เหยื่อแฉ! ป้าสุดแสบ อ้างหมากัดโชว์แผลเหวอะ รีดเงิน โป๊ะแตกภาพชัดตระเวนหาเหยื่อ (คลิป)

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Naiyasri Changyoo เผยแพร่ภาพและวิดีโอโดยเล่าว่าถูกหญิงมีอายุรายหนึ่งอ้างว่าถูกสุนัขกัด แล้วมาขอเงินค่ารักษาพยาบาล โดยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น.

วันที่ 29 ส.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยได้พบกับ “เจ้ามิกกี้” สุนัขตัวที่ถูกป้าอ้างว่าไปกัดจนเกิดแผล ซึ่งเมื่อพบกับทีมข่าว เจ้ามิกกี้ก็กระดิกหางต้อนรับ และไม่มีท่าทีว่าจะเห่าหรือกัดแต่อย่างใด แม้กระทั่งทีมข่าวลูบหัว หรือจับแยกเขี้ยวก็ไม่มีท่าทีขัดขืน โดยเจ้าของบอกว่า ตั้งแต่เลี้ยงมา 12 ปี เจ้ามิกกี้ไม่เคยกัดใคร

นางอรุณี เข็มกลัด อายุ 61 ปี เจ้าของสุนัข เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนนอนอยู่บนบ้าน หลานชายก็มาเรียกบอกให้ลงไปดูป้าคนนึงที่มาบอกว่าถูกสุนัขกัด เมื่อตนลงมาเจอ ป้าก็ยื่นแผลที่มือให้ดู แล้วเล่าให้ตนฟังว่าป้าถือถุงหมูทอดมา แล้วสุนัขเข้ามางับถุงหมูทอด ป้าพยายามปัดจึงถูกสุนัขกัด โดยแผลที่มือป้าเป็นแผลจริง แต่ไม่ลึกมาก โดยมีลักษณะเป็นรอยถลอก 3 รอย ใส่เบตาดีนมาเรียบร้อย ส่วนถุงหมูทอดที่ป้าอ้างว่าถูกสุนัขแย่งนั้นก็มีรอยขาด ซึ่งตนนำถุงใหม่มาเปลี่ยนให้ป้า

นางอรุณี เล่าต่อว่า จากนั้น ป้าก็อ้างว่าจะไปหาหมอเองที่โรงพยาบาล เพราะเป็นวันอาทิตย์ คลินิกปิดหมด โดยอ้างว่าโทรศัพท์เช็คค่ารักษากับโรงพยาบาลแล้ว ต้องฉีดยา 5 เข็ม เข็มละ 350 บาท เป็นเงิน 1,750 บาท ซึ่งหลานชายตนก็ให้ไป 1,760 บาท ให้เกินเพราะสงสาร โดยตนเพิ่งมาทราบความจริงว่าถูกหลอก ตอนที่คนในละแวกบ้านมาเล่าให้ฟังว่าป้าคนนี้เข้ามาที่บ้านแล้วอ้างว่าถูกสุนัขกัดเช่นเดียวกัน วันรุ่งขึ้นจึงไปขอดูภาพกล้องวงจรปิดจากบ้านตรงข้ามจนกระทั่งทราบความจริงว่าสุนัขตนไม่ได้กัด

ทั้งนี้ นางอรุณี ทิ้งท้ายฝากไปถึงป้าคนดังกล่าวว่า อย่าทำแบบนี้เลย เพราะผู้เสียหายบางคนอาจไม่มีเงิน แต่ต้องไปหาเอามาให้ หากอยากได้เงินก็มาขอกันดี ๆ ก็ได้ ไม่ใช่มาหลอกกันแบบนี้

ด้านแม่ชีสุจารีย์ เผื่อนพันธ์นิด วัดโบสถ์ดอนพรหม ผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ป้าคนดังกล่าวเคยเข้ามาที่กุฏิเมื่อช่วงเดือน ส.ค. 60 โดยอ้างว่าจะเข้ามาเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ที่ชุมชนด้านหลังกุฏิ แล้วมาถูกสุนัขในกุฏิแม่ชีเข้ามาแย่งถุงลูกชิ้นที่ถืออยู่ ทำให้เป็นแผลที่มือ เมื่อตนเห็นแผล พบว่ามีลักษณะเป็นรอยช้ำ แต่ไม่ได้ใส่ยาเบตาดีน จากลักษณะคาดว่าน่าจะเป็นแผลจริง ตนพยายามจะทำแผลให้ แต่ป้าก็พยายามสะบัดมือออกโดยอ้างว่าเจ็บ แต่ตนก็ได้ล้างแผลและใส่เบตาดีนให้ จากนั้นป้าก็เรียกเงินเป็นค่ารักษาพยาบาล จำนวน 2,000 บาท ซึ่งตนไม่มีให้ เนื่องจากขณะนั้นมีเงินติดตัวเพียง 500 บาท จึงบอกไปว่าขอผลัดไป 2-3 วัน ให้เงินเดือนลูกชายออกก่อนแล้วแล้วค่อยมาเอาได้หรือไม่ แต่ป้าไม่ยอม โชคดีที่มีคนที่รู้จักกันมาให้อาหารสุนัขพอดีก็อาสาช่วยออกเงินให้ไปก่อน ป้าจึงกลับไป อย่างไรก็ตาม 1 เดือนต่อมา ป้าได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง แล้วเอาบิลค่ารักษาพยาบาลให้ตนดู และเรียกเงินอีก 1,000 กว่าบาท ตนเห็นค่ารักษาพยาบาลก็หลงเชื่อ แต่ตนไม่มีเงินให้ ก็ต้องหยิบยืมคนรู้จักให้ไปก่อน โดยแม่ชีสุจารีย์ยอมรับว่า วันที่ป้าย้อนมา ประมาณ ก.ย. 60 ไม่ได้ดูวันที่ในบิล ทำให้ไม่ทราบว่าเป็นบิลวันที่เท่าไหร่