ปอร์เช่เดือดเก๋งชนท้ายบุบ ต่อยคู่กรณีสลบเหมือด ลุงตาปูดไม่เอาเรื่องแลกค่าซ่อม (คลิป)

6 ส.ค. 64

จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "social hunter reborn v4" โพสต์คลิปเหตุการณ์ชายหนุ่มขับรถหรูหัวร้อน เหตุลุงขับรถชนท้าย กร่างลงมาต่อยลุงร่วงสลบคาถนน พลเมืองดีถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมโซเชียลเป็นจำนวนมากนั้น

884205

วันที่ 6 ส.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ สามแยกซอยสุขุมวิท 55 ติดกับถนนเพชรบุรี เป็นลักษณะเป็นถนน 3 เลน

199327

นายต้อย (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตนทำอาชีพขับรถมามากกว่า 10 ปี ค่อนข้างไม่ประมาทในการขับรถ ซึ่งวันเกิดเหตุ 5 ส.ค.64 เวลาประมาณ 20.30 น. ตนกำลังขับรถนิสสันมิล่า สีแดง กลับบ้าน เนื่องจากใกล้ช่วงเวลาเคอร์ฟิว ข้ามสะพานคลองแสนแสบมากำลังจะเลี้ยวซ้าย ซึ่งเป็นเลนเลี้ยวผ่านตลอด แต่รถปอร์เช่ไม่ยอมเลี้ยว ไม่แน่ใจว่าเขารู้หรือไม่ว่าสามารถเลี้ยวได้เลย ทำให้รถยนต์ของตนเสียหลักเข้าชนที่บริเวณท้ายรถของคู่กรณี

286933

ทั้งนี้ ตนไม่ได้ตกใจ เพราะอุบัติเหตุเป็นเรื่องปกติบนท้องถนน ก็คาดว่าจะมีการเรียกประกันมาเจรจาพูดคุย แต่กลายเป็นว่าคนขับรถปอร์เช่ลงจากรถมา ด่าทอตน ถามว่า "มึงขับรถแบบนี้ได้ยังไง" ขณะนั้นตนก็จะลงจากรถเพื่อไปพูดคุย แต่ถูกชกเข้าที่ด้านหน้าซ้ายอย่างแรง ทำให้ตนสลบไปชั่วครู่หนึ่ง กระทั่งรู้สึกตัวก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังจุดเกิดเหตุแล้ว จากนั้นก็แยกกันไป ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพาคู่กรณีไปที่ไหน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ตนจึงยังไม่มีโอกาสได้เจรจากัน

203437

ส่วนตนไม่ได้มีความกังวลเรื่องของความเสียหายรถยนต์ น่าจะให้เป็นเรื่องของประกัน ความจริงคนขับคู่กรณีเขาก็ไม่น่าเข้ามายุ่งก็ได้ ตนยอมรับว่าตนผิดที่ขับรถไปชนท้าย แต่การแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงก็ไม่ถูกต้อง ตนได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณปากขวาบนแตก เปลือกตาล่างช้ำ และเจ็บบริเวณหัวไหล่ เพราะโดนต่อยจนล้ม ส่วนความเสียหายรถยนต์ไฟหน้าแตก คาดว่าหม้อน้ำก็น่าจะแตกด้วย และต้องซ่อมเอง เพราะรถเก่าแล้ว ไม่มีประกัน

929306

ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีการเรียกไปสอบปากคำเพิ่มเติม ยืนยันว่าถ้าเขายอมจบ ตนก็จะจบ แต่ถ้าคู่กรณีจะแจ้งความ ตนก็จะแจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกายเหมือนกัน เรื่องจ่ายค่าเสียหาย รถตนไม่มีประกัน แต่ผ่อนชำระกับประกันได้ ไม่มีปัญหา

ด้าน พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่าผิดทั้งคู่ เนื่องจากผู้บาดเจ็บเป็นคนขับรถไปชนรถคู่กรณี ถูกดำเนินคดีในข้อหาขับรถด้วยความประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ จับปรับ 400 บาท ส่วนฝ่ายคู่กรณีนั้น พนักงานสอบสวนให้ผู้บาดเจ็บไปตรวจร่างกาย เพื่อจะได้นำผลตรวจมาประกอบการแจ้งความ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส