กรณีเมื่อเวลา 18.30 น. ของวันที่ 21 ก.ค. 64 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น นำตัวนายประสิทธิ์ จาลา หรือ สมชาย อายุ 56 ปี ชาว ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร จากโรงพยาบาลในจังหวัดตาก ส่งต่อโรงพยาบาลบ้านฝางเป็นการเร่งด่วน เพราะมีอาการอ่อนเพลีย หลังจากหลบหนีไปบ้านอดีตภรรยาที่จังหวัดตาก และพยายามกินยาฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งอยู่ในการดูแลของแพทย์โรงพยาบาลบ้านฝางอย่างใกล้ชิดนั้น
วันที่ 22 ก.ค. 64 ที่ สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสง ผกก.สภ.บ้านฝาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฝาง ได้ประชุมคลี่คลายคดี ใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากประชุมเสร็จ พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสง ผกก.สภ.บ้านฝาง ระบุว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาได้ให้การสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่านางกันนิกา จำปา อายุ 44 ปี เพียงคนเดียว
เวลา 10.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับตัวผู้ต้องหาออกจากโรงพยาบาลบ้านฝาง มาที่ สภ.บ้านฝาง นายประสิทธิ์มาถึงโรงพัก มีสภาพอ่อนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 นาย ประคองพานายประสิทธิ์เดินไปขึ้นรถตู้ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ 1 จุดที่ผู้ต้องหาโทรหานางกันนิกา ในวันเกิดเหตุเพื่อลวงให้กันนิกาขับรถมารับที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ถ.ศรีจันทร์ ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น จุดดังกล่าวนี้ยังเป็นบริเวณหน้าปากซอยไปบ้านผู้ต้องหา
นายประสิทธิ์ ได้เดินลงจากรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชี้จุดที่ตัวเองได้ขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดที่จุดดังกล่าว เดินไปขึ้นรถกระบะของนางกันนิกา เป็นคนขับรถกันนิกา นางกันนิกาจะนั่งที่เบาะข้างคนขับ จากนั้นผู้ต้องหาก็ขับรถพากันนิกาออกไปจ ยบอกกับกันนิกาว่าจะพาไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายประสิทธิ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ 2 จุดที่ผู้ต้องหาขับรถกระบะของกันนิกา เพื่อไปจอดให้นายพนม นำรถไปประกาศขายต่อ จุดนี้ตั้งอยู่ที่ซอยพรสวรรค์ 2 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายประสิทธิ์ได้เดินลงมาชี้จุดที่จอดรถกระบะ
ระหว่างประสิทธิ์เดินไปขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถามประสิทธิ์ว่าปมที่ก่อเหตุเกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาวหรือไม่ นายประสิทธิ์ก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายประสิทธิ์มาทำแผนมาประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่ 3 บริเวณป่าละเมาะ ข้างวัดป่าศรีอุทัยธรรม ต.บ้านหว้า อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เป็นจุดที่ผู้ต้องหาลงมือฆ่ากันนิกา จำลองเหตุการณ์ตามคำอ้างว่ามาจอดรถที่ป่าข้างทาง เพื่อรอรับเครื่องดื่มที่มีการสั่งซื้อล่วงหน้าเอาไว้ ผู้ต้องหาได้ลงจากเบาะคนขับ เดินไปนั่งเบาะด้านหลังของกันนิกา จากนั้นมีการชวนกันนิกาพูดคุย ช่วงเผลอนายประสิทธิ์ได้ใช้เข็มขัดนิรภัยรัดคอนางกันนิกาจนหมดสติ ก่อนจะขับรถออกไป
ระหว่างทำแผนฯจุดที่ 3 นายประสิทธิ์ได้พูดสั้น ๆ ว่า ใช้เข็มขัดนิรภัยรัดคอกันนิกาแค่ 1 ครั้งเท่านั้น และไม่ได้ทำร้ายร่างกายกันนิกาอย่างอื่น ส่วนแผลที่เกิดขึ้นบริเวณท้ายทอยของกันนิกานั้นไม่รู้เรื่อง
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายประสิทธิ์มาทำแผนยังจุดที่ 4 จุดทิ้งศพที่ป่ามันสำปะหลัง ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น จุดนี้ได้มีนางสาวศิริวิภา คำค้อ ลูกสาวผู้เสียชีวิต และญาติผู้เสียชีวิตมาดูบรรยากาศทำแผนฯ ญาติก็ได้ตะโกนต่อว่านายประสิทธิ์เป็นระยะ แต่ไม่ได้เกิดเหตุชุลมุน
จำลองเหตุการณ์ว่าวันเกิดเหตุ มาจอดรถข้างๆจุดที่พบศพ จากนั้นก็เปิดประตูฝั่งที่กันนิกานั่งอยู่ แล้วลากศพกันนิกาจากเบาะด้านหน้าข้างคนขับ ทิ้งในป่ายังจุดที่พบศพ ห่างจากจุดจอดรถประมาณ 5 เมตร ก่อนที่จะขับรถกระบะของกันนางนิกาออกจากจุดทิ้งศพ
นายประสิทธิ์ บอกว่า "อยากขอโทษครอบครัวคนตาย ทำไปเพราะประสงค์ต่อทรัพย์ และอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้เกิดจากแค้น ไม่ได้วางแผนมาก่อน และยืนยันว่าได้เงินจากตัวกันนิกาไปทั้งหมด 42,000 บาท เอาเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายส่วนตัว และเล่นการพนัน และช่วงวันที่ฆ่าก็ยังไม่ได้หนี"
ด้าน น.ส.ศิริวิภา คำค้อ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันนี้ตัวเองรู้สึกโล่งใจที่ได้เจอหน้าผู้ต้องหา และคิดว่าหลังจากนี้เขาคงได้รับกรรมในสิ่งที่เขาทำ เหตุที่เกิดขึ้นตัวเองอยากจะถามว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาแม่ของตัวเองก็ดีกับผู้ต้องหามาตลอด ตัวเองยังได้ข้อมูลมาว่าวันที่ 8 ก.ค. ผู้ต้องหายังมายืมเงินแม่ตัวเองถึง 3 ครั้ง ซึ่งแม่ก็โอนให้ทั้ง 3 รอบ แต่ตัวเองไม่ทราบจำนวนเงินที่ผู้ต้องหายืมเงิน ถึงเขาจะขอโทษณะทำแผน ตัวเองก็ขอไม่ให้อภัย คิดว่าเหตุครั้งนี้ผู้ต้องหาเตรียมการมาก่อนแน่นอน เพราะก่อเหตุเสร็จเขาก็ติดต่อขายรถกระบะได้อย่างรวดเร็ว คิดว่าการก่อเหตุครั้งนี้ ไม่ได้ก่อเหตุคนเดียวแน่นอน
ที่ผู้ต้องหาบอกว่าตอนก่อเหตุใช้แค่เข็มขัดนิรภัยนั้น ตัวเองก็ไม่เชื่อ เนื่องจากสภาพศพของแม่ตัวเองมีบาดแผลที่ท้ายทอยอีกด้วย ตัวเองอยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษประหารชีวิต "ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต" ตัวเองคิดว่าเงินที่ผู้ต้องหาเอาจากแม่ตัวเองไปมีมากกว่า 42,000 แน่นอน อีกทั้งยังมีเงินส่วนที่ได้จากการขายรถยนต์อีก แม่ของตัวเองได้ไปเข้าฝันญาติ และบอกว่าจะเอาคนร้ายมาเข้าคุกให้หมด อย่างไรก็ตาม ตัวเองอยากให้แม่ไปสบาย ไม่ต้องมีห่วง
โดยเมื่อเวลา 10.30 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับตัวนายประสิทธิ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 ชุด ทำการสตาร์ตรถยนต์กระบะของนางกันนิกา เพื่อนำรถคันดังกล่าวไปใช้ทำแผนฯ ที่จุดเกิดเหตุ ตำรวจพยายามสตาร์ตรถของนางกันนิกาอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ติด กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 1 นาย บอกบอกกล่าวผู้ตายขอให้รถสตาร์ตเครื่องยนต์ติด จากนั้นไม่นานรถคันดังกล่าวก็สตาร์ตติด ขับไปใช้ประกอบการทำแผนฯได้
ด้านนางแอ๋ว (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของนายประสิทธิ์ เปิดใจว่า ถึงนายประสิทธิ์จะรับสารภาพแล้วว่าเขาก่อเหตุฆ่านางกันนิกาแล้วก็ตาม แต่ตัวเองก็ยังเชื่อว่าน่าจะมีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1 คน เพราะกันนิกาเป็นคนรูปร่างใหญ่ ก่อเหตุคนเดียวไม่ได้แน่นอน
สำหรับนายประสิทธิ์ เป็นคนใจดี ใจกว้าง กับเพื่อนทุกคนที่ผ่านมาตัวเองก็ไม่เคยเห็นเขามีนิสัยรุนแรง เป็นคนรักสัตว์ ไม่กล้าแม่แต่จะทำร้ายสัตว์ ตามคำอ้างประสิทธิ์บอกว่าเขาฆ่าเพราะประสงค์ต่อทรัพย์ ที่ผ่านมาตัวเองก็ไม่เคยเห็นเขาเดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่เคยเห็นเขาพูดว่ามีหนี้สินแต่อย่างใด ส่วนความสัมพันธ์ประสิทธิ์และกันนิกา ก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตัวเองก็รู้สึกสงสารนายประสิทธิ์ที่เขาเคยกินยาฆ่าตัวตาย ถึงใครจะสมน้ำหน้าประสิทธิ์ก็ตาม อีกทั้งตัวเองก็รู้สึกเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนหน้านี้ตัวเองก็ได้ไปร่วมงานศพนางกันนิกา แต่ญาติก็ไม่มีใครมาพูดคุยกับตัวเอง เพราะเห็นว่าตัวเองเป็นเพื่อนประสิทธิ์