เมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 ญาติของผู้ป่วยโควิด-19 โทรศัพท์เข้ามาร้องเรียนกับอมรินทร์ ทีวี ว่าน้องชายติดเชื้อโควิด-19 แต่กลับไม่มีเตียงรักษา จนกระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาเสียชีวิตคาบ้าน รอจนค่ำก็ยังไม่มีรถมารับศพ ซึ่งในบ้านยังมีภรรยา อายุ 29 ปี เเละลูกอีก 2 คน เป็นลูกสาว อายุ 9 ขวบ เเละลูกชาย อายุ 2 ขวบ ติดโควิด-19 ทั้งหมด
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว อยู่ภายในซอย บรมราชชนนี 70 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ สภาพเป็นบ้านเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ซึ่งทันทีที่ทีมข่าวเดินทางไปถึง พบว่าศพของผู้เสียชีวิต คือ นายบุญชัย อายุ 49 ปี ยังคงอยู่ในบ้าน ไม่มีเจ้าหน้าที่มารับศพเเต่อย่างใด โดยในบ้านมีภรรยา อายุ 29 ปี ลูกสาว อายุ 9 ขวบ เเละลูกชาย อายุ 2 ขวบ ติดโควิด-19 ทั้งหมด
ทีมข่าวจึงได้ประสานไปยังผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องการเก็บศพ ทางผู้อำนวยการเขตได้มีการประสานไปยังเเพทย์ เเละเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทราบว่าวันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เเต่จำนวนเเพทย์มีอยู่อย่างจำกัด จึงเก็บศพล่าช้ากว่าปกติ
น.ส.เเพรวพรรณ อายุ 29 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีมีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวาน กับความดันโลหิตสูง โดยก่อนหน้านั้น วันที่ 18 มิ.ย.64 สามีไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อมาวันที่ 22 มิ.ย.64 เริ่มมีไข้ ทางครอบครัวคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา จึงให้ทานยาตามอาการ จากนั้นวันที่ 29 มิ.ย.64 ไปพบเเพทย์ที่ รพ.หัวเฉียว เนื่องจากอาการไม่ดีขึ้น ผลตรวจพบปอดอักเสบ เเพทย์จึงส่งตรวจโควิด-19 ปรากฎว่าผลเป็นบวกติดเชื้อโควิด-19
เเต่ทางโรงพยาบาลเเจ้งว่ายังไม่มีเตียงรักษา ให้กลับบ้านมากักตัวที่บ้าน เพื่อรอรถมารับ จึงต้องกลับมาที่บ้าน โดยสามีเเยกกักตัวด้านบน ส่วนลูกเเละภรรนาอยู่ชั้นล่าง
-วันที่ 30 มิ.ย.64 อาการเริ่มหนัก หายใจไม่ออก ส่วนลูกเเละภรรยาไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลกลาง ผลตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เเต่ยังไม่มีเตียงรักษา จึงต้องกลับมาที่บ้าน
-วันที่ 1 ก.ค.64
เวลา 04.00 น. สามีไอหนัก เอายาเเก้ไอไปให้กิน
เวลา 05.00 น. มีอาการหนาวสั่น เอาผ้าไปห่มให้
เวลา 07.00 น. มีอาการท้องเสีย เอาแพมเพิสขึ้นไปใส่ให้
เวลา 09.00 น. ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์มาเเจ้งว่าจะมีรถไปรับ ให้เก็บเสื้อผ้ารอ
เวลา 10.00 น. สามีเสียชีวิต
ทั้งนี้ ตนพยายามโทร 1669 เเละอีกหลายหน่วยงาน เเต่ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือ กระทั่งเวลา 12.20 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเข้ามาปั๊มหัวใจเเต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็กลับ เเล้วก็ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาอีกเลย ตอนนี้ตนเสียใจมากที่ต้องมาเจอเหตุการณ์เเบบนี้ เเต่กลับไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ สภาพจิตใจเเละลูก ๆ ย่ำเเย่ เพราะสามียังเป็นเสาหลักของบ้าน ดังนั้นจึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าอยากให้ฟังเสียงของประชาชนบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เขาตายคาบ้านเเบบนี้
เวลา 19.47 น. ทีมข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้ว่าขณะนี้เวลาจะผ่านมากว่า 10 ชั่วโมงแล้ว แต่ลูกชายคนเล็กวัย 2 ขวบ ยังคิดว่าพ่อกำลังนอนหลับอยู่ จึงพยายามที่จะอ้อนแม่เพื่อขอไปเล่นและนอนกับพ่อ ส่วนลูกสาวคนโตวัย 9 ขวบ ทราบว่าคุณพ่อเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้จากการสอบถามภรรยา ทราบว่าสภาพศพเริ่มที่จะแข็งแล้ว แต่ยังไม่ส่งกลิ่นแต่อย่างใด ขณะที่ญาติ ๆ ก็ได้นำข้าวมาให้ แต่ทางภรรยาก็ยังไม่ได้รับประทาน เพราะยังคงเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้
เวลา 19.49 น. เจ้าหน้าที่จาก รพ.ศิริราช ได้เดินทางเข้ามาถึงบ้านหลังดังกล่าว เบื้องต้นหากแพทย์ชันสูตรศพแล้วเสร็จ จะส่งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจตามศาสนาต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าหลังจากนี้คนในครอบครัวอีก 3 คน ได้แก่ ภรรยา และลูกสาว อายุ 9 ขวบ เเละลูกชาย อายุ 2 ขวบ จะได้เตียงรักษาอาการป่วยหรือไม่
นอกจากนี้ น.ส.น้ำทิพย์ อายุ 54 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากน้องชายติดโควิด-19 เเล้วไม่มีที่รักษา ตนก็เกิดความทุกข์ใจ จนกระทั่งช่วงเช้าน้องชายอาการเเย่ลง เเต่เห็นว่าน้องสะใภ้ ประสานไปหลายหน่วยงานเเล้ว ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์มาที่อมรินทร์ ทีวี เพราะหวังว่าเป็นความหวังสุดท้าย จึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ตายคาบ้านเช่นนี้
เวลา 21.10 น. เเพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ได้ชันสูตรศพ เเละตำรวจ สน.ธรรมศาลา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เสร็จเรียบร้อยเเล้ว ขณะนี้กำลังรอหีบศพ ส่วนญาติกำลังรอใบรับรองจากเเพทย์ เเละตำรวจ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จะเข้าไปนำร่างออกมาเเล้วนำไปประกอบพิธีฌาปณกิจทันทีภายในคืนนี้ ที่วัดบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งทางวัดได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าตั้งเเต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา เมื่อศพมาถึงจะพร้อมฌาปณกิจทันที
