที่พิการทางสมองและสายตา อายุ 41 ปี เพียงลำพัง เพราะลูกสาวไม่สามารถสื่อสารได้ ไม่มีความเข้าใจใด ๆ และขณะนี้ตนเชื่อว่าเขาน่าจะไม่รับรู้ด้วยว่าป้าอี๊ดได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งเท่าที่ตนได้รู้จักป้าอี๊ดเป็นคนนิสัยดี ทำมาหากินสุจริตมาโดยตลอด อาศัยอยู่ที่นี่ 30-40 ปี
นอกจากนี้ หลังจากที่ป้าอี๊ดเสียชีวิต ลูกสาวที่พิการก็ยังคงนอนอยู่ภายในห้องเพียงคนเดียว ตนได้ยินแต่เสียงไอ ก็คอยมาชะโงกดูเป็นระยะ ๆ และนำน้ำดื่มมาให้ด้วย ส่วนข้าวปลาอาหาร ป้าอี๊ดน่าจะวางไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต เพราะป้าอี๊ดบอกว่า "นุชไม่ทานอาหามา 5 วันแล้ว"
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเป็นห่วงและเกรงว่า น.ส.นุช หญิงที่พิการ จะติดเชื้อโควิด-19 มาจากป้าอี๊ด และอาจจะมีอาการทรุดหนักเช่นเดียวกันหรือไม่ กระทั่งตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ พม. เข้ามาดูแล และเข้ามาตรวจสอบ ยังไม่แน่ว่าจะมารับตัวไปเมื่อใด ส่วนผลตรวจโควิด-19 ก็ยังไม่ออกด้วย จนจึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลอย่างเร่งด่วน
