แฉดาบตำรวจคดีดังตบทรัพย์เด็ก 16 อุ้มกระทืบรีดครึ่งแสน เหยื่อผวาถูกบีบค้ายา (คลิป)

2 ส.ค. 64

วันที่ 1 ส.ค. 64 เมื่อเวลา 13.00 น. ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความอาสา พาผู้เสียหายชื่อนายศักดิ์สิทธิ์ คำมูล หรือ แต้ม อายุ 24 ปี, น.ส.สาวิตรี หรือ โม อายุ 18 ปี และ น.ส.เอ อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วีระพงศ์ อะภัยวงศ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ดาบตำรวจพร้อมพวกรวม 6 คน ในข้อหารีดเอาทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ลักทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และความผิดอื่น ๆ

915696

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 64 ผู้เสียหายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน อ้างตัวเป็นตำรวจบุกห้องพักขโมยทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกาย รีดทรัพย์ และบังคับให้เป็นเด็กเดินยาเสพติด หากไม่ทำตามจะถูกซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมบอกให้หาเงินมาจำนวน 50,000 บาท เป็นค่าปล่อยตัว แต่สามารถรวบรวมเงินได้เพียง 15,000 บาท กับผู้แจ้งความทั้ง 3 คน และผู้เสียหายอีก 3 คน

743888

เมื่อเวลาผ่านไป อีกฝ่ายยังตามรังควานไม่หยุด ข่มขู่ให้เป็นเด็กเดินยา กระทั่งเห็นข่าวในวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ในประเด็นรถกระบะใช้ดาบฟันรถเก๋ง จึงทำให้ผู้เสียหายนึกออกว่า 1 ในกลุ่มชายฉกรรจ์คือดาบตำรวจผู้เคยตกเป็นข่าว จึงตัดสินใจร้องเรียนต่อทนายอาสา

528125

วันที่ 2 ส.ค. 64 ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความอาสา เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 ก.ค. 64 กลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด จากนั้นก็ได้ทำการรวบตัวพ่อของบังเย็บ พามายังห้องเช่าภายในซอยบางปลา 29 ซึ่งขณะนั้นบังเย็บ แฟนบังเย็บ นายศักดิ์สิทธิ์ คำมูล หรือ แต้ม อายุ 24 ปี และน.ส.เอ อายุ 16 ปี อยู่ในห้อง จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ใช้ปืนจ่อและทำร้ายร่างกาย ถามถึงยาเสพติด และมีการควบคุมตัว น.ส.สาวิตรี หรือ โม อายุ 18 ปี คนข้างห้องด้วย

cg

โดยขณะนี้บังเย็บ รวมถึงแฟนสาวและพ่อของบังเย็บ ได้เกิดความกลัว และหลบหนีไปแล้ว ไม่สามารถติดต่อได้ เหลือเพียง 3 คน ที่เดินทางมาร้องทุกข์กับตน ซึ่งขณะนี้ก็หลบซ่อนตัวอยู่เช่นกัน โดยผู้เสียหายมีการระบุตัวตนกลุ่มชายฉกรรจ์ 2 คนอย่างแม่นยำ เนื่องจากทั้ง 2 คนตกเป็นข่าว

624626

ซึ่งเป็นที่น่าตกใจว่า ดาบตำรวจและนายชาคริต อายุ 38 ปี ลูกน้องดาบตำรวจ 2 บุคคลที่ปรากฏอยู่ในข่าวดาบฟันเก๋ง เป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 6 คน ที่บุกห้องจับยาเสพติดด้วย ส่วนที่เหลืออีก 4 คน คาดว่าไม่ใช่ตำรวจ

ตนรู้สึกสงสารกลุ่มผู้เสียหาย เพราะถูกทำร้ายร่างกายหลายจุด และถูกขู่เอาเงิน 50,000 บาท แต่รวบรวมกันได้ 15,000 บาท ทั้งนี้มีพยานในเหตุการณ์ขณะที่ผู้เสียหายถูกรุมทำร้ายที่บริเวณคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ถนนสุขุมวิทด้วย เป็นจุดที่พาออกมาจากห้องเช่า มารุมซ้อม

สำหรับข้อหาในการแจ้งความได้แก่ รีดเอาทรัพย์ และกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากมีการข่มขู่เอาเงิน ลักทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว จากการพากลุ่มผู้เสียหายไปทำร้ายร่างกายตามสถานที่ต่าง ๆ ทำร้ายร่างกาย และข้อหาบุกรุกห้องเช่า ส่วนการใช้ปืนจี้ศีรษะประชาชนถือว่ามีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตนเชื่อว่ากลุ่มชายฉกรรจ์น่าจะก่อเหตุเช่นนี้บ่อย จึงอยากจะวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด

ด้านดาบตำรวจ ชี้แจงกับอมรินทร์ทีวีว่าขณะนี้กักตัวอยู่ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล แต่เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้ง

525529

ทีมข่าวได้เดินทางมายังซอยบางปลา 29 ที่เกิดเหตุแรก นายพงพัฒน์ อิสมาแอน อายุ 31 ปี เจ้าของห้องเช่า ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถเปิดห้องที่เกิดเหตุให้ดูได้ เนื่องจากผู้เช่าห้องได้ปิดห้องไว้ เพื่อคงสภาพหลักฐาน บอกว่า ในวันที่ 13 ก.ค. เวลาประมาณ 12.30 น. ขณะที่ตนกำลังเดินทางออกจากบ้าน ตนสังเกตเห็นชายฉกรรจ์ 2 นาย ภายหลังอ้างว่าเป็นตำรวจ ขับรถกรบะสวนเข้ามาในซอย จากนั้นมากันเพิ่ม 4 นาย รวมเป็น 6 นาย

766426

ตนมาทราบภายหลังว่ามีการบุกจับ โดยมีการพังประตูห้องเช่าด้วย ตนได้รับฟังเรื่องมาจากกลุ่มเด็กผู้เสียหายว่าถูกตำรวจใช้ปืนจ่อศีรษะภายในห้องแล้วถามถึงยาเสพติด พอบอกไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดก็ถูกซ้อม ตนมีหลักฐานกล้องวงจรปิดกลุ่มชายฉกรรจ์เดินเข้าออกห้องเช่าของตน แต่ขณะนี้ตนยกเมมโมรี่ให้กลุ่มเด็กไปใช้แจ้งความ จึงไม่สามารถส่งมอบให้ทีมข่าวได้

ทั้งนี้ ก่อนหน้าวันที่ 13 ก.ค. สมาชิกของกลุ่มชายฉกรรจ์บางคนเคยเดินทางมาซุ่มสังเกตการณ์ที่ห้องเช่าของตนก่อนแล้ว โดนมีการงัดประตูบางบาน บวกกับประตูบานล่าสุดที่ถูกถีบ ทำให้ตนคาดว่าน่าจะต้องเปลี่ยนประตู 2 บาน รวมค่าช่างแล้วน่าจะต้องใช้เงินประมาณ 5,000 บาท ตนอยากจะถามว่าใครรับผิดชอบค่าความเสียหาย ทำไมตำรวจไม่มาบอกกับตนก่อน หมายค้นก็ไม่มี มาบอกให้ตนไขห้องให้ก็ได้ "เดือดร้อน เสียหายเรียกเก็บกับใคร ไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ ผมต้องควักเงินซ่อมประตูเอง บอกหน่อยใครรับผิดชอบ มาจับแล้วพากันกลับ"

ทั้งนี้ ตนไม่สามารถตอบได้ว่ากลุ่มเด็กผู้เสียหายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ เพราะดูภายนอกไม่ทีท่าทีคล้ายคนยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ลึก ๆ แล้ว ตนไม่รู้จักนิสัยใจคอ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส