สืบเนื่องจากครอบครัวหนึ่งย่านลาดพร้าว 47 ป่วยโควิด-19 ยกบ้านรวม 6 คน ซึ่งในจำนวน 3 คนถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลแล้ว จึงเหลือคุณยายอีก 3 คนที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในบ้าน เพราะติดต่อโรงพยาบาลไปแล้วแต่เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าไม่มีเตียงรักษา และแนะนำให้ช่วยเหลือตัวเองก่อน
ล่าสุดวันที่ 25 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณซอยลาดพร้าว 47 แยก 6 โดยที่บ้านของคุณยายทั้ง 3 คนอยู่บริเวณหน้าปากซอย ลักษณะบ้านเป็นอาคารอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 3 คูหาติดกัน แบ่งเป็นร้านขายของและขายเครื่องดื่ม ขณะที่เพื่อนบ้านข้าง ๆ ก็ยังมีเปิดบ้านและใช้ชีวิตกันตามปกติ
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศภายในบ้านพักที่คุณยายทั้ง 3 คนกักตัวอยู่นั้น คุณยายทั้ง 3 คนอยู่ในอาการค่อนข้างหนัก นอนเรียงหน้ากระดานกัน บางรายหายใจติดขัด ไข้ขึ้น หอบ วิงเวียนศีรษะ และไม่สามารถลุกขึ้นเดิน
ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับ "น้ำมนต์" หรือ น.ส.ศิรประภา ลูกสาวของยายเล็ก หนึ่งในคุณยายที่ติดเชื้อโควิด-19 เล่าให้ฟังว่า สำหรับครอบครัวของตนอยู่ด้วยกัน 7 คน ประกอบไปด้วย คุณยายคำ อายุ 83 ปี (ผู้ป่วยติดเตียง), คุณยายน้อย อายุ 73 ปี, คุณยายเล็ก อายุ 65 ปี (แม่), คุณตาเด อายุ 72 ปี (พ่อ), คุณแอ๋ม อายุ 34 ปี (พี่สาว), คุณนัท อายุ 35 ปี (พี่เขย) และตน ส่วนคนในครอบครัวที่ติดโควิด-19 นั้นมีด้วยกัน 6 คน ยกเว้นตนที่ตรวจแล้วไม่เจอเชื้อโควิด-19
โดยต้นเรื่องเชื้อมาจากพ่อของตน ตรวจเจอโควิด-9 เมื่อช่วงต้นเดือนมิ.ย.64 ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาและหายเป็นปกติวันที่ 16 มิ.ย.64 ส่วนคนอื่นในครอบครัวก็ได้ไปตรวจรอบแรกเมื่อต้นเดือนมิ.ย.64 เช่นกัน แต่กลับไม่พบเชื้อ ต่อมาวันที่ 17 มิ.ย.64 คนในครอบครัวได้ตรวจหาเชื้อรอบ 2 พบว่าติดเชื้อกันโควิด-19 ทั้งหมด ยกเว้นตน ซึ่งสาเหตุที่พ่อติดนั้นมาจากครอบครัวเปิดร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อ จึงไม่ทราบว่ามีคนที่ติดเขื้อมาเข้าใช้บริการหรือไม่
ต่อมาวันที่ 18 มิ.ย.64 มีรถโรงพยาบาลมารับตัวพี่สาวไปรักษาตามสิทธิประกันสังคมที่ รพ.เปาโล ขณะที่พี่เขยก็เข้ารับการรักษาตัวที่ฮอสพิเทลเอกชนตามสิทธิพนักงาน ส่วนแม่ของตนและคุณยายอีก 2 ท่านยังไม่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด ทั้งที่ตนและทางครอบครัวประสานงานติดต่อไปที่เบอร์ 1669, 1668,1330 ตั้งแต่วันที่ผลตรวจออก (18 มิ.ย.64) แต่กลับได้คำตอบว่าเตียงเต็ม กรุณารอ ซึ่งพอสอบถามไปยังโรงพยาบาลต้นสังกัดที่แม่และคุณยายมีสิทธิ์รักษา โรงพยาบาลได้แจ้งว่าหากผู้ป่วยตรวจพบเชื้อที่โรงพยาบาลไหน ก็ให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้น ซึ่งแม่และคุณยายตรวจจากรถตรวจพระราชทาน ไม่ได้ตรวจที่โรงพยาบาล จึงค่อนข้างงงว่าจะต้องทำอย่างไร
สำหรับอาการล่าสุดของคุณยายทั้ง 3 คน ค่อนข้างหนัก เริ่มต้นจากคุณยายคำ อายุ 83 ปี (ผู้ป่วยติดเตียง) มีอาการไอ เหนื่อยหอบ ไม่มีโรคประจำตัว, คุณยายน้อย อายุ 73 ปี มีอาการเหนื่อยหอบตลอดเวลา ไอหนักขึ้นทุกวัน มีโรคประจำตัวหอบหืด , คุณยายเล็ก อายุ 65 ปี ทานอะไรไม่ได้ 2 วันแล้ว ไข้ขึ้น ไอ จาม ท้องเสีย ลุกนั่งไม่ไหว มีโรคประจำตัวความดันสูง
ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับ นางสุวิมล ฉ่ำทวี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ส่วนตัวทราบข่าวมาสักพักแล้วว่าครอบครัวของคุณยายติดโควิด-19 ตนและเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง ก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจ หรือหวาดกลัวถึงขั้นไม่กล้าออกมานอกบ้าน แต่รู้สึกเห็นใจเพราะตอนนี้ผ่านมากว่า 7 วันแล้ว ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนติดต่อมารับตัวคุณยายทั้ง 3 คน และอาการค่อนข้างหนัก ประกอบกับ 2 ใน 3 ท่านก็มีโรคประจำตัวด้วย ตนจึงกังวลแทนคนในคอบครัว คาดว่าสาเหตุที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งบ้านแบบนี้ น่าจะมาจากครอบครัวนี้เปิดร้านสะดวกซื้อ มีคนเข้าออกตลอดทั้งวัน
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวนี้ไม่ใช่ครอบครัวเเรกที่ติดเชื้อโควิด-19 เพราะก่อนหน้านี้มีบ้านใกล้เคียงที่เปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ ลูกน้องชาวต่างด้าวก็ติดเชื้อไปแล้ว 1 คน แต่ตรวจพบตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.64 ซึ่งตอนนี้ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว
ต่อมาในเวลา 13.15 น. เจ้าหน้าที่ รพ.เพชรเวช เขตห้วยขวาง กทม. ได้เดินทางมาพร้อมรถพยาบาลจำนวน 2 คัน เพื่อมารับตัวคุณยายทั้ง 3 ท่านไปรักษาตัวที่ รพ.ชลประทาน ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ท่ามกลางมาตรการความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย
