จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ก.ค.61 น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือ หญิง อายุ 19 ปี ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะเสียชีวิตอย่างปริศนา เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกและสมองบวม โดยนายสุรพล ดาราคำ หรือ อ๊อฟ อายุ 23 ปี ผู้ชายที่ขับรถไปส่งผู้ตาย อ้างว่าผู้ตายกระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ไปเอง ญาติผู้ตายติดใจการตายเพราะเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมมากกว่า โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายอ๊อฟ พร้อมควบคุมตัวไปฝากขังที่ศางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กระทั่งล่าสุด นายสมควร ดาราคำ พ่อของนายอ๊อฟ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ว่า ส่วนตัวคิดว่าน้องหญิงอาจจะพลัดตกรถ เนื่องจากประตูด้านซ้ายของนายอ๊อฟเสีย ปิดได้ไม่สนิท ดังนั้นจึงได้เตรียมทนายความที่จะมาสู้คดีดังกล่าว
วันที่ 30 ส.ค. 61
นายเวชยันต์ ชมภูบุตร ทนายความฝ่ายผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ในคดีนี้ไม่มีประจักษ์พยานในเหตุการณ์ นอกจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ คือผลชันสูตรพลิกศพของผู้ตาย รวมทั้งผลการตรวจหลักฐานในที่เกิดเหตุ ดังนั้นแนวทางการต่อสู้คดีจากนี้ ตนจะนำหลักฐานเดิมที่มีอยู่แล้วในสำนวน ขอให้สำนักงานอัยการภาค 1 มีความเห็นสั่งให้พนักงานสอบสวนในคดีส่งหลักฐานทั้งหมดไปให้สมาคมแพทย์นิติเวชพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากตนไม่มั่นใจในความสามารถของแพทย์ผู้ลงความเห็นการตายของ น.ส.นรีกานต์ ด้วยเหตุผลว่านายแพทย์ผู้ลงความเห็นว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายที่ศีรษะ เป็นแพทย์ที่ไม่ได้จบด้านนิติเวช และเคยถูกสั่งพักใบอนุญาตเนื่องจากลงความเห็นการชันสูตรพลิกศพผิดมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนเคยเดินทางไปขอให้พนักงานสอบสวนส่งข้อมูลการชันสูตรพลิกศพไปให้สมาคมแพทย์นิติเวชแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะมีการสรุปสำนวนส่งไปที่อัยการ แต่ปรากฎว่าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ไม่ดำเนินการให้ จนกระทั่งมีการตั้งข้อหาต่อนายอ๊อฟฐานฆ่าผู้โดยเจตนา
หลังการมาทำคดีนี้ ตนได้มีโอกาสคุยกับผู้ต้องหา ก็ยังคงยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ก่อเหตุฆ่าผู้ตาย เชื่อว่าหากส่งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไปให้สมาคมแพทย์นิติเวช แพทย์จะมีความเห็นกลับจากผลการชันสูตรเดิม ที่ระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายที่ศีรษะ กลับเป็นการพลัดตกจากที่สูงเท่านั้น
อีกทั้งจากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลในที่เกิดเหตุ ยังพบว่าวันดังกล่าวผู้ตายมีอาการมึนเมาสุรา ประกอบกับรถเทรลเลอร์คันเกิดเหตุ ประตูรถชำรุดอยู่ก่อนหน้าแล้ว โดยมีลักษณะปิดไม่สนิท ซึ่งมีผู้ขับขี่รถก่อนหน้านายอ๊อฟทราบข้อมูลดี เนื่องจากเคยพลัดตกขณะรถจอดอยู่แล้วครั้งหนึ่ง จุดนี้จึงอาจทำให้ผู้ตายเกิดพลัดตกระหว่างเดินทางจนกระทั่งเสียชีวิตได้ และขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตัดสินผู้ต้องหาว่าผิด ขอให้รอคำพิพากษาศาลก่อน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง