ล่าแก๊งทมิฬยิงหัวเพื่อนรักคาวงเหล้า บุกบ้านตังเกปืนจี้หัวสั่งขับเรือพาทิ้งศพ (คลิป)

กรณีเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 4 ส.ค. 64 พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร จ.สงขลา รับแจ้งจากเหตุชาวประมงพบศพผู้เสียชีวิตลอยในน้ำริมฝั่งทะเลสาบสงขลา ม.1 ต.สทิงหม้อ อ.สิงนคร จ.สงขลา รุดตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ครรชิต นัครามนตรี ผกก.สส.ชุดสืบสวน พบศพนายโฆสิต เหมมัน อายุ 36 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในน้ำริมทะเลสาบ สวมกางเกงวอร์มสีแดง และเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเทา ร่างกายถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าลำตัว 1-2 นัด

จากการสอบสวนทราบว่า นายโฆสิตหายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเช้า พบรอยคราบเลือด ปลอกกระสุนปืน 11 มม. 1 ปลอก พบหัวกระสุนปืน 1 หัว บนถนนริมชายทะเลสาบใกล้กับจุดที่พบศพ แต่ไม่พบตัวนายโฆสิต ญาติได้แจ้งตำรวจและช่วยกันออกตามหาจนกระทั่งพบกลายเป็นศพถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในทะเลสาสาบสงขลา

ล่าสุด ตำรวจรู้ตัวร้ายแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกมาหมายจับ โดยก่อนหน้านี้ 1 เดือน เคยมีเรื่องกันมาก่อน และเคยยกพวกมารุมทำร้ายนายโฆสิตที่บ้านพัก และถูกนายโฆสิตใช้อาวุธมีดแทง ได้รับบาดเจ็บไป 1 คน แต่เหตุการณ์นี้ไม่ได้มีการแจ้งความกับตำรวจ คู่กรณีได้พูดข่มขู่ว่าจะเอาคืน จึงเชื่อว่าการตายของนายโกสิตเป็นฝีมือของคู่อริรายดังกล่าว

ล่าสุด วันที่ 5 ส.ค.64 ทีมข่าวลงพื้นที่ตั้งแต่จุดที่พบรอยเลือด ในซอยข้างบ้านผู้เสียชีวิตหมู่ 1 ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เข้ามาประมาณ 30 เมตร พบคราบเลือดบนถนนคอนกรีดเป็นทางยาวจากใหญ่ไปเล็กกว่า 10 เมตร สิ้นสุดบ้านหลังหนึ่งที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด 1 ตัว บ้านอยู่ติดทะเลสาบสงขลา ก่อนที่ศพจะลอยไปยังจุดที่พบศพซึ่งห่างกันประมาณ 1 กม.

ทีมข่าวได้ลงสำรวจจุดที่พบศพ ฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่ติดภูเขา ฝั่งขวาเป็นทะเลสาบ มีศาลาพักผ่อน และจุดจอดเรือประมงของชาวบ้าน และเป็นพื้นที่ ที่ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด

นางสาวนูรีน (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ เล่าว่า เวลา 02.00 น. ขณะนั้นหลับสนิท มีเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด แต่ไม่คิดอะไร และไม่ได้ลุกขึ้นมาดู เนื่องจากอยู่ในพื้นที่มากว่า 2 ปีแล้ว พบว่าปากซอยซึ่งเป็นบ้านของคนตาย มักมีการทะเลาะกันเสียงดัง หรือบางวันคนตายและพี่ชายคนตายมักมีการโวยวายเสียงดังกลางดึกเป็นประจำ จึงไม่คิดว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น ตื่นมาถึงพบกับลอยเลือด และกระสุน กับปลอกกระสุนปืนแล้ว

ขณะเดียวกันในพื้นที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 มีมาตรการเคอร์ฟิวหลัง 21.00 น. ชาวบ้านทุกหลังก็จะเข้าบ้านกันตั้งแต่ 20.00 น. แม้แต่สถานการณ์ปกติคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นก็เข้าใครบ้านมันกันหมดแล้วเช่นกัน สำหรับบ้านคนตายตนเองรู้บ้างว่ามีวัยรุ่นวนเข้าออกบ่อยครั้ง แต่ไม่ได้สนใจว่าเป็นใครมาจากที่ไหนบ้านกันบ้าง

ล่าสุด พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร พร้อมด้วยชุดสืบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 9 ลงพื้นที่ตรวจสอบเรือต้องสงสัยของชาวบ้าน ก่อนมีรายงานว่าในเรือพบลอยเลือด 1 จุด พิสูจน์หลักฐาน 9 เก็บหลักฐานนำส่งพิสูจน์ต่อไป ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างขออำนาจศาลเตรียมออกหมายจับคนร้ายต่อไป

นางมาลี (นามสมมติ) อายุ 70 ปี แม่เจ้าของเรือ เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องจากลูกชายว่าคืนเกิดเหตุถูกกลุ่มวัยรุ่นมาเคาะประตู ใช้ปืนจ่อบังคับให้นำเรืออกพาศพผู้เสียชีวิตไปทิ้ง เมื่อมอบศพที่กองอยู่หน้าบ้าน ก็ถึงกับน้ำตาซึม เพราะคนตายเป็นญาติกัน แต่ก็ต้องจำใจ เพราะต้องรักษาชีวิตตัวเองไว้ก่อน ส่วนที่ไม่ตัดสินใจบอกแม่ตอนแรกก็เพราะกลัว

ส่วนศพไปพาคนร้ายไปทิ้งไว้ที่สะพานติณสูลานนท์ ไม่กล้าออกไปไกล เพราะนึกสงสารคนตาย ก่อนกลับมาบ้าน เช้าก็ออกไปทำงานปกติ ตอนนี้ลูกชายถูกกันไว้เป็นพยานเรียบร้อยแล้ว

ด้านนางสะฝิยะ เหมมัน อายุ 61 ปี แม่นายโฆสิต ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ส่วนตัวมีบ้านอยู่ปากใกล้จุดพบคราบเลือด 2 หลังซ้ายและขวา เป็นบ้านปูนชั้นเดียวและบ้านไม้ 2 ชั้น ซึ่งลูกชายจะอยู่บ้าน 2 หลังดังกล่าวสลับกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ของเมื่อวานนี้ หลานสาวมีอาชีพขายอาหาร โทรศัพท์ไปบอกว่าอามัด คนตาย ไม่ออกไปขูดมะพร้าวให้ จึงมาตามที่บ้านแต่ไม่พบตัว ตนจึงเดินทางไปบ้านที่ลูกชายอยู่ ทราบว่าลูกชายไปบ้านนายดาลี เพื่อนของลูกชาย แต่เมื่อไปถึงก็ไม่พบ ตนจึงวนกลับมาตามหาที่บ้าน และให้ลูกชายไปบ้านนางสาวฉาวเอียด หญิงสาวที่สนิทกับลูกชาย แต่ก็ไม่พบ

จากนั้นพบคราบเลือดบนถนนในซอยบ้าน จึงแจ้งตำรวจมาระดมหากว่าครึ่งวันแต่ไม่พบ ตอนนั้นตำรวจให้ตนคิดในมุมที่ดี คิดว่าลูกไปเที่ยว ตนจึงให้ชาวบ้านชาวประมงช่วยหาลูกชาย จนพบเป็นศพอยู่ในทะเลสาบ ยอมรับว่าไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้

สำหรับลูกชายอาศัยอยู่บ้านปากซอยที่เกิด และส่วนใหญ่มักอยู่บ้านไม้ 2 ชั้นกับหลานชื่อที่นายแบน อายุ 30 ปี และมักมีเพื่อนที่เป็นเครือญาติกันสนิทกันมานานมาร่วมวงเสพยาอยู่บนชั้น 2 ของบ้านเป็นประจำ และไม่เคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกัน จึงไม่สงสัยเพื่อนกลุ่มนี้ แต่สุดท้ายตอนนี้ ทั้งหลานชายและเพื่อนลูกชายกลุ่มนี้ต่างหายหน้าหายตากันไปหมด

ย้อนไปกว่า 1 เดือน ลูกชายเคยปัญหากับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง เริ่มต้นจากลูกชายมีอาการเห็นภาพหลอน ใช้เท้าเตะรถวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวจนบุบเสียหาย และวัยรุ่น 3 คน ได้ตามมารุมทำร้ายลูกชาย แต่ลูกชายมีมีด จึงคาดว่าลูกชายใช้มีดแทงวัยรุ่นเข้าที่ท้องได้รับบาดเจ็บเย็บ 5 เข็ม ทำให้วัยรุ่นดังกล่าวโกรธแค้น บอกไว้ว่าสักวันจะมาเอาคืน อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับลูกชายติดยาหนัก แต่ช่วงเช้าถึงเย็นลูกก็ออกไปรับจ้างทั่วไปทำมาหากินปกติ ไม่ค่อยมีปัญหากับใคร