สลด! ตาป่วยอัลไซเมอร์ปีนบ้านหลงกลายเป็นศพร่างช้ำ ลูกโต้คนลือกุมารพาไปตาย (คลิป)

กรณีน.ส.ผจนีย์ มั่งคง อายุ 40 ปี ลูกสาวคนที่ 3 ของนายมนตรี มั่งคง อายุ 68 ปี ออกมาเปิดเผยว่า พ่อที่ป่วยโรคอัลไซเมอร์ได้ปีนรั้วบ้านในพื้นที่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี และหนีออกจากบ้านไปช่วงกลางดึกของวันที่ 20 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา 

หลังจากนั้นคนในครอบครัวช่วยกันออกตามหา และปิดประกาศตามที่ต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีใครพบตัว กระทั่งลูกสาวต้องจุดธูปบอกกุมารทองที่เลี้ยงไว้ ก่อนจะไปพบศพว่านายมนตรีเสียชีวิตที่บริเวณป่าใกล้บ้าน สภาพศพอยู่ในพงหญ้า นอนหงายมีร่อยเขียวช้ำตามร่างกาย ที่มือด้านขวากำบุหรี่ไฟฟ้า ด้านหลังมีรอยเจาะหลายจุด โดยแพทย์เวรจะนำศพไปผ่าชันสูตรว่ารอยฟกช้ำต่างร่างกายหลายจุดเกิดจากอะไร เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

ล่าสุดวันที่ 22 มิ.ย.64 ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านจุดเกิดเหตุ พบว่าบ้านของผู้เสียชีวิต เป็นบ้านหลังใหญ่ มีพื้นที่บริเวณรอบบ้าน จากการสังเหตรั่วหน้าบ้านที่ผู้เสียชีวิตปีนหนีออกมานั้น มีความสูงประมาณ 3 เมตร

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ผจนีย์ มั่งคง อายุ 40 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า พ่อของตนป่วยโรคอัลไซเมอร์มานานหลายปีแล้ว และมักจะมีอาการหลงลืม โดยก่อนเกิดเหตุพ่อมักจะแอบปีนรั้วบ้านออกไปด้านนอกบ่อยครั้ง อีกทั้งจะคิดอยู่ตลอดว่า ไม่อยากอยู่บ้านเฉย ๆ อยากจะออกไปสมัครงาน แต่เปิดประตูบ้านไม่ได้ เนื่องจากประตูบ้านเป็นระบบไฟฟ้า และพ่อเป็นผู้สูงอายุ เปิดไม่เป็น แต่เลือกที่จะปีนรั่วบ้านที่มีความสูงประมาณ 3 เมตรออกไปด้านนอก ซึ่งคนในครอบครัวก็จะคอยห้ามเสมอ

กระทั่งวันที่ 20 มิ.ย.64 ช่วงเวลา 01.00 น. พ่อได้ปีนประตูออกไปนอกบ้าน โดยที่คนในครอบครัวไม่รู้ เนื่องจากปกติแล้วพ่อจะนอนอยู่ที่บริเวณโถงชั้น 1 ของบ้าน ซึ่งคนในบ้านมาทราบข่าวอีกที่ในตอนเช้า จึงช่วยกันออกตามหาพ่อ พร้อมทั้งติดแผ่นป้ายประกาศตามหาแต่ก็ไม่พบ หลังจากนั้นตนได้ไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดของทางหมู่บ้าน ปรากฎว่าเห็นพ่อเดินอยู่ในหมู่บ้านจริงก่อนหายไป

ในวันที่ 21 มิ.ย.64 ช่วงเย็น มีชาวบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุไปเก็บยอดกระถิน และได้ไปพบร่างของพ่อนอนอยู่ จึงประสานผู้ใหญ่ในพื้นที่ แจ้งทางครอบครัว และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ หลังทราบเรื่องตนจึงรีบไปยังจุดเกิดเหตุ แต่ปรากฎว่าพ่อกลายเป็นศพอยู่ในพงหญ้า ลักษณะนอนหงาย มีร่อยเขียวช้ำตามร่างกาย ที่มือด้านขวากำบุหรี่ไฟฟ้า ด้านหลังมีรอยเจาะหลายจุด คาดว่าน่าจะเกิดจากถูกเพรียงทะเลบาด ก่อนแพทย์จะนำศพไปผ่าชันสูตรต่อไป

เบื้องต้นทางครอบครัวไม่ติดใจการเสียชีวิตของพ่อ เนื่องจากเชื่อว่าพ่อน่าจะเสียชีวิตจากการขาดอาหาร และจำทางกลับบ้านไม่ได้ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม เพราะพ่อเป็นคนดีและไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร หลังจากนี้ทางครอบครัวจะนำศพพ่อออกจากนิติเวช ไปทำพิธีกรรมทางศาสนา ที่วัดแสมขาวเจริญราษฏร์ ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ตามขั้นตอนของศาสนาต่อไป

นอกจากนี้ น.ส.ผจนีย์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวว่า ตนจุดธูปขอกุมารทอง ที่เลี้ยงไว้ในบ้านให้ตามหาพ่อนั้น ตนยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากตนเลี้ยงกุมารทองไว้ 4 องค์ ชื่อ 1 2 3 4 เลี้ยงไว้ที่ชั้น 2 ของบ้าน ก่อนหน้านี้กุมารทองเคยแสดงปาฏิหาริย์ ทำให้รถของเล่นของลูกชายตนขยับเองได้ ตนจึงมีความเชื่อทางใจและลองจุดธูปขอให้เจอพ่อ กระทั่งก็มาเจอศพพ่อจริง ๆ แต่ในส่วนนี้ตนมองว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และยืนยันว่าการที่พ่อเสียชีวิต หรือการที่ตนเจอศพพ่อนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกุมาร แต่สาเหตุที่พ่อต้องมาเสียชีวิตเป็นเพราะพ่อเป็นโรคอัลไซเมอร์มากกว่า จึงไม่อยากให้นำเรื่องกุมารมาเชื่อมโยงกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกเสียใจ หากมีโอกาสได้พูดกับพ่อเป็นครั้งสุดท้ายก็อยากจะบอกว่า ตนรักพ่อมาก และอยากจะขอโทษพ่อที่ตนดูแลพ่อได้ไม่ดี จนพ่อต้องมาเสียชีวิตแบบนี้ 

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนสุข ระบุว่า หลังเกิดเหตุแพทย์เวรจะต้องนำศพไปผ่าชันสูตรว่ารอยฟกช้ำตามร่างกายหลายจุดเกิดจากอะไร เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต แต่หากทางญาติไม่ติดใจหลังขั้นตอนการชันสูตร ก็จะส่งศพให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตไปทำพิธีกรรมทางขั้นตอนของศาสนาต่อไป