"เต๋า ซังฮี้" ฟิวส์ขาดเมียนุ่งกระโจมอกกระทืบเพื่อนรักดับ กอดแม่สำนึกผิดก่อนเข้าซังเต (คลิป)

7 ส.ค. 64

เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค. 64 ตำรวจ สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้าน ถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้ปากซอย 66 แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นศูนย์รับเช่าและจำหน่ายเครื่องรางของขลังชื่อร้าน "เต๋า ซังฮี้"

408651814409

จากการตรวจสอบบนที่นอนในโซนพักผ่อนหลังบ้านชั้นล่าง พบศพนายภาณุพล กังวานนครชัย หรือ เบียร์ อายุ 34 ปี นอนตะแคงซ้ายคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นลายพรางทหารสีขาวดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา มีบาดแผลถูกทำร้ายที่ใบหน้า กระดูกดั้งจมูกแตก เบ้าตาช้ำ 2 ข้าง ใบหูขวาฉีก ถึงแก่ความตาย

196688

ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายคือ น.ส.อรสา สท้านอาจ อายุ 28 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ มีบาดแผลศีรษะแตก ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายทรัพย์สิน ธรรมรัชสุนทร หรือ เต๋า อายุ 37 ปี ยืนรอมอบตัวกับตำรวจในสภาพเมามายสุราอย่างหนัก

839216

นางจุฑาทิพ ช่อจอหอ อายุ 56 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายเต๋าเล่าว่านายเบียร์โทรศัพท์มาชักชวนดื่มเบียร์ตั้งแต่ช่วงเย็น โดยซื้อเบียร์มา 1 ลัง และเข้ามานั่งดื่มที่ชั้น 1 ของบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีนายเต๋า นายเบียร์ และนางสาวอรสา นั่งดื่มตั้งแต่ช่วง 17.00 น. ต่อมานายเต๋าได้ขอตัวขึ้นไปนอนที่ชั้นบนของบ้าน เวลา 21.00 น. ให้นายเบียร์และนางสาวอรสานั่งดื่มกันเพียง 2 คน

425591

จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. นายเต๋าบอกว่าได้ยินเสียงกุกกักที่ชั้นสอง จึงตื่นขึ้นมาและเปิดประตูออกมาดูนางสาวอรสายืนขวางประตูอยู่ ไม่ให้นายเต๋าเดินออกจากห้อง และนายเต๋าได้ยินเสียงคนกำลังวิ่งลงบันไดไปที่ชั้น 1 ขณะที่นางสาวอรสาแต่งตัวไม่เรียบร้อยคือนุ่งกระโจมอกอยู่ จึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้เก้าอี้ไม้ตีศีรษะของนางสาวอรสาบาดเจ็บ และวิ่งไปซ้อมนายเบียร์จนแน่นิ่ง คาดว่าเป็นจังหวะที่ศีรษะไปกระแทกกับขอบเสาปูนด้านข้าง นายเต๋าบอกว่าตนเองเตะไปไม่กี่ครั้งจนเสียชีวิต จึงโทรศัพท์บอกแม่และน้องชายคนเล็ก ตนเองยอมรับว่านายเต๋าน่าจะเมา จึงขึ้นไปนอนก่อนเกิดเหตุ เพราะถ้าหากไม่เมาคงไม่ขึ้นไปนอน

2

หลังเกิดเหตุ ตนเองจึงได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เห็นตำรวจเต็มบ้านแล้ว และนายเต๋าก็นั่งถอดเสื้ออยู่หน้าบ้าน นายเต๋าบอกว่า ขอกอดแม่หน่อย และรู้สึกสำนึกผิด ตนเองก็บอกว่าคนเราผิดพลาด หากรักษาศีลไม่ดื่ม ปัญหาก็ไม่เกิด ปัญหาครั้งนี้เกิดเพราะเหล้า และเชื่อว่ามันคงเป็นเวลาของมันที่กำหนดไว้

cg

ที่ผ่านมา นายเต๋า และนางสาวอรสาคบหากันไม่เกิน 8 เดือน เข้ากันได้ดีทุกเรื่อง ไม่เคยมีปากเสียงกันเรื่องหึงหวงมาก่อน ตนเองไม่ทราบนิสัยใจคอนางสาวอรสา เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน นายเต๋าและนายเบียร์รู้จักกันมานานกว่า 30 ปี เพราะเป็นคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ประมาณอายุ 5-6 ขวบ ทั้งคู่ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันแต่อย่างใด รักกันดี สนิทกันมาก

ตนเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องทำใจ ลูกชายต้องไปขอขมาศพ ถึงจะเจตนาหรือไม่ก็ต้องอโหสิกรรมให้ผู้ตาย จะได้ไม่มีกรรม ตนเองไม่กล้ายืนยันเหตุการณ์ว่านางสาวอรสากับนายเบียร์มีอะไรกันจริงตามที่นายเต๋าเข้าใจหรือไม่ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ หากพูดไปจะเสียหาย อยากจะบอกกับครอบครัวผู้เสียชีวิตว่าเสียใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น คงถึงเวลาของมันหรือไม่ ก่อนหน้านี้ไม่มีลางบอกเหตุ ส่วนบ้านที่เกิดเหตุลูกชายคงอยู่ต่อ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนเองเคยบอกลูกเรื่องการดื่มสุราแล้ว เพราะลูกชายก็นับถือในพระพุทธศาสนา มีครูบาอาจารย์ที่นับถือ มองว่าการดื่มสุรา หรือยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขจึงอาจเป็นสาเหตุให้ควบคุมสติและอารมณ์ไม่อยู่

199771

โดยช่วงเช้าเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด นำตัวนายทรัพย์สิน ผู้ก่อเหตุ ไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีการชี้จุดที่มีการเตะนายภาณุพลจนถึงแก่ความตาย รวมถึงจุดที่มีการใช้เก้าอี้ฟาดที่ศีรษะของนางสาวอรสา จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ

528635

จากนั้น ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุกลับไปที่ สน.บางพลัด ถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ญาติทำเรื่องขอประกันตัวโดยใช้เงินสดจำนวน 150,000 บาท

ส่วนศพของนายภาณุพล ยังอยู่ที่นิติเวช โรงพยาบาลวชิระ ต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนทำการผ่าชันสูตร ในวันจันทร์ที่ 9 ส.ค. 64

titled

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ อาคารพาณิชย์ 2 ชั้นติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้แยกบางพลัด บ้านปิดล็อกเงียบ นางโนรี คำจริง อายุ 63 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ตนเองไม่ทราบเรื่องหรือได้ยินเสียง เพราะนอนกลับไปแล้ว ตื่นขึ้นมาช่วงหลังจากเกิดเหตุ เวลาประมาณ 01.00 น. เพราะได้ยินเสียงรถเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางเข้ามาในพื้นที่ และเสียงค่อนข้างดัง ทราบภายหลังว่านายเต๋าทำร้ายร่างกายรุ่นน้องจนเสียชีวิต และใช้เก้าอี้ฟาดศีรษะภรรยา ตนเองเจอกับนายเต๋าล่าสุดเมื่อช่วง 12.00 น. ก่อนเกิดเหตุ ก็มีท่าทีปกติ

ตนตกใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คาดว่าถ้าไม่ถึงที่สุด นายเต๋าคงไม่ทำแบบนี้ มองว่าอาจจะเป็นเพราะเมาด้วยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาฃ นายเต๋าเป็นคนมีอัธศัยดี มีน้ำใจ ผ่านหน้าบ้านตนเองก็จะยกมือไหว้ตลอด อาศัยอยู่ที่นี่มาประมาณ 3 ปี เมื่อกลับต่างจังหวัดก็มักจะซื้อของติดไม้ติดมือมาฝากตนเองเป็นประจำ ส่วนภรรยาของนายเต๋าก็อัธยาศัยดีเช่นเดียวกัน มีอาชีพค้าขายส้มตำอยู่บริเวณหน้าร้าน และก็ทักทายตัวเองอยู่เสมอ ตนเห็นทั้งคู่พูดคุยกันดีตลอดเวลา ไม่เคยเห็นทะเลาะกันมาก่อน ทราบว่าทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันมาประมาณ 5 เดือน ก่อนหน้านี้ฝ่ายชายเคยมีภรรยาเก่า และมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่น่าจะแยกทางกันไปแล้ว

โดยนายเต๋ามีอาชีพเปิดร้านทำเกี่ยวกับเครื่องลางของขลัง วัตถุมงคลต่าง ๆ แต่ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน ส่วนผู้ตายตนเองยืนยันว่าไม่รู้จัก หรือไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส