แทงดับไอ้คลั่งอาละวาดบุกฟันถึงบ้าน แม่ร่ำไห้โวยทำเกินเหตุแค่จับมัดไม่เห็นต้องฆ่า (คลิป)

จากกรณี เมื่อเวลา 06.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค. 64 ร.ต.อ.สราวุธ ชัยชนะกสิกรรม พงส.สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้ง จาก ร.ต.อ.เจียรศักดิ ยินดี หัวหน้าสายตรวจรถยนต์ ว่าเกิดเหตุฆ่ากันที่หมู่ 10 ต.หาดยาย อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ที่เกิดเหตุ หมู่ที่ 10 บ้านดินหม้อ ต.หาดยาย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ห่างจาก กลางชุมชนใจกลางภูเขาสูง แวดล้อมไปด้วยสวนผลไม้ ทุเรียน มังคุด จำนวนมาก ในซอยบ้านดินหม้อเป็นบ้านชั้นเดียว พบว่าที่ประตูบ้านมีร่างของนายคัมภีร์ นิลสุข อายุ 28 ปี อาชีพรับจ้างคนงานแผงทุเรียน นอนตายจมกองเลือดคาประตูบ้าน

สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ ข้างศพพบมีดสำหรับผ่าทุเรียนหล่นอยู่ พลิกศพเบื้องต้นพบมีบาดแผลโดนของมีคมที่ศีรษะด้านหลัง มีบาดแผลที่หน้าผาก ที่หน้าอกและลำตัว เป็นแผลไม่กว้าง ตรวจที่เกิดเหตุพบที่ระเบียงหน้าบ้าน มีกระจกบานเกล็ดแตก เศษกระจกหล่นเกลื่อน ประตูบ้านมีร่องรอยถูกงัด ในบ้านยังพบมีดพร้า และเลือดกองใหญ่

บ้านมีร่องรอยการต่อสู้ทั่วทั้งบ้าน รอบบ้านมีชาวบ้านหลาย 10 คน ยืนรอตำรวจด้วยสีหน้าตื่นตกใจ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บชื่อ นางวาสนา พุ่มนาค อายุ 48 ปี ถูกปาดด้วยมีดที่คางนำตัวส่ง รพ.หลังสวน แพทย์เย็บบาดแผลมากถึง 10 เข็ม ที่ด้านหลังบ้าน พบนายเจษฏา พุ่มนาค อายุ 18 ปี ลูกชายนางวาสนา สภาพร่างกายสะบักสะบอม มีบาดแผลถูกมีดถากที่ด้านหลัง บาดเจ็บเล็กน้อย บนฝาโอ่งน้ำข้างบ้านพบ มีดทำครัวขนาดเล็กเปื้อนเลือด

สอบถามเบื้องต้นให้การว่าเป็นผู้ที่แทงนายคัมภีร์ ผู้เสียชีวิต หลังจากผู้ตายพยายามจะทำร้ายนางวาสนา แม่ของตัวเอง จึงพยายามต่อสู้ เพราะคนตายพยายามทำร้ายและพักบ้านก่อน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมด้วยไว้ไปสอบสวน จึงรวบรวมหลักฐานที่เกิดเหตุเพื่อรอหน่วยพิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพของนายคัมภีร์ นำส่งชันสูตรที่ รพ.หลังสวน ตรวจสอบบาดแผลและการติดเชื้อโควิด-19

ล่าสุด วันที่ 7 ส.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดวารีวงอริยาราม ต.บ้านควน อ.หลังสวน สถานที่จัดงานศพของนายคัมภีร์ นิลสุข อายุ 28 ปี บรรยากาศในงานศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีทางญาติมาร่วมงานศพ แม่ผู้ตายก็ได้แต่จุดธูปนั่งมองรูปลูกชาย และร้องไห้

นางสุจิตรา นิลสุข 58 ปี แม่ของนายคัมภีร์ ผู้ตาย เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้รู้สึกเสียใจมาก อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย หลังพบลูกชายถูกแทงหลายแผล และพบแขนเขียวช้ำเหมือนถูกจับแล้วรุมทำร้าย ดูแล้วมันเกินกว่าเหตุ หากพูดว่าป้องกันตัว ซึ่งหลักเกิดเหตุก็ไม่ได้มีการช่วยเหลือลูกชายส่งโรงพยาบาล ปล่อยให้ตายเหมือนหมูเหมือนหมา

ตนเองยอมรับว่าลูกชายผิดที่บุกเข้าไปก่อเหตุในบ้านเขา แต่ก็นึกน้อยใจว่าทำไมถึงทำกันได้ขนาดนี้ เพราะลูกชายก็เข้าออกที่บ้านหลังนี้มาตลอดตั้งแต่เด็ก ๆ ข่าวที่ออกไปบอกว่าลูกชายคลั่งยาแล้วไปก่อเหตุ ตนขอแก้ข่าวให้ลูกชาย เพราะผลตรวจก็ออกมาชัดเจนว่าลูกชายไม่มีสารเสพติดในร่างกาย แล้วลูกชายก็ไม่ได้มีอาการทางประสาท เหมือนที่ทางบ้านผู้ก่อเหตุใส่ร้าย ตนเชื่อว่าลูกชายไม่ได้ตั้งใจไปก่อเหตุ เพราะก่อนหน้าจะเกิดเหตุ 2 วัน ลูกชายเอาปืนมานั่งเล่นที่บ้าน ถ้าลูกชายจะก่อเหตุจริง ๆ ทำไมไม่เอาปืนไปก่อเหตุ

แล้วก็อยากจะถามทางบ้านผู้ก่อเหตุว่าเมื่อลูกชายไปอาละวาด ทำไมไม่โทรมาบอกกันก่อน ทำไมไม่ช่วยกันห้าม หรือช่วยกันจับตัว เพราะที่บ้านหลังนั้นก็อยู่กันตั้งหลายคน แค่คน ๆ เดียวทำไมถึงช่วยกันจับตัวไม่ได้ ที่ออกมาขอความเป็นธรรมเพราะอยากให้ลูกชายไปสู่พบภูมิที่ดี ไม่ใช่ต้องมาถูกใส่ร้ายแบบนี้ ในเมื่อลูกชายก็จากไปแล้ว ก็ไม่อยากให้เขามีมลทินติดตัวไปในชาติหน้า ส่วนตัวอโหสิกรรมให้ผู้ก่อเหตุ เพราะไม่อยากจองเวรจองกรรมกัน เรื่องคดีก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย