จากกรณี เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 64 เวลา 17.00 น. หน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในย่าน บ้านท่าขุนราม ว่าเกิดอุบัติเหตุมีคนขับรถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณเส้นทางนาบ่อคำ-ท่าขุนราม ในพื้นที่ ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จึงรีบรุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เบื้องต้น พบผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อ นายประสงค์ โภคทรัพย์ อยู่ในสภาพนอนหงาย มีเลือดออกมาบริเวณปาก โดยมีรถจักรยานยนต์ทับขาข้างขวา อยู่ในอาการสาหัส ไม่รู้สึกตัว จึงเข้าปฐมพยาบาล และนำตัวผู้บาดเจ็บไปส่งยัง รพ.กำแพงเพชร เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา จนเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 นายประสงค์ ได้เสียชีวิตลง
จากนั้น ญาติ ๆ ได้นำเอาศพของนายประสงค์มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดนาบ่อคำ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติพี่น้อง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ครอบครัวนี้ก็ได้สูญเสียคนในครอบครัวไปคือ นายประมวล อิ่มทุ่งหลวง อายุ 28 ปี ซึ่งก่อเหตุอัดคลิปผูกคอตัวเองเสียชีวิตในห้องนอนของตัวเอง อยู่บ้านในหมู่ 1 ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ล่าสุด วันที่ 29 ก.ค.64 ที่วัดนาบ่อคำ ต.นาบ่อค อ.เมือง จ.กำแพงเพชร สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายประสงค์ โภคทรัพย์ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์อุบัติเหตุ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางประเมิน บัวยะ อายุ 54 ปี ภรรยาและแม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มจากลูกชายของตนเสียชีวิตไปในวันที่ 24 ก.ค. ในวันนั้นช่วงเช้า ลูกชายได้เดินมาขอเงินตนจำนวน 100 บาท และขอกุญแจรถจักรยานยนต์บอกว่าจะออกไปหาเพื่อนที่อยู่ละแวกใกล้บ้าน ตนเองจึงได้บอกลูกว่า งานการก็ยังไม่มี ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ยังไม่มีเงินให้ พร้อมอธิบายเหตุผลให้ลูกฟัง ซึ่งก็อยากลองใจลูกชายด้วย เพราะเงิน 100 บาท ความจริงแล้วตนมี แต่อยากให้ช่วยกันประหยัด จากนั้นลูกก็ได้บอกกับตนเองว่า "ถ้าแม่ไม่ให้ ผมจะไปให้ยาวเลยนะ จะไม่กลับมาอีกแล้ว"
หลังจากนั้น ลูกชายก็เดินกลับบ้านไป ช่วง 14.00 น. ลูกชายนั่งกินข้าว กระทั่งเวลาผ่านไป ลูกสาวและญาติอีกคนได้เดินไปหาลูกชายที่บ้าน แต่พบว่าลูกชายผูกคอตายอยู่ภายในบ้าน
หลังทราบเรื่องครอบครัวจึงประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทราบว่าหลังจากที่ลูกชายได้ทะเลาะกับตน ลูกได้กลับเข้าบ้านของเขา ก่อนใช้โทรศัพท์มือถืออัดคลิปตัวเองไว้ ระหว่างที่กำลังผูกคอฆ่าตัวตาย เหตุการณ์ทั้งหมดถูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์ของลูก เป็นคลิปความยาวประมาณ 2 นาที เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งปมเหตุที่เกิดขึ้นตนก็ไม่ทราบว่า ที่ลูกตัดสินใจทำเพราะอะไรหรืออาจจะเป็นเพียงเพราะน้อยใจตนผู้เป็นแม่ ที่ไม่ให้เงินหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ที่ผ่านมาทุกครั้ง ตนก็จะบ่นลูกประจำ แต่ก็ให้เงินปกติตามที่ขอ ก็ไม่คิดว่าในครั้งนี้ลูกจะมาคิดสั้นฆ่าตัวตาย ทางครอบครัวจึงให้อาสากู้ภัยนำศพส่งตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตกับแพทย์ที่ รพ.กำแพงเพชร อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำกลับมาทำพิธีฌาปนกิจที่วัดนาบ่อคำ ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ใกล้บ้าน
จากนั้น ในวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนก็ต้องมาเสียสามีไปอีกเป็นศพที่ 2 โดยสามีตน เป็นพ่อเลี้ยงของลูก ก็ใช้ชีวิตอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันมานานตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน รวมแล้วประมาณ 24 ปี ปกติแล้วสามีของตนเป็นคนมีความรับชอบ รักครอบครัว ก่อนจะไปประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ในระหว่างที่ตนยังจัดงานศพของลูกชาย ก็มีเสียงโทรศัพท์ตนดังขึ้น เป็นเจ้าหน้าที่กูภัยโทรมาแจ้งว่า สามีของตนประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักแหกโค้ง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ตนยอมรับว่าหัวใจแทบสลาย ทำอะไรไม่ถูก เสียใจมาก ทำได้เพียงร้องไห้ จนตอนนี้แทบไม่มีน้ำตาจะไหลแล้ว เนื่องจากในความรู้สึกของคนที่เป็นแม่ของลูก และเป็นภรรยาที่สามีเสียชีวิต ตนสูญเสียคนในครอบครัวไปพร้อมกันถึง 2 คนอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่ลูกเสียชีวิตไป ตนก็ได้แต่นึกถึงคำพูดที่ลูกพูดไว้ก่อนจะเสียชีวิตว่า "จะไปให้ไกล แม่ไม่ต้องมาตามอีก จะไม่ให้แม่ตามหนูเจออีกเลย" คำพูดวนเวียนอยู่ภายในหัว เสมือนตนตรอมใจมาก ซึ่งต่อไปนี้ตนก็คงทำได้เพียงก้มหน้าสู้ชีวิตต่อไป เพราะตนยังมีลูกสาวอีกคนที่ต้องดูแลรับผิดชอบ ทั้งนึ้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่ทราบว่าการที่ตัองมาเสียคนในครอบครัวไปถึง 2 คนนั้น เกี่ยวกับเรื่องอาถรรพ์หรือไม่
