หนุ่มก๊งเหล้าตื่นเช้ากลายเป็นศพในบ้านเพื่อน โจ๋วงเหล้ารับรุมตีเบา ๆ ไม่คิดถึงตาย (คลิป)

จากกรณีเวลา 12.00 น. ของวันที่ 29 มิ.ย. 64 ร.ต.ท.นภาภรณ์ ฤกษ์พิชัย รอง สว.สอบสวน สภ.บางบังทองจ.นนทบุรี ได้รับเเจ้งเหตุชายถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านไม่มีเลขที่ ซอยจัดสรรวัด3 หมู่ 7 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผกก.สภ.บางบัวทองแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว

ภายในบ้านพบศพ นายชาตรี น้อยปลา อายุ 49 ปี อาชีพทำงานก่อสร้าง สภาพศพนอนหงาย สวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว ที่บริเวณใบหน้ามีคราบเลือดและมีร่องรอยการถูกทำร้าย ใกล้กันพบกองเสื้อผ้าเปื้อนเลือดวางอยู่ 4 ตัว

ทีมข่าวเดินทางมายังที่เกิดเหตุภายในซอยจัดสรรวัด 3 บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุไม่มีเลยที่บ้าน เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว หลังคาสังกะสี ภายในบ้านพื้นไม้ผุกล่อน กองขยะเต็มบ้าน บริเวณภายในบ้านพบคาบเลือดขนาดใหญ่ ช่วงทางเข้าของตัวบ้าน อีกทั้งบริเวณหน้าบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้รก และเต็มไปด้วยขยะที่นอน และขวด แก้วเบียร์

จากการสอบถาม นายอ้อด (นามสมมติ) ชาวบ้าน ระบุว่า ตนกลับมาจากทำงานถึงบ้าน 08.40 น. มีคนในบ้านหลังดังกล่าวเดินเข้ามาให้ช่วยไปดูเพื่อนนอนหลับแน่นิ่งอยู่ภายในบ้าน เมื่อไปตรวจสอบยังบ้านหลังดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไม้ โถงกลางบ้าน พบผู้เสียชีวิตนอนตัวแข็ง มีบาดแผลเหนือคิ้วซ้ายแตกเลือดออก แผลบริเวณปาก คาดว่าถูกกระแทกจากของแข็ง จึงได้ลองจับชีพจรพบว่าไม่มีชีพจรเต้น จึงเร่งประสานกู้ภัยเข้านำร่างส่งชันสูตรศพ

จากที่ตนทราบมาว่าบ้านหลังนั้นไม่ใช่บ้านที่ดื่มเหล้า ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นเป็นเพื่อนกับกลุ่มที่นั่งดื่มเหล้าเป็นประจำที่บ้านภายในซอย จัดสรรวัด 6 และก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิต ตั้งวงดื่มเหล้าสังสรรค์ในซอย จัดสรรวัด 6 และมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น และมีร่องรอยคราบเลือดขนาดใหญ่ 2 จุด บริเวณปากซอย จัดสรรวัด 6 และผู้เสียชีวิต หนีออกมาและมาพักตัวล้างแผล ล้างเลือดที่บ้านและผู้เสียชีวิตนอนหลับไป จนเช้ามานอนแน่นิ่งเสียชีวิตในที่สุด

ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางมายังบ้านไม้ต้นซอย ภายในซอยจัดสรรวัด 6 ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ติดใกล้กับรอยคราบเลือดขนาดใหญ่ถึง 2 จุด บริเวณปากซอยซึ่งห่างกันเพียง 20 เมตร บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านยกสูงมีพื้นไม้หน้าบ้านซึ่งเป็นจุดที่นั่งดื่มสังสรรค์ตั้งวงเหล้าบริเวณหน้าบ้าน

นายลิน เจ้าของบ้าน ระบุว่า เมื่อวานกลุ่มของตนได้นั่งดื่มเหล้ากัน 6 คน ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00-21.00 น. และหลังจากดื่มเสร็จ ตนก็กลับเข้ามานอนภายในห้องเวลา 22.00 น. เมื่อเวลา 18.00 น. นายชาตรี น้อยปลา ผู้เสียชีวิต เดินเข้ามาขายปลายังที่บ้านของตน และผู้เสียชีวิตก็กลับออกไปจากบ้าน และไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

ส่วนรอยเลือดบริเวณหน้าปากซอย ตนไม่ทราบเช่นกัน ไม่เห็นไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น ตนมารู้เมื่อเช้าเช่นกัน ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้เข้ามานั่งดื่มด้วย และไม่มีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นเลยด้วย

ทางด้านนายวสันต์ ฮวดสี อายุ 39 ปี ผู้ก่อเหตุ เดินทางมามอบตัว พร้อมเล่าว่า ช่วงที่ตั้งวงกันหลังจากนายแบงค์ พลั้งมือฟาดเข้าที่หน้าผู้เสียชีวิต ตัวเองได้ทำการชกต่อยผู้เสียชีวิต ประมาณ 2-3 ครั้ง และนายกิติศักดิ์ หรือ บูม ได้ร่วมต่อยนายชาตรี 1-2 ครั้ง ตนยอมรับว่าขาดสติเพียงชั่ววูบ และสึกเสียใจกับสิ่งทึ่ทำลงไป อยากจะขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป โดยไม่ยั้งคิดและทำไปโดยพละการ เนื่องจากพิษของแอลกอฮอล์ จนไม่สามารถยั้งคิดได้

อีกทั้งไม่เคยรู้จักผู้ตายมาก่อน ตนมาดื่มสังสรรค์ยังบ้านหลังนี้เป็นประจำ ส่วนทางผู้เสียชีวิตนั้นรู้จักกับเจ้าของบ้าน เพราะได้มีการนั่งดื่มสังสรรค์กันอยู่ภายในวงเหล้า "ตนจะไม่ดื่มอีกต่อไปแล้ว กลัวไปพลาดทำรายร่างกายและเป็นเหตุให้ใครเสียชีวิตอีก"

นายณัฐวุฒิ เหลืองศรพงศ์ หรือ แบงค์ อายุ 30 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนได้เดินทางเข้ามานั่งดื่มเหล้าสังสรรค์ที่บ้านของนายลิน เวลา 22.00 น. นั่งดื่มเหล้ากันทั้งหมด 7 คน รวมผู้ตาย สาเหตุเนื่องจากเจ้าของบ้าน คือนายลิน ได้ไล่นายชาตรี ผู้ตาย ออกจากบ้านเนื่องจากทราบว่าผู้ตายขโมยโทรศัพท์มือถือ แล้วนายชาตรีกลับเข้ามาอีกครั้งนั่งดื่มเหล้าด้วยกัน และระหว่างนั้นผู้ตายมาขอไฟแช็ก และได้มีปากเสียงกัน ตนก็กำลังดื่มเหล้าอยู่ รู้สึกโมโหหงุดหงิด จึงใช้หลังมือฟาดไปที่หน้า

ต่อมานายวสันต์ ฮวดสี อายุ 39 ปี ได้เข้าต่อยผู้เสียชีวิตหลายครั้ง และก็ยังคงนั่งดื่มเหล้ากันเป็นปกติ จนกระทั่งผู้ตายเดินออกจากบ้านและล้มยังปากซอยจัดสรรวัด 6 ทางด้านเพื่อน ๆ ในวงเหล้าก็ต่างวิ่งเข้าไปพยุงและนำกลับมานั่งที่วงเหล้าเช่นเดิม และได้นั่งดื่มอีกสักระยะใหญ่ ไปล้มบริเวณหน้าปากซอยเช่นเดิม สาเหตุจากการล้มและหน้ากระแทกจึงทำให้เลือดไหล

อีกทั้งเพื่อน ๆ วงเหล้า ต่างช่วยกันพาไปล้างหน้า และนำตัวนายชาตรีไปนอนเปลใกล้เคียง และไม่ได้มีใครสนใจ จนกระทั่งทราบเรื่องเมื่อเช้าว่านายชาตรีเสียชีวิต ตนยืนยันว่าไม่มีการรุมทำร้ายร่างกาย ตนเพียงแค่หลังมือฟาดหน้าไปเพียงแค่ครั้งเดียว รู้สึดตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเดินทางเข้ามามอบตัวที่ สภ.บางบัวทอง ทันทีหลังทราบเหตุการณ์

นางสุวรรณา น้อยปลา อายุ 57 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต และครอบครัว เล่าว่าหลังจากตนทราบว่าน้องชายเสียชีวิต รู้สึกตกใจมาก เนื่องจากน้องชายเป็นคนนิสัยดี ไม่มีพิษมีภัยกับใคร ก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านกำลังเดินทางไปทำงาน ตนได้โทรหาให้ซื้อกาวมาให้ที่บ้าน และช่วงเย็นประมาณ 17.00 น. ใกล้เวลาเลิกงาน น้องชายได้บอกว่ากำลังจะไปเหวี่ยงแหหาปลา และก็รอจนกระทั่งดึกดื่นมืดค่ำก็ยังไม่กลับบ้าน จึงโทรศัพท์หาแต่ก็ไม่รับสาย ก็ไม่ทราบเช่นกันว่าไปพักอยู่ที่ไหน

ครอบครัวรู้สึกโกรธเป็นอยากมากเนื่องจากมาทราบว่าทางด้านผู้ก่อเหตุระบุว่าใช้เพียงแค่หลังมือฟาดหน้า 1 ครั้ง และมีคนชกต่อยเพียงแค่ 2 ครั้ง จนทำให้เลือดออกมีแผลเต็มตัว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนมองว่าเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต อยากจะเห็นหน้าของผู้ก่อเหตุว่าจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมถึงฆ่าน้องชายตน ตนมองว่าเจ้าของบ้านอาจจะมีส่วนรู้เห็นด้วย เพราะอยู่ในวงเหล้าด้วย