เมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 4 ส.ค. 64 พ.ต.ท.เสถียรพงษ์ อ่อนศรีทอง สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์ รับแจ้งเหตุมีรถตกถนนลงคูน้ำ จนมีผู้เสียชีวิต บริเวณใกล้เคียงวัดดอนศาลเจ้าในพื้นที่ หมู่ 1 ต.แหลมประดู่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตออกมาจากรถเก๋ง ที่หงายท้องจนล้อชี้ฟ้าอยู่ภายในคูน้ำ ทราบชื่อผู้ขับคือ นายกนกศักดิ์ จันทร์ธร อายุ 38 ปี ส่วนผู้โดยสารคือนางสาวศิริลักษณ์ ราชนุวงศ์ อายุ 40 ปี เป็นภรรยา ก่อนที่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจะสามารถช่วยนายกนกศักดิ์ออกมาจากรถกระบะได้ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือนางสาวศิริลักษณ์ได้ เนื่องจากร่างติดกับเข็มขัดนิรภัย ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สามีกอดร่างภรรยาและร้องไห้ตลอดเวลา
สอบถามนายธีรวัฒน์ ซิ้มเทียม พลเมืองดีที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นรถยนต์เก๋งหงายท้องจนล้อชี้ฟ้าอยู่ภายในคูน้ำ มีชาวบ้านอีก 2 คนพยายามช่วยทุบกระจก ผู้ที่ติดอยู่ภายในออกมาได้ 1 คน คือนายกนกศักดิ์ ป็นคนขับรถ มีผู้ที่ติดอยู่ภายในรถอีก 1 คนคือนางสาวศิริลักษณ์ เป็นภรรยา โดยนายกนกศักดิ์และชาวบ้านได้พยายามช่วยกันดึงตัวออกมา แต่ตัวภรรยาติดเข็มขัดนิรภัย ทำให้ต้องใช้เวลาในการช่วยเหลือ จนในที่สุดภรรยาของนายกนกศักดิ์ก็จมน้ำเสียชีวิตคารถ
ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันงัดรถให้ขึ้นมา อยู่ในสภาพตะแคงข้าง จากการตรวจสอบภายในรถ และบริเวณโดยรอบพบชุดตรวจ Antigen Test Kits ซึ่งใช้ในการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เป็นจำวนมาก กระจัดกระจายจมน้ำทั่วรถ ชาวบ้านจึงพยายามช่วยกันนำขึ้นมาจากน้ำ
นายกนกศักดิ์ จันทร์ธร อายุ 38 ปี เล่าว่า ตนเองกับภรรยาได้เดินทางไปหาซื้อของที่ตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว เพื่อนำกลับมาขายที่ตลาดนัด หน้าห้างตะวันออกคอมเพล็กซ์ ภายในตัวเมืองฉะเชิงเทรา โดยมีญาติ และกลุ่มคนที่รู้จักได้ฝากซื้อชุดตรวจ Antigen Test Kits เกือบ 2 แสนบาท เพื่อเตรียมนำไปบริจาคให้กับโรงพาบาลพุทธโสธร และโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
โดยก่อนเกิดเหตุ ตนเองขับรถกำลังจะมุ่งหน้ากลับบ้านแถวบางไผ่รีสอร์ท ตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา แต่ระหว่างทางที่กำลังขับรถ ได้มีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้า ภรรยาจึงได้สะกิดถามตนเองว่าเบอร์ใครไม่รู้โทรเข้ามา ทำให้ตนเองหันไปดูโทรศัพท์ที่มือของภรรยา หันกับมารถก็วิ่งลงข้างทาง แล้วพลิกคว่ำหงายท้องในคูน้ำ ซึ่งขณะนั้นตนเองได้พยายามทุบกระจกเพื่อออกมา โดยมีพลเมืองดีที่ผ่านมาเห็น ได้ลงมาช่วย แต่ตนเองไม่สามารถช่วยภรรยาเอาไว้ได้
ทีมข่าวเดินทางไปยังคูน้ำบ้านดอนศาลเจ้า หมู่ 1 ต.แหลมประดู่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ที่เกิดเหตุเป็นคูน้ำข้างทาง หลังวัดดอนศาลเจ้า คูน้ำมีเป็นหญ้าขึ้น ซึ่งความกว้าง 3 เมตร มีความลึก 1.2 เมตร ตรงบริเวณริมคูน้ำพบว่ามีรอยรากรถกระบะขึ้นมา และมีเศษขยะ ร่ม หลงเหลืออยู่
นายลือศักดิ์ บัวศรี อายุ 51 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นว่ารถคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็ว หลุดโค้งตั้งแต่หลังวัดดอนศาลเจ้า ก่อนที่เครื่องยนต์จะติด ๆ ดับ ๆ ผ่านหน้าบ้านของตนได้ไป พอเครื่องยนต์กลับมาใช้งานได้ปกติ ทางผู้เสียหายก็ได้เร่งเครื่อง ก่อนที่ตนจะได้ยินเสียงรถชนดังตู้ม เสียงดังมาก
จากนั้ นตนจึงขับรถตามหาเสียง กระทั่งพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวตกลงไปในคูน้ำข้างทาง สภาพรถหน้ารถฝั่งซ้ายทิ่มลงไปในคูน้ำ และรถหงาย ตนจึงรีบลงไปช่วย ขณะเดียวกันทางคนขับซึ่งรอดชีวิต ได้ตะเกียกตะกายออกจากประตูรถขึ้นมา ส่วนภรรยาของคนขับอยู่ในรถ สภาพนั่งเบาะผู้โดยสารข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งหมดสติอยู่
ตนและคนขับกระบะจึงช่วยกันพยายามพลิกรถ แต่ไม่สามารถทำได้ ตนจึงรีบกลับบ้านมาเอาเชือก เพื่อจะลากรถขึ้น ซึ่งเชือกของตนเส้นเล็กเกินไป ไม่สามารถรากรถขึ้นได้ จึงขอความช่วยเหลือชาวบ้านให้นำเชือกเส้นใหญ่มาดึงรถ ใช้เวลาในการช่วยเหลือผู้ตาย 15 นาที เมื่อนำรถขึ้นมาได้ก็พบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว แขนซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์ และศีรษะฟกช้ำ
ขณะเดียวกันทางคนขับรถกระบะ หลังทราบว่าภรรยาเสียชีวิตก็สติแตก พูดจาไม่รู้เรื่อง ได้แต่ร่ำไห้ และพูดเกี่ยวกับเรื่องโทรศัพท์เท่านั้น หลังจากนั้นตนก็กลับบ้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่าเป็นอุบัติเหตุ ตนมาอาศัยอยู่บ้านดอนศาลเจ้าได้ประมาณปีกว่าแล้ว ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และส่วนตัวไม่รู้จักกับผู้ตายและคนขับรถกระบะ อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง