กรณีวันที่ 26 ก.ค.64 ร.ต.อ.วัฒนาอาจสาลีรองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พลับพลาชัย อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนผูกคอตัวเองเสียชีวิต ที่บ้านสำโรงหมู่ 10 ต.สำโรง อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุภายศาลากลางสระน้ำภายในบ้าน
พบ น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พลับพลาชัย ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองติดกับขื่อกระท่อมกลางสระน้ำ หน่วยกู้ชีพ ต.สำโรง ได้ช่วยกันเอาศพลงมาตรวจสอบ ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงนั้น
ล่าสุด วันที่ 27 ก.ค. 64 นางคำพอง นวลประโคน อายุ 83 ปี ย่าของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า เมื่อเช้าวันที่ 25 กร.ค. นางสาวลัดดา เพื่อนสนิทของน้องเจี๊ยบ ได้มาบอกตัวเองที่บ้านว่าเจี๊ยบผูกคอตาย พอไปดูในกระท่อมก็พบว่าหลานสาวได้นอนแน่นิ่งอยู่กับที่นอนแล้ว คาดว่าหลานสาวน่าจะใช้เชือกไนล่อนผูกคอกับคานไม้ของกระท่อม กระทั่งเชือกขาดและตกลงมานอนเสียชีวิต
ทั้งนี้ 1 วันก่อนเกิดเหตุ ตัวเองก็ไม่เห็นหน้าหลานสาวทั้งวัน กระทั่งมาพบหลานสาวกลายเป็นศพ คืนก่อนเกิดเหตุตัวเองได้นอนอยู่ในบ้านกับสามี ส่วนหลานสาวนอนอยู่ในกระต๊อบกลางสระน้ำ ห่างจากบ้านของตัวเองประมาณ 10 เมตร ตัวเองก็ไม่ได้ยินเสียงของหลานสาวแต่อย่างใด
ตัวเองไม่รู้สาเหตุหรือแรงจูงใจที่หลานสาวก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนเรื่องความรักของหลานสาว ตัวเองก็ไม่ค่อยรู้ข้อมูล ทราบเพียงว่าก่อนจะเกิดเหตุประมาณ 3 วัน ก็มีเพื่อนมาหาหลานสาวที่บ้าน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สำหรับหลานสาวไม่เคยมีประวัติการป่วยจิตเวช หรือป่วยเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าแต่อย่างใด ก่อนเกิดเหตุตัวเองไม่มีลางสังหรณ์ด้วย ส่วนบนเฟซบุ๊กก็มีการโพสต์เรื่องความรัก
นางสาวลัดดา เพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค. นางสาวเจี๊ยบได้โทรศัพท์ไปหาน้องที่สนิทอีกคน ยบอกว่า "กูรักเพื่อนทุกคนนะ กูรักแฟนนะ ชีวิตกูพังหมดแล้ว" จากนั้นรุ่นน้องผู้ชายที่คุยสายอยู่กับเจี๊ยบจึงถามเจี๊ยบว่าบอกสามเหตุมาหน่อย ทำไมถึงพูดแบบนี้ เจี๊ยบพูดว่าไม่ต้องอยากรู้สาเหตุ แล้วเจี๊ยบเงียบไป รุ่นน้องคนสนิทพยายามโทรหาเจี๊ยบหลายสาย แต่เจี๊ยบก็ไม่รับสายแล้ว
ต่อมารุ่นน้องคนดังกล่าวจึงโทรศัพท์มาชวนตัวเองออกไปดูเจี๊ยบที่บ้านของเขา แต่ตัวเองเห็นว่าเป็นเวลาประมาณ 22.00 น. แล้ว และครอบครัวของตัวเองก็ไม่ให้ออกจากบ้านตอนดึก ตัวเองจึงไม่ได้ไปดูเจี๊ยบ และตัวเองก็ได้ทักไปหาเจี๊ยบตอนคืนเกิดเหตุ แต่เจี๊ยบก็ไม่ได้ตอบข้อความ ช่วงเช้าของวันที่ 25 ก.ค. ตัวเองตื่นมาดูโทรศัพท์ก็ไม่เห็นเจี๊ยบตอบกลับข้อความ ตัวเองจึงเดินไปที่บ้านของเจี๊ยบ พอไปถึงกระต๊อบที่เจี๊ยบใช้อยู่อาศัย เห็นเจี๊ยบนอนไม่ห่มผ้า ตัวเองก็แปลกใจเพราะปกติเจี๊ยบเขาจะเป็นคนขี้หนาว จะห่มผ้าเสมอ ตัวเองจึงเดินเข้าไปในที่นอน เห็นเจี๊ยบนอนแข็งตัวอยู่ มีเชือกผูกที่คอ สภาพเชือกขาด ตนจึงโทรตามรุ่นน้องคนสนิทของเจี๊ยบให้มายังที่เกิดเหตุ ได้ใช้นิ้วมือไปสัมผัสใกล้จมูกของเจี๊ยบ พบว่าเจี๊ยบไม่หายใจแล้ว ตัวเองจึงได้เรียกให้ย่าของเจี๊ยบที่นอนอยู่บ้านหลังใกล้กันให้มาดู
สำหรับเจี๊ยบจะเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง มีอะไรจะไม่ค่อยเล่าให้เพื่อนฟัง จะชอบแอบไปนั่งเศร้าซึมอยู่คนเดียว สาเหตุที่เจี๊ยบก่อเหตุในครั้งนี้ ตัวเองคาดว่าน่าจะมาจากปัญหาครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมาเจี๊ยบเคยบ่นให้ตัวเองฟังว่าย่าของเจี๊ยบชอบดุด่า ส่วนเจี๊ยบได้คบหากับรุ่นน้องผู้ชายคนหนึ่ง ที่ผ่านมาตัวเองก็เคยเห็นเจี๊ยบกับแฟนทะเลาะกันล้างเล็กน้อย และเวลาเจีณยบเครียดเรื่องแฟนเขาจะชอบอ่านนิยาย แล้วเขาก็จะอารมณ์ดีขึ้น แต่คาดว่าเรื่องความรักน่าจะไม่ใช่แรงจูงใจในการก่อเหตุ ตัวเองคิดว่าเป็นปัญหาครอบครัวมากกว่า
นอกจากนี้ ตนมีข้อความแชตที่เจี๊ยบส่งให้ก่อนเกิดเหตุ มีใจความว่า "ดา รักมึงนะ ยิ้มเยอะๆเหมือนในรูปละ" หลังจากนั้นวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. เวลาเที่ยงคืน พยายามโทรหาและส่งข้อความหาเจี้ยบ แต่เจี๊ยบก็ไม่ตอบกลับแล้ว
นายนูน นวลประโคน ปู่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตัวเองนอนอยู่ด้านในบ้านอีกหลัง ซึ่งก็ไม่ได้ยินเสียงหลานสาวแต่อย่างใด กระทั่งมาพบหลานสาวเสียชีวิต สำหรับปมก่อเหตุตัวเองก็ไม่รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร เพราะหลานสาวไม่เคยบอก ไม่เคยมาระบายให้ตัวเองฟัง กรณีที่หลานสาวไปเล่าให้เพื่อนสนิทฟังว่าถูกผู้เป็นย่าดุด่านั้น ตัวเองขอยืนยันว่าที่ผ่านมา ภรรยาของตัวเองไม่เคยดุด่าหลานสาวแต่อย่างใด ตัวเองก็ไม่รู้ว่าหลานสาวคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง ถ้าตัวเองรู้ว่าหลานคิดจะฆ่าตัวตาย ตัวเองคงเฝ้าระวังหลานสาวมากกว่านี้ สำหรับกระต๊อบหลังเกิดเหตุ หลังจากนี้ตัวเองก็จะรื้อทิ้ง เนื่องจากไม่มีใครอาศัยอยู่แล้ว