แค้นสนั่นเมือง! เมล์ 39 เลือดร้อนไล่ผู้โดยสารลงก่อนฟันกันเหวอะ ปมเขม่น - ขสมก.ฟันไม่เลี้ยง (คลิป)

กรณีเว็บไซต์ จส.100 เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท บริเวณป้ายรถเมล์ ระหว่างรถเมล์สาย 39 กับคู่กรณีที่เป็นรถเก๋ง จนมีผู้บาดเจ็บจากการถูกฟัน หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว

วันที่ 22 ก.ย. 61 นายสุรพล (นามสมมติ) ผู้ประกอบการรถเมล์สาย 39 คันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนเป็นเจ้าของรถร่วมบริการสาย 39 เพียง 2 คันเท่านั้น ผ่านการเช่าซื้อจากบริษัท หลีกภัย ขนส่ง หลังทราบเรื่องได้สอบถาม กับ น.ส.เบญจ กระเป๋ารถเมล์ สาย 39 ที่เป็นลูกน้องของตน เผยว่า 16.00 น. วันที่ 21 ก.ย.61 นายธีระพล หรือบัส คนขับรถเมล์ สำรอง อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ กับนายแจ้  ฝั่งคู่กรณี ขับรถเมล์ไล่ตามกันมา โดยรถของธีระพลอยู่ด้านหน้าและรถของแจ้ คู่กรณีอยู่ด้านหลัง ขณะที่รถของธีระพล เข้าจอดที่ป้ายแต่ท้ายรถโผล่กินเลนถนนออกมา เนื่องจากช่วงรถยาว คู่กรณี ได้ขับรถตามมาและใช้กระจกข้างด้านซ้ายชนเข้าที่ท้ายรถเมล์ของธีระพล น.ส.เบญ จึงบอกให้เรียกประกันมาเคลียกัน แต่นายยุทธนา กระเป๋ารถเมล์ฝั่งคู่กรณีกลับทำท่านักเลงใส่ พูดจาหาเรื่อง และท้าให้ลงมาต่อยกัน

ก่อนแยกย้ายกันไป คู่กรณีโทรศัพท์มาท้าให้ออกมาเจอกัน และขับรถเมล์คันของคู่กรณีไปจอดที่บ้าน และเปลี่ยนเป็นรถเก๋งคันที่ใช้ก่อเหตุ ขับตามมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อมาถึงป้ายรถเมล์หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ที่เป็นจุดเกิดเหตุ รถเก๋งของนายยุทธนา ขับมาจอดต่อท้ายรถของธีระพล ก่อนกรูกันขึ้นมาบนรถเมล์ พร้อมมีดดาบ ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ และใช้ดาบฟันครั้งแรกไปที่ไหล่ซ้ายของธีระพล ในจังหวะที่ยุทธณาจะฟันครั้งที่ 2 ปลายดาบได้ไปติดที่พัดลมเพดาน จนใบพัดแตกกระจัดกระจาย ดาบจึงหล่นลงที่พื้น ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นายธีระพล กำลังจะลุกขึ้นจากเบาะคนขับ นายแจ้ จึงเข้ามาล็อกแขนของธีระพล และลากตัวไปรุมกระทืบที่ท้ายรถ

ส่วน น.ส.เบญ กระเป๋ารถเมล์ ถูกน.ส.มะลิวัลย์ แฟนของนายยุทธนา กับผู้หญิงอีก 1 คนที่มาด้วยกันกระชากผมกดลงกับพื้น และใช้กระบอกตั๋วตีเข้าที่ต้นคอ จมูก และกกหูหลายครั้ง จนหน้ามืด พอได้สติเงยหน้าขึ้นมา จึงเห็นว่านายธีระพล แฟนหนุ่ม นอนจมกองเลือดอยู่ท้ายรถ จึงรีบตะโกนขอความช่วยเหลือ

ส่วนสาเหตุของการทะเลาะวิวาทครั้งนี้ นายสุรพล เจ้าของรถ ยืนยันว่า ไม่ใช่ปมเรื่องการแย่งผู้โดยสารตามกระแสข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้ แต่อาจเกิดจากความอารมณ์ร้อนของวัยรุ่น ที่ไม่ยอมกัน นอกจากนี้เท่าที่ทราบ ฝั่งคู่กรณีมีนิสัยชอบระราน มีปัญหากับคนขับรถเมล์คันอื่น รวมถึงมีดาบที่ใช้ในการก่อเหตุ ไม่ใช่ของนายธีระพล อย่างแน่นอน เพราะกำชับลูกน้องมาตลอด ว่าห้ามพกอาวุธ หากมีเรื่องกันห้ามลงไปข้างล่างต้องอยู่แต่ในรถ ส่วนทางคู่กรณีจะให้ปากคำอย่างไรนั้น ก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา

หลังเกิดเรื่องตนได้เข้าไปขอแจ้งความกับตำรวจ สน.พหลโยธิน เนื่องจากรถได้รับความเสียหาย ทั้งกระจกบานหน้าซ้าย เป็นรอยร้าว ใบพัดลมแตก รวมถึงกระบอกตั๋วที่ภายในมีเศษเหรียญสำหรับทอนให้ผู้โดยสารประมาณ 300 บาทหายไป แต่ตำรวจยังไม่รับแจ้งความ โดยให้เหตุผลว่า เป็นรถให้บริการสาธารณะ และยังไม่ถึงขั้นตอน ต้องรอใบรับรองแพทย์ และรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บให้เสร็จสิ้นก่อน แต่ตนมองว่า ผู้ก่อเหตุตั้งใจขึ้นมาทำร้ายไม่ใช่ผู้โดยสาร ส่วนการเข้าชี้แจงกับทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือขสมก. ในวันที่ 24 ก.ย. นายสุรพล เผยว่า ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ เพราะจะเล่าทุกอย่างไปตามความจริงที่เกิดขึ้น